เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรม “ค่ายเพาะสุขปลูกจิตอาสา” เพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ดีและปลูกฝังจิตสำนึกด้านจิตอาสาให้กับสมาชิกในครอบครัวของพนักงานที่มีอายุระหว่าง 4–17 ปี รวมจำนวนทั้งสิ้น 60 คน โดยมุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรง พร้อมส่งต่อความสุขให้แก่สังคม ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสนุกสนานตลอดทั้งวัน นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรในองค์กรซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมความผูกพันระหว่างองค์กรกับพนักงานในรูปแบบที่สร้างคุณค่าอย่างรอบด้าน โดยไม่เพียงมุ่งเน้นที่การดูแลพนักงานในมิติของการทำงานเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลในชีวิตและครอบครัว (work-life balance) อีกด้วย กิจกรรม “ค่ายเพาะสุขปลูกจิตอาสา” จึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ และปลูกฝังคุณค่าที่ดีให้กับบุตรหลาน ผ่านกิจกรรมที่อบอุ่น เป็นกันเอง และเปี่ยมไปด้วยความหมาย ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของบริษัทในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน สำหรับวัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อส่งเสริมจิตสำนึกในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมในกลุ่มเยาวชน ตลอดจนการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย และยังเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดูแลและสร้างความผูกพันกับพนักงาน (employee engagement) ภายในงาน เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรมที่สนุกสนานและผสมผสานด้วยสาระ อาทิ กิจกรรมทำกระเป๋าผ้าใส่ยา eco-print เพื่อส่งมอบให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในการแบ่งปันและการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เกมเตรียมความพร้อมบริหารจัดการด้านการเงิน เพื่อให้เยาวชนเรียนรู้เรื่องการวางแผนการเงินเบื้องต้น กิจกรรม DIY คัปเค้ก ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ใช้จินตนาการตกแต่งหน้าขนมด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีพนักงานจิตอาสาของบริษัทมาร่วมทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับน้องๆ ตลอดกิจกรรม พร้อมกันนี้ เด็กทุกคนยังได้รับ “แก้วน้ำ น้องรักษ์ยิ้มให้” เพื่อนำมาใช้ดื่มน้ำตลอดวัน ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง กิจกรรม “ค่ายเพาะสุขปลูกจิตอาสา” ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และความสุขสำหรับเยาวชนและครอบครัวพนักงาน แต่ยังเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของบริษัทในการ “ปลูกต้นกล้าแห่งความดี” ส่งต่อแรงบันดาลใจและความสุขที่เชื่อมโยงครอบครัวพนักงานเข้ากับองค์กรอย่างแน่นแฟ้น ตลอดจนมอบสิ่งที่ดีคืนให้แก่สังคมในวงกว้างอย่างยั่งยืน “บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความดีที่เราร่วมกันหว่านลงไปในวันนี้ จะเติบโตเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงในวันข้างหน้า และขอขอบคุณทุกแรงใจที่ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมครั้งนี้ให้เปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะทุกรอยยิ้ม ทุกความสุข และทุกบทเรียนที่เกิดขึ้น คือพลังสำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรและสังคมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายสาระกล่าวสรุป #เมืองไทยประกันชีวิต #MuangThaiLife
Author: staff
นายบุญเติบ จีรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย (ซ้าย) และนายคณาธิป ธีรทีป หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์และลูกค้าโพสต์เพด AIS (ขวา) ร่วมเปิดตัวความร่วมมือสนับสนุนร้านค้าออนไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้าน ผลักดันยอดขายโต โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS ที่สมัครแพ็กเกจค้าขายออนไลน์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ แพ็กเกจ AIS 5G Social Commerce, AIS 5G Seller และ AIS 5G TikTok Shop รับสิทธิ์ใช้งานแพ็กเกจ K SHOP Pro ในแอปพลิเคชัน K SHOP แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ฟรี 30 วัน มูลค่า 299 บาท และรับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s Gift Card มูลค่า 100 บาท เมื่อเชื่อมต่อ K SHOP Pro กับ Facebook Page หรือ Line OA ของร้าน หรือเมื่อสมัครใช้งานเครื่องรับบัตรพกพา (mPOS) ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 ลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครแพ็กเกจได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ ศึกษารายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ https://www.ais.th/rsme/kshop-pro หรือสอบถาม K-BIZ Contact Center โทร. 02-8888822
