ท่ามกลางวิกฤตสงครามการค้า – จับตาเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกครั้ง 18 ธ.ค.67 – TISCO ESU ฟันธง!! เศรษฐกิจโลกปี 2568 ขยายตัว 3.2% แรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด จับตานโยบายกีดกันทางการค้าตัวแปรสำคัญกำหนดทิศเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดเติบโต 3.0% แรงหนุนจากรายจ่ายและการลงทุนภาครัฐ – เอกชนที่กลับมา การท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น ด้านราคาน้ำมันคาดไม่ปรับลงแรงตามที่ตลาดกังวล ชี้ “หุ้น” ยังเป็นสินทรัพย์น่าสนใจลงทุนแม้ผันผวนมากกว่าปี 2567 โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ ในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) และกลุ่มสถาบันการเงิน (Financials) รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจเร่งตัวขึ้น นายเมธัส รัตนซ้อน นักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) (Mr. Methas Rattanasorn, Economist, TISCO Economic Strategy Unit) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงที่จะโน้มไปทางด้านต่ำ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ระดับ 3.2% โดยมีปัจจัยบวกมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด (Exceptionalism) อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ สถานการณ์สงครามที่ยังไม่คลี่คลายทั้งในตะวันออกกลาง และรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งจะสร้างความไม่แน่นอนแก่ราคาพลังงานและเงินเฟ้อ รวมถึงทิศทางของนโยบายการเงินโลก นอกจากนี้ ในหลายประเทศที่รัฐบาลมีภาระหนี้สินในระดับสูง อาจหันมาลดการขาดดุลงบประมาณลง ซึ่งจะส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินได้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced Economy) ส่วนใหญ่จะชะลอตัวลงจากประมาณการเดิม เช่นเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) ที่มีแนวโน้มชะลอลงจากหลายปัจจัย อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่กระทบต่อผลผลิต และความขัดแย้งภายในประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ดี อุปสงค์ต่อสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ที่ฟื้นตัวตามกระแสการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence; AI) จะหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในแถบเอเชีย (Emerging and Developing Asia) ขยายตัวได้ต่อเนื่องตามการผลิตและการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง โอกาสและความท้าทายเศรษฐกิจไทย ในสมรภูมิชิงความเป็นใหญ่ระหว่างมหาอำนาจ ด้านเศรษฐกิจไทย ในปี 2568 TISCO ESU…
Author: staff
กรุงเทพฯ (18 ธันวาคม 2567) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) จัดงานสัมมนา “Data Center Opportunities in Thailand 2024” สำหรับลูกค้าธุรกิจและนักลงทุน อัปเดตเทรนด์และโอกาสด้านการลงทุนในธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดยได้ระดมผู้เชี่ยวชาญจากกรุงศรี และ MUFG ผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจและการลงทุน อันจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการพัฒนาอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก พร้อมผลักดันประเทศไทยขึ้นแท่นการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งอาเซียน งานสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นายบุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนในธุรกิจศูนย์ข้อมูล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย การเติบโตของการลงทุนในธุรกิจศูนย์ข้อมูลอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน ด้วยเล็งเห็นโอกาสอันสำคัญนี้ กรุงศรีจึงได้จัดงานสัมมนา “Data Center Opportunities in Thailand 2024” นี้ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและมุมมองอันมีคุณค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและนักลงทุนในการสร้างเครือข่ายและพัฒนาธุรกิจศูนย์ ข้อมูลให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน กรุงศรี และ MUFG ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เรามุ่งมั่นและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนลูกค้าธุรกิจด้วยโซลูชันและการให้คำปรึกษาด้านการเงินที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน และใช้ความเชี่ยวชาญทั้งในประเทศและเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่ง เชื่อมโยงลูกค้ากับเครือข่าย MUFG เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง” การสัมมนาครั้งนี้ เริ่มด้วยการกล่าวถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลในระดับโลก และมุมมองอนาคตของอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลในประเทศไทย โดย นายศิวภูมิ จันทา, Senior Consultant, MU Research and Consulting (Thailand) ซึ่งเปิดเผยว่า “ประเทศไทยได้กลายมาเป็นผู้เล่นที่สำคัญในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของภูมิภาคอาเซียน ด้วยมูลค่าการเติบโตที่ 24% หรือ 50 ล้านบาทของตลาดโดยรวม โดยคาดการณ์ว่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์จะโตได้ถึง…
สิงห์ เอสเตท ประกาศอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 2 ปี และ 3 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 4.50% และ 5.00% ต่อปีตามลำดับ โดยจะเสนอขายต่อผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 – 9 ม.ค. 2568 ด้านสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายมั่นใจหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ระบุมั่นใจในแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในและต่างประเทศ กรุงเทพฯ 18 ธันวาคม 2567 – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี โดยหุ้นกู้ดังกล่าวกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดย “สิงห์ เอสเตท” จะเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม…
