Author: staff

หลังจากที่ SCB WEALTH ร่วมจับมือกับ BlackRock พันธมิตรผู้นำระดับโลกด้านการจัดการสินทรัพย์ เร่งคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับนักลงทุนไทยในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว เพื่อให้เงินทำงานอย่างแท้จริงด้วยการลงทุนแบบ Multi-Asset โดยธนาคารขอนำเสนอกองทุน SCBGMCORE ซึ่งจัดตั้งโดยบลจ.ไทยพาณิชย์ เสนอขายครั้งแรก(IPO) ระหว่างวันที่ 2 – 9 เมษายนนี้ เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นตัวแทนจำหน่าย และสามารถลงทุนผ่าน SCB Easy ได้ กองทุนนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการเงินลงทุนของ BlackRock นโยบายเน้นลงทุนในกองทุน ETFในสัดส่วน75%กระจายลงทุนใน หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ REITและTIPs ส่วนอีก 25% ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่มีสภาพคล่องสูงที่ใช้กลยุทธ์แบบ Absolute Return ช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ต มีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ กองทุนบริหารแบบเชิงรุก พอร์ตลงทุนมีความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ กองทุนมีกระบวนการควบคุมความผันผวน ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product กลุ่มธุรกิจ Consumer Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจ และการเมืองระหว่างประเทศ มีแนวโน้ม สร้างความท้าทายให้กับโลกการลงทุนในปี 2568 และส่งผลให้สินทรัพย์ต่างๆ มีความผันผวนสูงขึ้น ซึ่งการจัดพอร์ตลงทุนแบบดั้งเดิม ที่แบ่งสัดส่วนเงิน 60% ลงทุนในหุ้น และ40% ลงทุนในตราสารหนี้ อาจจะไม่เพียงพอรับมือกับความผันผวน จึงแนะนำให้เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อกระจายความเสี่ยงและควบคุมความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้ดีขึ้น จากที่ SCB WEALTH ได้ประกาศความร่วมมือกับ BlackRock ในการพัฒนาโซลูชันการลงทุนให้นักลงทุนไทยได้เข้าถึงการลงทุนระดับโลกที่มีคุณภาพ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเสนอกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SCB Global Multi-Asset Core Portfolio หรือ SCBGMCORE ภายใต้การบริหารจัดการของ BlackRock โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด(SCBAM) เป็นผู้จัดตั้งกองทุน เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่…

Read More

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาด ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสูงสุดในรอบกว่า 100 ปี ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวชัดเจน เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยอาจโตต่ำเพียง 1.45% และอาจปรับลงอีกหากต้องเจรจาต่อรอง ด้านกลยุทธ์ลงทุน ธนาคารทิสโก้แนะทยอยซื้อ 6 สินทรัพย์รับดอกเบี้ยขาลง หุ้นที่ประเทศที่มีสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐฯ ต่อ GDP น้อย และราคาหุ้นน่าสนใจ ได้แก่ ตราสารหนี้โลก Global REITs หุ้นอินเดีย ญี่ปุ่น จีน และไทย นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า กรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากหลายประเทศเมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา นับเป็นมาตรการที่เข้มงวดที่สุดในรอบกว่า 100 ปี เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและลดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกือบ 60 ประเทศเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน ยกเว้นสินค้าบางประเภท เช่น พลังงาน เซมิคอนดักเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยา และทอง ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ถูกตอบโต้โดยตรงก็เผชิญอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ จากอัตราภาษีศุลกากรที่ปรับเพิ่มขึ้นมากนี้ โดยเฉพาะ Reciprocal Tariffs ทาง TISCO ESU มองว่า จะส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่สหรัฐฯ จัดเก็บกับคู่ค้าปรับขึ้นราว 14 จุด (Percentage Point (ppt)) และหากรวมกับการตั้งภาษีนำเข้ายานยนต์ อัตราภาษีเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นราว 16 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เคยประเมินว่า ทุก 1 จุดที่อัตราภาษีเฉลี่ยปรับขึ้น จะกระทบการเติบโตของเศรษฐกิจราว -0.14 จุด ดังนั้น หากมีการปรับขึ้นอัตราภาษีตามที่ประกาศนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงชัดเจน…

