บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เปิดสนามที่ 2 ของภูมิภาคอีสาน เพื่อคัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมโครงการ KTAXA Know You Can Football Youth (U-15) Academy Season 5 โดยเปิดโอกาสให้แก่เยาวชนอายุระหว่าง 13-15 ปี ร่วมฝึกทักษะฟุตบอลตามมาตรฐานสากลจากโค้ชระดับ AFC – A – License ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่ยกระดับทักษะนักฟุตบอลเยาวชนของไทยสู่มาตรฐานระดับโลก และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีผ่านการออกกำลังกาย อีกทั้งยังสอดคล้องกับการเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และร่วมสร้างพลังกายพลังใจ ความเชื่อมั่นในตนเอง ว่าทุกคนทำได้ “Know You Can” โดยเยาวชนที่ได้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษามูลค่าสูงถึง 200,000 บาท และประกันสุขภาพโรคร้ายแรง ทุนประกันรวมกว่า 5,000,000 บาท เยาวชนท่านใดที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ 2 ช่องทาง สมัครทางออนไลน์ได้ตั้งแต่ วันนี้ – 7 กุมภาพันธ์ 2568 หรือ เดินทางมาสมัครที่สนามกีฬากลางจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 7.00 – 8.30น. สำหรับกติกาการคัดเลือก ผู้สมัครสามารถเลือกได้หนึ่งช่องทาง: แสดงทักษะฟุตบอลที่สนามกีฬากลางจังหวัดอุบลราชธานี (รับจำนวนจำกัด) ส่งคลิปวิดีโอแสดงทักษะฟุตบอล ไม่เกิน 3 นาที และส่งมาที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers สำหรับเยาวชนที่สนใจโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามประกาศรายชื่อเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกทาง LINE OA: @ktaxa-u15 หรือ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers
Author: staff
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) มอบโชคในกิจกรรม “OCEAN LIFE ไทยสมุทร 75 ปี แจกทอง 75 บาท” ให้กับลูกค้าที่ทำประกันชีวิตตามเงื่อนไข และลงทะเบียนผ่าน OCEAN CONNECT ตลอดปี 2567 ได้ลุ้นรับ ทองคำโอชิหนัก 1 สลึง จำนวน 300 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท การจับรางวัลในครั้งนี้เป็นการจับผู้โชคดีครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของกิจกรรม สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ https://www.ocean.co.th/ocean-club/oceanlife75th-lucky-draw/result กิจกรรมนี้ถือเป็นการมอบของขวัญให้กับลูกค้าทุกท่าน เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ให้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้ดูแลทุกท่านด้วยพลังแห่งรักมาตลอด 75 ปี และในปี 2568 นี้ยังมีกิจกรรมดีๆ รออยู่อีกมากมาย กดติดตามช่องทาง OCEAN LIFE ไทยสมุทรไว้ได้เลย
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยนายกฤษณ์ จันทโนทก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับกองทัพอากาศ โดยพลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ จัดกิจกรรมมอบผ้าห่มกันหนาว ในโครงการ “ช่วยผู้ประสบภัยกับไทยพาณิชย์” เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี บรรเทาความเดือดร้อน และเติมไออุ่นให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเป็นผ้าห่ม “รักษ์โลก” ที่ทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET (ขวดพลาสติก PET จำนวน 11 ขวด ผลิตได้ 1 ผืน) ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ภายใต้นโยบายด้านความยั่งยืนที่ธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งมั่นดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ยั่งยืน หลังจากที่ได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถลำเลียงผ้าห่มกันหนาว จำนวน 4,000 ผืน ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ กรุงเทพ ฯ เดินทางไปยังกองบินต่าง ๆ แล้ว ผู้แทนธนาคารไทยพาณิชย์และกองบิน รวมถึงชมรมแม่บ้านทหารอากาศได้ลงพื้นที่เพื่อส่งมอบผ้าห่มให้ถึงมือพี่น้องประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ อุดรธานี นครราชสีมา นครสวรรค์ พิษณุโลก ลพบุรี และสระแก้ว เป็นต้น โดยมุ่งเน้นกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง นอกจากจะเป็นการสร้างความอบอุ่น ยังเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจ เติมรอยยิ้ม และมอบความสุข ให้หนาวนี้ไม่หนาวอีกต่อไป