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขอเชิญชวนเที่ยว ชิม ช็อป สุดยอดผลไม้ไทยหลากหลายชนิด รวมทั้งสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับพรีเมียม ของเด็ดและดีจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ มากกว่า 50 ร้านค้า มาไว้ในงานตลาดนัด BAAC Market ในธีม “Thai Fruit Fair” ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณด้านหน้า ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ นายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทยและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าประชาชนได้มีโอกาสได้เลือกซื้อสินค้าเกษตรระดับพรีเมียมและผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพดีหลากหลายจากเกษตรกรและชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะผลไม้ประจำฤดูกาล เช่น ทุเรียน มะม่วง ลิ้นจี่ ฝรั่ง และกล้วยหอมทอง เป็นต้น มาให้คนรักผลไม้ได้ตะลุยชิมและเลือกซื้อในราคากันเอง ธ.ก.ส. จึงได้จัดงาน ตลาดนัด BAAC Market ภายใต้ธีม “Thai Fruit Fair” โดยนำร้านค้ามากกว่า 50 แห่ง ที่คัดสรรผลไม้ของดีของเด็ดส่งตรงจากเกษตรกร อาทิ โต้งทรายระยอง จ.ระยอง และ วสช.คนรักเกษตร จ.เพชรบุรี ทุเรียนเกรดพรีเมียม รสชาติหวาน กรอบ อร่อยแบบธรรมชาติ วสช.บ้านดงแปรรูปผลไม้ จ.นครนายก ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปอบแห้ง ไม่ว่าจะเป็นกล้วยฉาบ มะขามคลุกน้ำตาล รวมทั้งมังคุด กระท้อน หวาน อร่อย ลูกใหญ่สดจากสวน อิ่มเอม มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร น้ำมะพร้าว สด ๆ หอมหวาน แท้ 100 % วาสานาเมล่อนฟาร์ม จ.สระบุรี เมล่อนและแคนตาลูป คัดสรรคุณภาพได้มาตรฐาน อย. GAP และ Thai GAP…
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วย คณะผู้บริหารระดับสูง และพนักงานธนาคาร ร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล และถวายพระพร ชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยพิธีดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ณ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน กรุงเทพมหานคร
ธนาคารกรุงเทพร่วมลงนาม MOU โครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำของประกันสังคม วงเงิน 3,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 2.35%-4.75% ต่อปี หวังช่วยผู้ประกอบการกัดฟันสู้สถานการณ์ค่าแรงพุ่ง ย้ำเงื่อนไขต้องรักษาจำนวนลูกจ้างไม่น้อยกว่า 80% ชูความเป็น ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน’ เคียงข้างผู้ประกอบการและสังคมไทยในทุกสถานการณ์ นายศิริเดช เอื้องอุดมสิน รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เข้าร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานประกันสังคม สนับสนุน “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ระยะที่ 3 (พ.ศ.2568-2569) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้รับการจัดสรรวงเงินปล่อยสินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินทั้งโครงการที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งระดับวงเงินสินเชื่อตามขนาดธุรกิจ ดังนี้ วงเงิน 15 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน วงเงิน 30 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้าง 201-500 คน วงเงิน 50 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างเกิน 500 คนขึ้นไป สินเชื่อมีระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ โดยผู้ประกอบการต้องรักษาจำนวนลูกจ้างไม่น้อยกว่า 80% ตลอดอายุโครงการ อัตราดอกเบี้ย 2.35% ต่อปี (คงที่ 3 ปี) สำหรับผู้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี (คงที่ 3 ปี) สำหรับผู้ไม่มีหลักทรัพย์ แต่ใช้การค้ำประกันโดยบุคคล นิติบุคคล หรือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทั้งนี้ ธนาคารสงวนสิทธิในการพิจารณาสินเชื่อ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคาร “ธนาคารเชื่อมั่นว่า โครงการนี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาระดับการจ้างงานและเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ธุรกิจเริ่มฟื้นตัวและต้องการแรงงานเพื่อขับเคลื่อนการผลิตให้ทันต่อความต้องการตลาด ขณะเดียวกันยังช่วยให้ลูกจ้างมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงของครอบครัว ลดความเสี่ยงด้านสังคม และทำให้ภาคการบริโภคยังคงเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว และถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจของธนาคารกรุงเทพในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน’ ที่พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการและสังคมไทยในทุกสถานการณ์”…
เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรหลักระดับโลกของสโมสรฟุตบอลท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ร่วมสนับสนุนกลุ่มแฟนบอลสเปอร์ส – Spurs Thailand Official Supporters Club จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสที่สเปอร์สสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2025 สมัยที่ 3 ซึ่งถือเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ถ้วยแรกในรอบ 41 ปี นับตั้งแต่แชมป์ยูฟ่าคัพเมื่อปี 1984 นอกจากนี้ยังถือเป็นความสำเร็จในระดับเมเจอร์ที่รอคอยมายาวนานถึง 17 ปี โดยได้มีการจัดขบวนแห่ถ้วยแชมป์ และรับชมการแข่งขันแมตช์สุดท้ายของสเปอร์สในฤดูกาลนี้ร่วมกัน ซึ่งมีแฟนคลับสเปอร์สมาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคักกว่า 300 คน จัดขึ้น ณ ร้าน Hops and Hope Craft Bar เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’
กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย นายจักรพงศ์ แสงแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้าสนับสนุนเยาวชนไทยผ่านกิจกรรมฟุตบอลสุดพิเศษ “BGPU FOOTBALL CARNIVAL 2025 U10 PRESENTED BY BANGKOK LIFE ASSURANCE” ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับสโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน กิจกรรมในครั้งนี้เปิดโอกาสให้น้อง ๆ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี จากทั่วประเทศ ได้เข้าร่วมการแข่งขันรวม 32 ทีม โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ทักษะการทำงานเป็นทีม และความมีน้ำใจนักกีฬา ในปีนี้ กรุงเทพประกันชีวิตยังได้สนับสนุนเยาวชน จากกรมกิจการเด็กและเยาวชน ในนาม “ทีม Bangkok Life” เข้าร่วมการแข่งขัน และสามารถสร้างความประทับใจด้วย ผลงานที่โดดเด่นในรอบชิงชนะเลิศ ณ สนาม Yamaoka Hanasaka Academy (YHA) เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเยาวชนไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่ออนาคตที่สดใสของเด็กไทยทุกคน
orbix INVEST เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ในกลุ่ม Stablecoin ภายใต้ชื่อกลยุทธ์ OBX-STABLECOINPLUS มุ่งสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตของผู้ลงทุนไทย ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงภายในพอร์ตและบริหารสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ วางกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวโดยไม่ต้องออกจากระบบสินทรัพย์ดิจิทัล และใช้เป็นทางเลือกในการบริหารเงินทุนระยะสั้นระหว่างรอโอกาสลงทุนถัดไป โดยสามารถสับเปลี่ยนกลยุทธ์มายัง OBX-STABLECOINPLUS ได้โดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ออกหรือเสียค่าธรรมเนียมการเพิ่มทุน ดร.ธนภูมิ ดำรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ อินเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า orbix INVEST ดำเนินธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) ในเครือบริษัท ออร์บิกซ์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย นำเสนอทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน Stablecoin กำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในโครงสร้างหลักของระบบการเงินดิจิทัลระดับโลก โดย Stablecoin คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าคงที่หรือมีความผันผวนน้อยมาก มักตรึงมูลค่าไว้กับสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) จึงสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน พักเงิน หรือบริหารสภาพคล่องในพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำหน้าที่เชื่อมระหว่างโลกการเงินดั้งเดิมกับเศรษฐกิจดิจิทัลในยุคใหม่ orbix INVEST จึงมีแผนที่จะเปิดตัวกลยุทธ์ OBX-STABLECOINPLUS ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เน้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท USD Stablecoin เช่น USDC โดยเฉลี่ยในรอบปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าเงินลงทุน ขณะเดียวกันอาจพิจารณาลงทุนในเงินสดหรือ Stablecoin อื่น ๆ ไม่เกิน 20% โดย USDC เป็น Stablecoin ที่ออกโดยบริษัท Circle ซึ่งได้รับการกำกับดูแลจาก US Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) สหรัฐฯ และมีการตรวจสอบเงินสำรองรายเดือนโดย Deloitte ซึ่งแสดงให้เห็นว่า USDC มีสินทรัพย์หนุนหลังครบ 100% ประกอบด้วยเงินสดราว 20% ที่ฝากไว้กับธนาคารขนาดใหญ่ และอีกประมาณ 80% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุไม่เกิน 90 วัน ปัจจุบัน USDC มีมูลค่าหมุนเวียนกว่า…
ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายพิชา รัตนธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจธนบดี และบริการธนาคาร จัดงานสัมมนา “Fight for Opportunties :เปิดศึก Battle กองทุนหมัดเด็ด” ให้แก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจ ชู 3 ทางเลือกสู้ศึกลงทุนครึ่งหลังของปี 2568 ได้แก่ 1. ทางรอดเมื่อโลกแย่ 2. กำไรไม่แคร์สงครามการค้า 3. MEGATRENDS โตดี…ไม่ต้องลุ้น พร้อมเชิญ 6 ผู้จัดการกองทุนและผู้เชี่ยวชาญ จาก 5 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ร่วมดีเบตจุดเด่นของกองทุนรวมภายใต้การบริหารที่ธนาคารทิสโก้เลือกมาแล้วว่าเหมาะสำหรับจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง สำหรับ บลจ.ที่เข้าร่วมดีเบตในสัมมนาครั้งนี้ ได้แก่ บลจ.กรุงศรี บลจ.ทิสโก้ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) บลจ.