Read More

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) ประกาศแผนเติบโตธุรกิจตามวิสัยทัศน์ มุ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายแรกของประเทศไทย ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) 2 ล้านล้านบาท พร้อมยืนยันเจตนารมณ์การเป็น “The Best Fund House” ครองความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนทุกกลุ่ม เร่งเดินหน้าขยายฐานผู้ลงทุนให้ได้ 1 ล้านคนในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์การลงทุนของ SCBAM ที่นำเสนอทางเลือกและกลยุทธ์การลงทุนสอดคล้องกับสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ตอบโจทย์ได้ตามความต้องการของผู้ลงทุน พร้อมเน้นย้ำความสำคัญด้านการบริหารจัดการที่โปร่งใส มุ่งเดินหน้าสู่การเป็น Digital Business ต่อเนื่อง เสริมสร้างนวัตกรรมทางการเงินด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาใช้ในการบริหารจัดการกองทุน เพื่อรองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ลงทุนในระยะยาว นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCBAM เปิดเผยว่า SCBAM ยังมุ่งเดินหน้าและผลักดันการเติบโตของธุรกิจให้เป็น “The Best Fund House” ตามวิสัยทัศน์หลักที่บริษัทตั้งใจ โดยที่ผ่านมา SCBAM ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถการบริหารจัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพ สร้างความเชื่อมั่นจนเป็นที่ไว้วางใจของผู้ลงทุนทุกกลุ่มและได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการเงินลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2567 SCBAM มี AUM อยู่ที่ 1.94 ล้านล้านบาท ครองแชมป์เป็น บลจ. อันดับ 1 ที่มี AUM สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม(*) และในปี 2568 นี้ SCBAM เชื่อมั่นว่าจะสามารถเดินหน้าสร้างความสำเร็จ ผลักดันให้ AUM เติบโตต่อเนื่องสู่ 2 ล้านล้านบาทได้ ด้วย 3 แนวทางขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน แนวทางแรก คือ การเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ผสานกับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และโซลูชันการลงทุนที่ตรงใจผู้ลงทุน ตอบรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสภาวะตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในส่วนที่สอง คือ การเติบโตอย่างยั่งยืนด้านการลงทุนที่ SCBAM จะมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมการลงทุนที่ตอบโจทย์ทุกระดับความต้องการ พร้อมกลยุทธ์การลงทุนเพื่อโอกาสสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพ เน้นคัดเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และโปร่งใส ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน…

Read More

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไทยดอทรัน จำกัด จัดแคมเปญวิ่ง “PASSION FOR LIFE” ให้รักดูแลชีวิต ให้การแบ่งปันดูแลหัวใจ โดยจัดกิจกรรมการวิ่งใน 2 รูปแบบ คือ Virtual Run และ Running Activity เพื่อจัดหารายได้สมทบทุนโครงการ “หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก” นางสาวฐิติมา เลี้ยงพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิต ได้ร่วมมือกับ เพจไทยรัน จัดแคมเปญวิ่ง “PASSION FOR LIFE” ที่มีวัตถุประสงค์นอกจากการเสริมสร้างสุขภาพกายที่แข็งแรงให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ยังสร้างความสุขใจของการเป็นผู้ให้ ด้วยการส่งต่อความรัก และเติมเต็มโอกาสให้กับผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง แคมเปญ “PASSION FOR LIFE” ให้รักดูแลชีวิต ให้การแบ่งปันดูแลหัวใจ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ทำชีวิตให้มีคุณค่า” โดยจัดกิจกรรมวิ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ กิจกรรม Virtual Run: เชิญชวนนักวิ่ง วิ่งสะสมระยะทางขั้นต่ำคนละ 21 กิโลเมตร กำหนดเป้าหมายระยะการวิ่งรวมทั้งแคมเปญ 200,000 กิโลเมตร โดยในทุกการวิ่ง 1 กิโลเมตร ไทยประกันชีวิตและเพจไทยรัน จะบริจาคเงิน 5 บาท ให้แก่โครงการ “หนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก” (สูงสุด 600,000 บาท) โดยกำหนดระยะเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – พฤศจิกายน 2568 ซึ่งกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่ · ซีรีส์ 1: What you love…