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มทิสโก้ ขึ้นรับมอบรางวัลองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุด (Thailand’s Top Corporate Brand 2024) ประจำปี 2567 ในหมวดธุรกิจธนาคาร ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 ด้วยมูลค่าเเบรนด์ 34,079 ล้านบาท จากศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงาน ASEAN and Thailand’s Top Corporate Brands 2024 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Sustainable Focus ที่มุ่งสร้างผลกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นอกจากนี้ กลุ่มทิสโก้ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ การบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ รางวัล Thailand’s Top Corporate Brand มอบให้แก่องค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดในแต่ละหมวดธุรกิจ โดยพิจารณาจากงานวิจัยของภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งใช้สูตร Corporate Brand Valuation คำนวณมูลค่าผ่านปัจจัยสำคัญ อาทิ ผลประกอบการทางการเงิน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) โดยคำนึงถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มทิสโก้ ในฐานะสถาบันการเงินที่มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
ให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ด้วยแอปพลิเคชั่น TIPlife ของทิพยประกันชีวิต ที่ให้บริการด้านประกันชีวิตแบบครบวงจรบนมือถือ สะดวก ปลอดภัย ครอบคลุมทุกบริการ นายนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “กล่าวว่า ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การได้รับบริการแบบทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง นอกจากความรวดเร็วทันใจแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย ซึ่งแอปพลิเคชั่น “TIPlife” เป็นหนึ่งช่องทางบริการ ของทิพยประกันชีวิต ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านประกันชีวิต ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูล กรมธรรม์ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ สถานะความคุ้มครอง รายละเอียดการชำระเบี้ยประกัน หรือข้อมูลการต่ออายุ ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ในไม่กี่ขั้นตอน สะดวกปลอดภัยด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้การชำระเบี้ยเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือผ่าน QR Code เพื่อให้ไม่พลาดความคุ้มครองเมื่อถึงกำหนดชำระเบี้ย ยิ่งในต้นปีนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการจัดการเรื่องลดหย่อนภาษี แค่กดเข้าแอปไปจัดการแจ้งสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ง่ายๆ นับว่าเป็นการลดขั้นตอนของเอกสารต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าทุกฟีเจอร์ถูกออกแบบมาเพื่อให้การใช้งานง่าย สะดวก และปลอดภัย รองรับทุกอุปกรณ์ และพร้อมใช้งานทุกที่ ทุกเวลา เพื่อประสบการณ์ในการจัดการประกันชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” ทิพยประกันชีวิต เราไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ไม่พลาดทุกความคาดหวังและความต้องการ เพราะลูกค้าคือคนสำคัญ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาด Fed คงดอกเบี้ยระดับ 4.25 – 4.50% ถึงกลางปี 2568 ดันบอนด์ยิลด์ทรงตัวสูงสุดรอบ 17 ปี จับตาผลกระทบตลาดหุ้น! ชี้กลุ่มธนาคารสหรัฐฯ รับอานิสงค์ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี รวมหุ้น “7 นางฟ้า” เสี่ยงถูกกดดัน นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25 – 4.50% ไปจนถึงอย่างน้อยช่วงกลางปี 2568 นี้ และอาจทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) ทรงตัวอยู่ที่ 4.50 – 5.0% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติซับไพรม์ปี 2551 จากประเด็นดังกล่าวส่งผลบวกโดยตรงกับหุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ ที่จะได้รับประโยชน์จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น แต่กดดันตลาดหุ้นโลกโดยรวม โดยเฉพาะหุ้นที่ซื้อขายด้วยมูลค่า (Valuation) สูง “บอนด์ยิลด์ที่ทรงตัวในระดับสูงจะกดดันตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นที่มี Valuation ในระดับที่แพงมาก โดยหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ซื้อขายด้วยระดับราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) สูงถึง 21 เท่า โดยกลุ่มหุ้นที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่ม “7 นางฟ้า” ที่ซื้อขายด้วยระดับสูงนั้นจะถูกกดดันมากเป็นพิเศษ ในทางกลับกันจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ ที่จะได้รับอานิสงส์จากรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้นตามบอนด์ยิลด์” นายคมศรกล่าว สำหรับปัจจัยที่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ 4.25 – 4.50% ไปจนถึงกลางปี 2568 มีดังนี้ เงินเฟ้อสูง – เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2% โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้มีแนวโน้มปรับลดลงตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และได้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.20 – 3.30%…
