Author: staff

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เนื่องในวาระวันคล้ายวันสถาปนาธนาคารออมสิน วันที่ 1 เมษายน 2568 ธนาคารได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการออมให้ประชาชนครั้งใหญ่ ประเดิมด้วยแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” กับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลากและสลากดิจิทัล ลุ้นรับรางวัลพิเศษมูลค่ารวม 100 ล้านบาท มอบโชคสำหรับผู้ถูกรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น และรางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล สำหรับผู้ฝากสลากตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม 2568 ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาและแอปพลิเคชัน MyMo ทั้งนี้ เมื่อฝากสลากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ย 0.20 บาทต่อหน่วย และมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายทุกเดือน โดยดอกเบี้ยและเงินรางวัลสำหรับบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ธนาคารยังจัดเตรียม “เงินขวัญถุง” มอบให้เด็กที่เกิดในวันคล้ายวันสถาปนาธนาคาร วันที่ 1 เมษายน 2568 จำนวน 500 บาทต่อราย เพื่อเป็นเงินออมตั้งต้นและช่วยปลูกฝังวินัยการออมตั้งแต่แรกเกิด โดยบิดาหรือมารดาของเด็กที่มีสัญชาติไทย สามารถนำสูติบัตรฉบับจริงของเด็ก พร้อมบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของบิดาหรือมารดา มาแสดงตนได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 และเพื่อสร้างนิสัยการออมให้แก่เยาวชน ธนาคารยังได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก Smart Junior เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 7 – 23 ปี โดยเป็นเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยพิเศษเมื่อฝากเงินอย่างสม่ำเสมอและมียอดเงินฝากคงเหลือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น…

Read More

เพื่อนคู่คิดเคียงข้างให้กำลังใจ–นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 5 จากซ้าย) นายสุวิทย์ อินทรเฉลิม เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ที่ 3 จากซ้าย) นางนฤมล เข็มวิลาศ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Assistant Vice President ผู้จัดการภาคนครหลวง 5 (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงาน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” จัดกิจกรรมบำรุงขวัญและเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ป่วยทหาร-ตำรวจ-อาสาสมัคร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 36 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2568 โดยมี พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ที่ 6 จากขวา) แพทย์หญิงจิตติมา ปรีชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก (ที่ 7 จากขวา) และ นางอานุสรา โรจนประดิษฐ นายกสมาคมแม่บ้านองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ที่ 5 จากขวา) พร้อมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลทหารผ่านศึกร่วมกิจกรรมและให้การต้อนรับ ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โอกาสนี้ ผู้ป่วยทหารผ่านศึก ตำรวจ และอาสาสมัคร ที่บาดเจ็บจากการเสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ รวมจำนวน 69 คน ให้เกียรติร่วมกิจกรรม โดยธนาคารได้จัดกิจกรรมสร้างความบันเทิง ประกอบด้วย ชุดการแสดงนาฎศิลป์ไทยโดยนิสิตจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และการแสดงดนตรีจากวงดนตรีกรมดุริยางค์ทหารบก รวมถึงจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบเงินบำรุงขวัญ และ ‘ถุงบัวหลวงห่วงใย ใส่ใจทหารผ่านศึก’ ซึ่งบรรจุของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันสำหรับเหล่าผู้ป่วยทหารผ่านศึก ตำรวจ และอาสาสมัคร./

Read More

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในงานเปิดโครงการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในอุตสาหกรรมประกันภัย หรือ Open Insurance ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว โดยมีสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย ผู้บริหารจากบริษัทประกันภัย และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานกว่า 200 คน เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า Open Insurance ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนและยกระดับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย สู่ยุคดิจิทัล โดยการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำในการให้บริการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับ ความต้องการของผู้บริโภค สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการประกันภัย ทั้งยังช่วยป้องกันการฉ้อฉลในธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยการใช้ข้อมูลที่เชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบ Open Insurance นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการกำกับดูแลเชิงป้องกัน (Preventive Supervision) และนำข้อมูลไปใช้ในการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างโอกาสให้หน่วยงานกำกับดูแล ภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไปข้างหน้าอย่างมั่นคง “การประชุม Kick off โครงการ Open Insurance ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่จะนำไปสู่การพัฒนาด้านการประกันภัยไทยอย่างยั่งยืน สำนักงาน คปภ. พร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันให้การใช้ระบบ Open Insurance เป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมประกันภัยไทย การนำระบบ Open Insurance เข้ามาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพิ่มการขยายโอกาสทางธุรกิจ และเสริมสร้างความโปร่งใสให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาได้อย่างเป็นระบบ และสามารถนำไปใช้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ระบบนิเวศข้อมูลที่ได้มีมาตรฐาน โปร่งใส และปลอดภัย เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้พร้อมแข่งขันในระดับสากล” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