Read More

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ต่อยอดความสำเร็จ เปิดโครงการ “Krungsri ESG Academy” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้รับเกียรติจากองค์กรพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิและมีวิสัยทัศน์ด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มาร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการในการสร้างแผนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืนตามกรอบ ESG ที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมต่อยอดธุรกิจในระยะยาว นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะหนึ่งในภาคการเงินที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ กรุงศรีตระหนักถึงความเร่งด่วนและความจำเป็นในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสู่เส้นทางของความยั่งยืน จึงยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการผ่านการสนับสนุนทางการเงินและกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจด้าน ESG ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ การส่งเสริมความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความสำคัญของ ESG และเห็นแนวทางในการสร้างความยั่งยืนซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้จริง โดยกรุงศรีได้พัฒนาหลักสูตร Krungsri ESG Academy 2025 ให้ครอบคลุมทุกมิติยิ่งขึ้น เน้นการถ่ายทอดความรู้เรื่อง ESG ให้กับผู้ประกอบการอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยสร้างแผนเปลี่ยนผ่านธุรกิจที่นำไปใช้ได้จริง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจในระยะยาว” “นอกจากนั้นด้วยแนวโน้มที่ธุรกิจขนาดใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้น และส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจด้วย การมีแผนดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนจะไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง กรุงศรีมีความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่สนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้เข้าถึงทั้งองค์ความรู้และโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถลงทุนในโครงการ ESG ได้อย่างมั่นใจ” นางสาวดวงกมล กล่าวเสริม โครงการ Krungsri ESG Academy 2025 ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ 5 ส่วน ได้แก่ 1. อบรมเข้มข้น ทุกมิติ E, S และ G โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ 2. เวิร์กช็อปเจาะลึก สร้างแผนเปลี่ยนผ่านที่ใช้ได้จริงทุกธุรกิจ 3. ลงพื้นที่จริง ดูงานการแก้ปัญหาจากเคสจริง 4. คำแนะนำรายธุรกิจ สู่ผลลัพธ์ที่วัดผลและจับต้องได้ 5. โอกาสรับวงเงิน เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 60 องค์กร ประกอบด้วยลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจ SME ลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น สมาชิกสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand) ซึ่งทุกรายจะได้รับการอบรมอย่างเข้มข้นตลอดระยะเวลา 5…

Read More

ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงินในเครือทีซีซี เดินหน้าจัดกิจกรรม A ROOT by Thai Group คอมมูนิตี้เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง หวังจุดประกายให้คนไทยเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ จัดงานต้อนรับฤดูร้อนด้วยอาหารสุขภาพแบบไทย โดยเฉพาะเมนูอาหารเป็นยา ที่จะสร้างการรับรู้และเผยแพร่ความมหัศจรรย์ของอาหารไทย นางอาทินันท์ พีชานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยกรุ๊ป ในฐานะองค์กรชั้นนำในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนไทยทุกคน มุ่งมั่นตั้งใจในการมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม จึงสร้างสรรค์พื้นที่แห่งนี้ให้เป็นคอมมูนิตี้เพื่อการดูแลสุขภาพ A ROOT By Thai Group ที่จะเป็นรากฐานด้านอาหารและเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี ทั้งกายและใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้เริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง พร้อมกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ที่ส่งเสริมการพัฒนาทั้งกาย ใจ และจิต เติมเต็มชีวิตให้มีคุณค่า โดยมีแผนจัดงาน A ROOT By Thai Group ทุกวันพุธ-ศุกร์ สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ที่บริเวณล็อบบี้และด้านหน้าของอาคารไทยกรุ๊ป สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม ซึ่งจะมีการสลับประเภทสินค้าเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสร้างความแปลกใหม่และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไทยกรุ๊ป คาดหวังว่า A ROOT by Thai Group คอมมูนิตี้เพื่อการดูแลสุขภาพ จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่ช่วยให้คนไทยเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น พร้อมมุ่งมั่นผลักดันแนวคิด “การป้องกันดีกว่าการรักษา” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้แห่งนี้ และติดตามกิจกรรม A ROOT by Thai Group ได้ที่ เพจ A ROOT by Thai Group ล่าสุด เมื่อวันที่ 26-28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา จัดงานต้อนรับฤดูร้อนด้วยอาหารสุขภาพแบบไทย โดยเฉพาะเมนูอาหารเป็นยา ที่จะสร้างการรับรู้และเผยแพร่ความมหัศจรรย์ของอาหารไทย รสชาติเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และมีประโยชน์กับสุขภาพ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ เช่น ข้าวแช่ ส้มฉุน ปลาแห้งแตงโม รวมทั้งผักและผลไม้เกษตรธรรมชาติและออร์แกนิค น้ำผลไม้คลายร้อน เครื่องดื่มสมุนไพร…