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีทำบุญตักบาตรอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน119 รูป พิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลและจัดพิธีถวายพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัยผู้ทรงก่อตั้งธนาคาร ไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยแห่งแรกของประเทศ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินกิจการครบ 118 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 30 มกราคม ของทุกปี โดยมี นายประสัณห์ เชื้อพานิช กรรมการ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมด้วยกรรมการ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้บริหารและพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงบริษัทในกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ร่วมในพิธี ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ธนาคารมุ่งมั่นสานต่อปีที่118 ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ ‘Digital Bank With Human Touch’ ผสาน กับบริการอย่างลงตัว เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกช่วงชีวิต โดยใช้ยุทธวิธี ‘AI-First Bank’ ที่มี AI ขับเคลื่อนองค์กร โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง การเน้นนวัตกรรมที่ยั่งยืนช่วยให้ธนาคารขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้ก้าวหน้าและมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด
LINE BK ผู้นำด้าน Social Banking ของไทย ประกาศความสำเร็จในปี 2567 ด้วยยอดผู้ใช้งานกว่า 7.4 ล้านรายทั่วประเทศ และยอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 22,000 ล้านบาท สะท้อนความไว้วางใจจากลูกค้า ในปี 2568 LINE BK มุ่งพัฒนาบริการด้วยเทคโนโลยี AI และเตรียมพร้อมสู่ยุค Virtual Bank เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในโลกการเงินดิจิทัล ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 LINE BK สร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนลูกค้าใช้บริการสินเชื่อกว่า 700,000 บัญชี และยอดสินเชื่อที่ปล่อยรวมตั้งแต่เปิดให้บริการสูงกว่า 98,000 ล้านบาท พร้อมยังคงบริหารจัดการพอร์ทสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาอัตราหนี้เสีย (NPL) ที่ 3% ในส่วนของบริการด้านประกัน โดยบริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ประกันชีวิต มีหนี้ไม่มีห่วง” และ “ประกันออมทรัพย์ ออมใจ 11/5” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และล่าสุดได้เปิดตัว “ประกันชีวิตเบาใจ 10/10” เมื่อต้นเดือนมกราคม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงความคุ้มครองที่ตอบโจทย์และเหมาะสมกับความต้องการมากยิ่งขึ้น สำหรับปี 2568 ทิศทางการดำเนินงานของ LINE BK จะมุ่งเน้น 3 แนวทางหลักดังนี้ 1. พัฒนาบริการการเงินที่ครบวงจร LINE BK มุ่งยกระดับแพลตฟอร์มให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี AI ที่คาดการณ์ความต้องการทางการเงินได้อย่างแม่นยำและตอบสนองได้ทันที เตรียมพร้อมสู่ยุค Virtual Bank และโลกแห่ง AI เพื่อรองรับทุกความต้องการอย่างครบถ้วน 2. ขยายฐานลูกค้า LINE BK จะมุ่งเน้นการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ โดยใช้ข้อได้เปรียบของฐานผู้ใช้งาน LINE ที่มีจำนวนถึง 56 ล้านคน…