Read More

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับ เอ ไลฟ์ (ALive Powered by AIA) โดยบริษัท เอไอเอ เวลเนส จำกัด ส่งความห่วงใยถึงคนไทยทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เปิดตัวแคมเปญ “ฟรี!!! กรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวรันส์)” โดยมอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม (ไมโครอินชัวรันส์) ฟรีให้แก่ประชาชนทั่วไป ระยะเวลาคุ้มครองนาน 30 วัน ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตามจำนวนที่จ่ายจริงสูงสุด 5,000 บาท* เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปเยี่ยมเยียนครอบครัวและวางแผนเดินทางท่องเที่ยว โดยแคมเปญดังกล่าวยังเป็นการขานรับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตลอดจนตอกย้ำถึงพันธกิจของเอไอเอที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงการประกันภัยเพื่อความอุ่นใจยิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมให้คนไทยได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่มีอายุระหว่าง 20 – 70 ปี* สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มฟรี เพียงไปที่เว็บไซต์ เอไอเอ หรือคลิกลิงก์ https://shorturl.at/djWlw ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2568 See less

Read More

เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ เดินหน้ามอบความคุ้มครองเชิงรุกผ่านแคมเปญล่าสุด “Fight Dengue” ภายใต้โครงการ “Healthier You เริ่มต้นที่การฉีดวัคซีน” มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเอไอเอให้สามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปี เพื่อป้องกันความรุนแรงจากการติดเชื้อโรคที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกที่ปัจจุบันถือเป็นภัยเงียบสำหรับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และมีอัตราการระบาดได้ทุกฤดูตลอดทั้งปี ซึ่งวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ดังนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญ “Fight Dengue” ที่เอไอเอมุ่งเสริมเกราะป้องกันโรคไข้เลือดออกให้กับคนไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยรุนแรงและภาระค่ารักษาพยาบาล พร้อมส่งเสริมให้คนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ โดยในงานยังได้ คุณชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ และคุณวิกกี้ สุนิสา เจทท์ มาร่วมพูดคุยเรื่องการดูแลสุขภาพและการป้องกันให้ห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองและคนในครอบครัว

Read More

กสิกรไทยออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยมาตรการพักชำระเงินต้น ผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยนานสูงสุด 3 เดือน วงเงินสินเชื่อที่กู้เพิ่มได้เพื่อซ่อมแซมบ้านและสถานประกอบการ และสินเชื่ออื่นๆ พร้อมแนะแนวทางการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ธนาคารตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของลูกค้า จึงรีบดำเนินการเร่งด่วนออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ โดยมีรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือดังนี้ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบุคคล 1. สินเชื่อบ้านกสิกรไทย พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน 2. สินเชื่อบ้านกู้เพิ่มได้เพื่อซ่อมแซมบ้าน อัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือน ฟรีค่าประเมินหลักประกัน 3. บัตรเครดิตกสิกรไทย, สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan และบัตรเงินด่วน Xpress Cash พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน 4. สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% ระยะเวลา 3 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อน 3 เดือน มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจ 1. วงเงินสินเชื่อเดิม พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน 2. สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมสถานประกอบการ ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี ดอกเบี้ย 3.5% ใน 2 ปีแรก โดยให้พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่ทำประกันที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินกับธนาคารกสิกรไทยสามารถติดต่อแจ้งเคลมประกันกับ บมจ.เมืองไทยประกันภัย Call Center 1484 หรือ Line @mtifriend และเตรียมเอกสารแจ้งเคลมดังนี้ แบบฟอร์มแจ้งเรียกร้องค่าสินไหม ใบเสนอราคาค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน หรือใบเสร็จรับเงิน เอกสารส่วนตัว ภาพถ่ายความเสียหาย และเอกสารอื่นๆ ตามที่บริษัทแจ้งขอ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อเพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2568 โดยลูกค้าบุคคลติดต่อได้ที่ K-Contact Center 02-8888888…

Read More

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยในงานแถลงข่าวมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาด้านการประกันภัย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวว่า สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย กำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัยแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยสำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชนและผู้เอาประกันภัยอย่างเร่งด่วนทันทีที่ทราบข่าวสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ได้ประสานงานกับ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และประสานขอทราบรายชื่อผู้สูญหายหรือติดในซากอาคารพร้อมหลักฐานอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบและเตรียมการสำหรับการเยียวยาด้านการประกันภัยต่อไป รวมถึงจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย ณ สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเตรียมพร้อมให้บริการข้อมูล และการช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างทันท่วงที เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งได้รับความเสียหาย มีการทำประกันภัย Construction All Risk (CAR) ไว้กับบริษัทประกันภัย 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมีสัดส่วนการรับประกันภัยอยู่ที่ 40%, 25%, 25% และ 10% ตามลำดับ รวมมูลค่าความคุ้มครอง 2,241,000,000 บาท พร้อมย้ำว่าความเสียหายนี้จะไม่กระทบต่อความมั่นคงของบริษัทประกันภัยทั้ง 4 บริษัทประกันภัยที่ร่วมรับประกันภัยอย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงโดยการประกันภัยต่อ (Reinsurance) กับบริษัทประกันภัยต่อต่างประเทศ และจากการตรวจสอบดัชนีวัดความมั่นคงบริษัทประกันภัยตามกฎหมาย พบว่าบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยทั้งระบบยังมีความมั่นคงในระดับดีมาก โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio) อยู่ที่ระดับเกือบ 300% ซึ่งสูงกว่า ที่กฎหมายกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 100% ดังนั้น หากบริษัทประกันภัยทั้ง 4 แห่ง มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มวงเงินรับประกันภัย จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทข้างต้น…