Read More

วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 นับเป็นหนึ่งในบททดสอบความอยู่รอดที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากมหาอำนาจตะวันตก ด้วยความที่สยามในขณะนั้นยังขาดความพร้อมในหลายด้าน ทำให้เอกราชของชาติตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย ประเทศชาติจึงยังคงรักษาอธิปไตยไว้ได้ แม้ต้องยอมสละดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเป็นการแลกเปลี่ยนกับการได้จังหวัดจันทบุรีและตราดกลับคืนมา เป็นสัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายามทางการทูตของบูรพกษัตริย์ไทยที่ปกป้องผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานในยามที่ประเทศต้องเผชิญภัยคุกคามจากลัทธิล่าอาณานิคม เพื่อสืบสานบทเรียนอันทรงคุณค่านี้ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดโครงการ”ทิพยสืบสาน รักษาต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 50 นำคณะครูอาจารย์ และผู้สนใจ เดินทางสู่ดินแดนตะวันออก เพื่อตามรอยประวัติศาสตร์เรื่องเขตแดนที่มักถูกลืมเลือนไปจากตำราเรียน พร้อมทั้งศึกษาวิถีชีวิตของชุมชนที่นำแนวพระราชดำริมาพลิกฟื้นความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนดินและท้องทะเลแห่งตราด ด้วยความเชื่อที่ว่าความมั่นคงของชาติในองค์รวมมิใช่เพียงแค่การปกป้องดินแดน แต่ยังรวมถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการได้เดินทางไปยัง เกาะลิง บ้านบางปิดล่าง จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาอธิปไตยของชาติไทย คณะผู้เข้าร่วมโครงการได้ศึกษาหมุดพรมแดนที่ฝรั่งเศสปักไว้ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของประเทศมหาอำนาจในการแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมุดพรมแดนแห่งนี้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงการเจรจาและการดำเนินนโยบายทางการทูตอย่างชาญฉลาดของไทย ที่สามารถรักษาเอกราชและอธิปไตยเหนือดินแดนไว้ได้ในยุคล่าอาณานิคม วิทยากรได้บรรยายถึงความสำคัญของพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นพรมแดนระหว่างไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส (ปัจจุบันคือประเทศกัมพูชา) ที่ถูกกำหนดขึ้นจาก “สนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907” ลงวันที่ 23 มีนาคม ร.ศ. 125 (พ.ศ. 2449) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยการปักหมุดพรมแดนเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของการยืนยันสิทธิเหนือดินแดนตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คุณวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประวัติศาสตร์ของชาติกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องสองเรื่องที่แยกจากกัน แต่เป็นพันธกิจที่เชื่อมโยง กันอย่างลึกซึ้ง แผ่นดินไทยที่เรายืนอยู่วันนี้ มิใช่ผลมาจากความบังเอิญ หากแต่เป็นมรดกแห่งปณิธานและพระปรีชาสามารถของบูรพกษัตริย์ ผู้ทรงต่อสู้และปกป้องผืนแผ่นดินด้วยพลังปัญญาและการทูตอันชาญฉลาด การรักษาแผ่นดินมิได้หมายถึงเพียงการปกป้องอาณาเขตทางภูมิศาสตร์เท่านั้น หากยังหมายรวมถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศที่เป็นรากฐานแห่งชีวิต การพัฒนาตามแนวพระราชดำริจึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติในมิติที่ลึกซึ้งและยั่งยืน เราในฐานะลูกหลานของแผ่นดิน มีหน้าที่สืบสาน ปกปักรักษา และพัฒนาให้มรดกอันล้ำค่านี้คงอยู่ตราบชั่วกาลนาน ไม่เพียงเพื่อตนเอง หากแต่เพื่อคนรุ่นต่อๆ ไป” นอกจากการศึกษาประวัติศาสตร์ที่เกาะลิง คณะฯยังได้เดินทางไปยังวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบที่นำแนวทางศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้กิจกรรมสำคัญ อาทิ การทำผ้าย้อม 3 ป่า จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ได้แก่ ป่าชุมชน ป่าชายเลน…