บลจ.ทิสโก้สุดปลื้ม บริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล ทริกเกอร์ 5M#1 (TUSFINT5M1) ถึงเป้าหมายใน 1 เดือน 9 วัน ชี้เร็วๆ นี้เตรียมอออกกองทริกเกอร์ใหม่เพิ่มโอกาสสร้างกำไรให้กับลูกค้า นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า จากที่ บลจ.ทิสโก้มองเห็นโอกาสลงทุนในหุ้นการเงินสหรัฐฯ โดยประเมินว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงกำไรมีโอกาสปรับขึ้นนั้น ล่าสุด หุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ออกมาดีกว่าคาด ทำให้บลจ.ทิสโก้ สามารถบริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล ทริกเกอร์ 5M#1 (TUSFINT5M1) ระดับความเสี่ยง 7 (ความเสี่ยงสูง) ลงทุนในกองทุน Financial Select Sector SPDR Fund ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Financial Select Sector ถึงเป้าหมาย 5% มีมูลค่า NAV เท่ากับ 10.5798 บาท ต่อหน่วยในวันที่ 27 มกราคม 2568 ทั้งนี้ การบริหารกองทุน TUSFINT5M1 ให้ถึงเป้าหมายในครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาบริหาร 1 เดือน 9 วัน นับจากวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นวันจัดตั้งกองทุน นับเป็นกองทุนแรกที่ถึงเป้าหมายในปีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นมืออาชีพและเป็นตัวจริงในการบริหารกองทุนทริกเกอร์ของ บลจ.ทิสโก้ได้เป็นอย่างดี และในเร็วๆ นี้ บลจ.ทิสโก้เตรียมนำเสนอกองทริกเกอร์อีกครั้ง เพราะมองเห็นโอกาสการลงทุนในช่วงที่หุ้นบางกลุ่มปรับลดลง โดย ณ วันที่ 27 มกราคม 2568 บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์มาแล้วทั้งหมด…
Orbix Technology และ D3 Labs ผู้ให้บริการโซลูชันในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนชั้นนำ ประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนและเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับบริการทางการเงินในไทย อินโดนีเซีย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือครั้งนี้จะนำเอาโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน Quarix ของ Orbix Technology ร่วมกับระบบนิเวศ SeaSeed Network ของ D3 Labs มาพัฒนานวัตกรรมทางการเงินให้มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสามารถเติบโตได้ พร้อมทั้งสอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานการกำกับดูแลของทั้งสองประเทศ นายญาณวิทย์ รักษ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด (Orbix Technology) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันที่รองรับทั้งภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะการยกระดับการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างไทยและอินโดนีเซียด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าอัตราการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราจึงมุ่งมั่นในการช่วยผลักดันให้ประสบการณ์การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้นผ่านโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน Orbix Technology จึงร่วมมือกับ D3 Labs ในการพัฒนาและแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อมูลที่สำคัญ เพื่อบรรลุเป้าหมายของความร่วมมือทางธุรกิจ พร้อมทั้งรับรองว่าโซลูชันทั้งหมดจะสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแล ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและผลักดันการนำไปใช้จริง ภายใต้ “โครงการบล็อกเชนเพื่อนวัตกรรมทางการเงิน” โดยมุ่งหวังสร้างระบบนิเวศการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีต้นทุนต่ำและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนี้: ระบบ Smart Contracts: การพัฒนา smart contract ให้มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อรองรับการชำระเงินแบบอัตโนมัติและไร้รอยต่อ ความรวดเร็วและประสิทธิภาพของธุรกรรม: การพัฒนาบล็อกเชนเพื่อลดระยะเวลาในการชำระบัญชี เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และยกระดับประสบการณ์การใช้งานข้ามพรมแดน ความปลอดภัยและการกำกับดูแล: การพัฒนาระบบที่รองรับความเป็นส่วนตัว ความโปร่งใส และสอดคล้องกับกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการธุรกรรมทั้งหมด ด้านนาย Lai Chung Ying ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ D3 Labs กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือกับ Orbix Technology ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติการบริการทางการเงิน โดยการผสมผสานความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีบล็อกเชนของทั้งสององค์กร เรามุ่งมั่นที่จะสร้างโซลูชันเพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพ พัฒนานวัตกรรม และรักษามาตรฐานการกำกับดูแลในระบบนิเวศการเงินดิจิทัลให้มีความยั่งยืนในอนาคต โดยเป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือ การยกระดับศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเป็นผู้นำการพัฒนานวัตกรรมที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกรรมทางการเงินทั่วโลก โดยวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่าง D3…