Read More

ตามที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่านั้น ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มี “อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่” (อาคาร สตง.) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ถล่มลงมาทั้งหลัง โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าว ได้มีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัยร่วมจำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ. ทิพยประกันภัย สัดส่วน 40% บมจ. กรุงเทพประกันภัย 25% บมจ.อินทรประกันภัย 25% บมจ.วิริยะประกันภัย 10% โดยมีทุนประกันภัยเป็น 3 หมวด ดังนี้ 1) มูลค่างานก่อสร้างตามสัญญา 2,136 ล้านบาท 2) ทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง 5 ล้านบาท 3) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 30 ล้านบาทต่อครั้ง และ 100 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีเงื่อนไขความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง 20% ของความเสียหายสำหรับแต่ละเหตุการณ์ ซึ่งในส่วน 40% ของทิพยประกันภัยนั้น บริษัทฯ ได้มีการจัดทำประกันภัยต่อไว้ในสัดส่วน 95% ของทุนเอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลกที่มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Credit Rating) ไม่ต่ำกว่า A นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกินสำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย (XOL) ไว้อีกด้วย ดังนั้น ทิพยประกันภัยยืนยันว่า แม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในกรณีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ อนึ่งในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีอาคาร สตง. นั้น จะต้องพิจารณาถึงมูลค่าของอาคาร ณ เวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการพิจารณาว่าอาคารดังกล่าว ได้มีการดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเป็นร้อยละเท่าไรของมูลค่าโครงการทั้งหมด เช่น หากการก่อสร้างแล้วเสร็จ 50% ความเสียหายที่จะได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยก็จะเป็นเพียง 50% ของทุนเอาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ มูลค่าของโครงการนี้ ณ วันเวลาที่เกิดเหตุจะถูกประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดเตรียมทีมงานและความพร้อมในการรับแจ้งเคลมตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเพื่อตอบข้อซักถาม และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยพร้อมที่จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อแจ้งเคลมและขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าของทิพยประกันภัย โทร. 1736 กด…

Read More

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ยืนยันว่าบริษัทประกันชีวิต ทุกบริษัทได้มีการเตรียมพร้อมรองรับภาวะฉุกเฉิน เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัย ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยสามารถใช้บริการต่าง ๆ เช่น การเรียกร้องสินไหมทดแทน การเรียกร้องเคลมค่ารักษาพยาบาล และบริการอื่น ๆ ที่จะช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความสะดวกมากที่สุดภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งการใช้บริการขั้นต้นสามารถดำเนินการผ่านช่องทางในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของบริษัท สาขา ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ แชตบอท เฟสบุ๊ค ไลน์ออฟฟิศเชียล รวมถึงแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

Read More

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน 1.65% ต่อปี รับความต้องการลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ เปิดเสนอขาย 1 – 8 เมษายน 2568 นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan Managing Director of TISCOASSET) เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับลูกค้าที่รับได้ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ ประกอบกับ กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 5 (TGOV7M5) ครบกำหนด ในวันที่ 3 เมษายน 2568 นี้ บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) ความเสี่ยงระดับ 3 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ) ลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รวมกันไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กลยุทธ์การลงทุนครั้งเดียว (buy-and-hold) เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 1 – 8 เมษายน 2568 ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับเมื่อรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติอยู่ที่ 1.65% ต่อปี โดยคำนวณจากตราสารที่ลงทุน* ในตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร/ผู้ออกตราสารอยู่ที่ AAA หรือ พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งประมาณการผลตอบแทนของตราสารในรูปเงินบาท อยู่ที่ 1.78% *** ต่อปี มีสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ* ที่ 100% จากการลงทุนดังกล่าว บลจ.ทิสโก้ประมาณการผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับในรูปเงินบาทอยู่ที่ 1.78% ต่อปี เมื่อหักประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน** ที่ 0.13% ต่อปีแล้ว จะได้ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับเมื่อรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติอยู่ที่…

Read More