Read More

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย และผู้ปฏิบัติงานที่ระดมกำลังค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่เขตจตุจักร โดยได้มอบอาหารกล่องจำนวน 200 ชุดพร้อมของใช้จำเป็น ได้แก่ ถุงขยะ ผ้าเย็น และกระดาษทิชชู รวมมูลค่า 30,000 บาท ณ จุดรับบริจาคสิ่งของ สำนักเขตกรุงเทพมหานคร กรุงเทพประกันชีวิตขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่และให้กำลังใจแก่ทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและพร้อมให้การสนับสนุนในโอกาสต่อไป

Read More

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมกับ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จัดงานประกาศรางวัล “KKPGEN BEST IN CLASS ANNUAL AWARDS 2024” เฉลิมฉลองความสำเร็จและเชิดชูเกียรติผู้ทำผลงานประกันยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานกลุ่มงานลูกค้ารายย่อย นายกัมพล จันทวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ นาวสาวยุวดี งานทวีกิจ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสององค์กรร่วมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ทำผลงานประกันยอดเยี่ยมประจำปี 2024 พร้อมร่วมประกาศความสำเร็จครบรอบ 10 ปี สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งทั้งสององค์กรจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมปรับกลยุทธ์รับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยงานจัดขึ้น ณ โรงแรม อีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ

Read More

คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ได้รับเกียรตินำเสนอบทเรียนความสำเร็จจากการยกระดับธุรกิจด้วยดิจิทัล โชว์เคสธุรกิจประกันวินาศภัย ในงาน Digital Dialogue 2025 มหกรรมเสวนาระดับชาติอัปเดต เทรนด์เทคโนโลยีการตลาด การยกระดับธุรกิจด้วย AI อย่างมีประสิทธิภาพประจำปี 2025 จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่ง ประเทศ ไทย (TMA) ณ ห้องเรเดียน บีดีเอ็มเอส คอนเน็ก เซ็นเตอร์ โดยบนเวทีเสวนาครั้งนี้ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านประกันภัยแนวหน้าของประเทศไทย ได้แบ่งปันความสำเร็จในวงเสวนา หัวข้อ AI-Powered Digital Strategy: Redefining the Future ชูเคสการตั้งสตาร์ตอัปมาร์ส (MARS) และใช้โมเดล AI มาปรับใช้ในธุรกิจประกันวินาศภัยเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ประกันภัยที่ดีที่สุด ร่วมกับการพัฒนาอุปกรณ์ TVI Connect ใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน Thaivivat สำหรับตรวจสภาพรถยนต์แบบเรียลไทม์ และสร้างมาตรฐานความแม่นยำ ระดับสากล ในการตรวจจับความเสียหายของรถยนต์ ตอบโจทย์การบริการประกันภัยในแนว Personalized Insurance เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงการนำนวัตกรรมที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จว่า “เราได้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีในชื่อ บริษัท มอเตอร์ เอไอ เรคอกนิชั่น โซลูชั่น จำกัด หรือมาร์ส (MARS) และใช้มาร์สเป็นโมเดลบริการลูกค้าประกันภัยรถยนต์เพิ่มความสะดวกรวดเร็วขึ้น ทั้งขั้นตอนก่อนทำประกัน โดยก่อนทำประกัน สามารถตรวจสภาพรถ วิเคราะห์สภาพรถได้จากภาพถ่ายได้รู้ผลภายใน 5-10 นาที โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ไปตรวจเช็กสภาพรถยนต์ที่บ้าน ซึ่งใช้เวลานาน 10-15 วัน และขั้นตอนในการประเมินสภาพรถยนต์ขณะเกิดความเสียหายแบบเรียลไทม์ ในการช่วยประเมินได้เลยว่าซ่อมยังไง ต้องเปลี่ยนอะไหล่หรือต้องซ่อมขนาดไหน และสามารถให้บริการลูกค้าที่จะเคลมประกันได้ การวิเคราะห์สภาพ ชิ้นส่วน การดูจากแสง มุมของภาพถ่าย มี AI หลาย…

Read More