วรรณ และ บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ร่วมดีเบตจุดเด่นของกองทุนรวมภายใต้การบริหารที่ธนาคารทิสโก้เลือกมาแล้วว่าเหมาะสำหรับจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง ได้แก่ กองทุนรวม TGOLD, UGIS-N, KF-HJAPAND, TISCOINA-A, ONE-UGG-RA และ ES-GCORE นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนายังมีกิจกรรมจากโรงพยาบาลกรุงเทพในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพของธนาคารทิสโก้ ร่วมให้บริการตรวจเช็คสุขภาพเบื้องต้นแก่ผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย เจาะ 3 ทางเลือกลงทุน โอกาสท่ามกลางสงครามการค้า นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และนายภาคภูมิ พีรยวัฒนา Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในระหว่างงานสัมมนาว่า สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูง เพื่อความชัดเจนธนาคารทิสโก้ประเมินเป็น 2 ทางคือ 1. กรณีเจรจาการค้าไม่สำเร็จใน 90 วัน และสหรัฐฯ ยังคงจัดเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูง หากเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะ “ถดถอย” และ 2. กรณีเจรจาการค้าเป็นไปในทิศทางที่ดีในกรอบ 90…
งาน EARTH JUMP 2025 ซึ่งธนาคารกสิกรไทยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่แล้ววันนี้ ระดมผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจระดับโลกและระดับประเทศ ให้แนวทางกลยุทธ์และความรู้ อัปเดตข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อรับมือความแปรปรวนที่เกิดขึ้น โดยในวันแรกมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โลกกจะเกิดสภาวะแปรปรวนด้านเศรษฐกิจและสังคมแต่การขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนยังเดินหน้าต่อไป ประเทศไทยเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเรื่อง Taxonomy ในอาเซียน และภาครัฐกำลังผลักดัน พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปีหน้า ในส่วนภาคเอกชนก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้าเรื่องนี้ต่อเนื่อง แต่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น ความชัดเจนของนโยบายและข้อบังคับต่างๆ รวมถึงแหล่งเงินทุนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ พร้อมทั้งกรณีศึกษาประเทศจีนที่นำ Taxonomy มาแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจนสำเร็จ และกรณีศึกษาจากประเทศเดนมาร์กที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้พร้อมกับเศรษฐกิจที่โตขึ้นเกือบ 80% นอกจากนี้ยังมีมุมมองและข้อมูลอัปเดตเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องกันว่ายังต้องเดินหน้าต่อ เพราะนี่คือกติกาเกมธุรกิจในโลกใหม่ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การจัดระเบียบโลกด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ไม่มีอเมริกาเป็นศูนย์กลาง หลายประเทศเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ในส่วนของประเทศไทย ภาครัฐกำลังผลักดัน พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปีหน้าเพื่อบังคับและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมีมาตรการภาคบังคับเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกันด้วยระบบกลไกราคาคาร์บอน เช่น 1.ระบบซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) เพื่อบังคับการลดการปล่อยคาร์บอนจากแหล่งกำเนิด 2.การเริ่มเก็บ Carbon Tax ในบางธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมน้ำมัน พร้อมทั้งผลักดันมาตรการสนับสนุนโดยจัดตั้งกองทุนภูมิอากาศซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของภาคประชาชน โดยภาครัฐก็ต้องไม่เพียงแค่ Talk the Talk แต่ต้อง Walk the Walk ด้วย เพื่อเป็นแบบอย่างความสำเร็จในการทำตามแผนงานที่เห็นผลจริง รวมถึงการพร้อมรับฟีดแบคจากภาคเอกชนเพื่อต่อยอดเป็นนโยบายสนับสนุนและช่วยเหลือที่แม้จะมีอุปสรรคและข้อจำกัดจากข้อกฎหมายอยู่บ้างแต่ภาครัฐก็ต้องตอบสนองให้เร็วที่สุด นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในโลกปัจจุบันที่มี ‘ความแปรปรวน’ ตลอดเวลา เราต้องเผชิญกับความท้าทายและแรงกดดันหลายเรื่อง เช่น นโยบายของสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโตชะลอตัว การเข้ามาของ AI และที่สำคัญคือเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ส่งผลทำให้เกิดภัยพิบัติจากอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งการรับมือมี 3 กลยุทธ์สำคัญที่ต้องทำ คือ 1. Health Check ตรวจสุขภาพตัวเองก่อน ว่าตอนนี้ เราปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปเท่าไร 2. Commitment ตั้งเป้าว่าเราจะลดเท่าไร ในปีไหน และ 3. Solution คือการหาวิธีและหาเครื่องมือต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าที่ตั้งไว้ ธนาคารกสิกรไทยไม่เพียงตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเราเอง แต่ยังมุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้า…