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดสัมมนา ttb I Executive Morning Briefing หัวข้อ “Economic Outlook and Global Market Movement 2025” เชิญสภาพัฒน์ ร่วมอัปเดตสถานการณ์เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก พร้อมแชร์มุมมองด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางให้ลูกค้าธุรกิจปรับกลยุทธ์วางแผนธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายในปี 2568 นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีได้จัดงานสัมมนา ttb I Executive Morning Briefing ภายใต้หัวข้อ“Economic Outlook and Global Market Movement 2025” ให้แก่ลูกค้าธุรกิจ เพื่ออัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ความท้าทายสำคัญและแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต รวมถึงวิธีการบริหารความเสี่ยงเพื่อรับมือกับความผันผวนต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับลูกค้าธุรกิจในการวางแผนธุรกิจทั้งในปีนี้และในปี 2568 โดยทีทีบีพร้อมเป็นพันธมิตรที่ช่วยผลักดันให้ลูกค้าธุรกิจ เตรียมพร้อมรับมือและปรับกลยุทธ์เชิงรุกในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตในสมรภูมิการค้าโลกได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ดร.อานันท์ชนก สกนธวัฒน์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์ และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกในปี 2567 อยู่ที่ 2.9% และในปี 2568 จะเติบโตอยู่ที่ 3.3% โดยเศรษฐกิจประเทศมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและจีนชะลอตัวลง ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2568 คาดการณ์ว่าค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การลดดอกเบี้ยของ FED ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่กลับมาเป็นบวกมากขึ้น รายรับจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และผลที่จะเกิดจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ราคาน้ำมันดิบ รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ ที่อาจส่งผลต่อค่าเงินบาทที่ผันผวนในระยะสั้น ซึ่งต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังการแพร่ระบาดของโควิด 19 ยังอยู่ในระดับต่ำ คาดการณ์ว่า GDP ในปี 2567 จะอยู่ที่ 2.3-2.8% และแนวโน้ม GDP ในปี 2568 จะอยู่ที่ 2.5-3.5% โดยการขับเคลื่อนมาจาก 4 ปัจจัยสนับสนุน…
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธการตลาดและบริหารจัดการลูกค้า พร้อมด้วย นายนรินทร์ เอกวงศ์วิริยะ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร จัดกิจกรรม Bangkok Life Happy Movie Day เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก BLA Happy Life Club โดยเชิญชวนร่วมชมภาพยนตร์ Moana 2 แอนิเมชันชื่อดังจากดิสนีย์ ช่วงเทศกาลวันพ่อ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย ณ โรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ เลเซอร์ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต เอ็มควอเทียร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ กิจกรรมดูหนังร่วมกันในครอบครัวเป็นกิจกรรมที่กรุงเทพประกันชีวิต ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้กรุงเทพประกันชีวิตดูแล ด้วยการส่งมอบความสุขให้ทุกคนในครอบครัว ซึ่งนอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว ยังเสริมสร้างจินตนาการ และการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ผ่านเรื่องราวการเดินทางผจญภัยครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมของ Moana โดยในวันดังกล่าวมีลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ประกันชีวิตที่ดูแลเรื่องความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงใส่ใจ ส่งมอบความสุขให้ลูกค้าได้ในทุก ๆ วัน โดยจะมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อีกมากมายที่จะมอบให้ลูกค้าคนสำคัญตลอดปี 2568
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นั้น นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ประจำปี 2567 ชั้นสายสะพาย ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2567 ชั้นสายสะพาย ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.) เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดโดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยมีนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและข้าราชการเข้าร่วมในพิธี ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ นายชัย โสภณพนิช ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นเกียรติประวัติสูงสุดนี้ในฐานะบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศ โดยให้การส่งเสริมและสนับสนุนทั้งด้านการศึกษา ศาสนา สังคม และสาธารณชนมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความปลื้มปีติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ประกาศแต่งตั้ง ณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย (คุณเคเค) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะรายงานตรงต่อคุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอกซ่า ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และประเทศเกาหลีใต้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 และขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามกฎระเบียบต่างๆ ทั้งนี้ เคเค ถือเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนไทยคนแรกของบริษัทฯ ซึ่งมีค่านิยมส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแอกซ่า ที่มุ่งเน้นการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง และเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการลงมือปฏิบัติและเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงออกถึงวัฒนธรรม Care & Dare ตลอดจนถ่ายทอดให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม มีความเข้าใจในวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดภายในประเทศเป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถช่วยผลักดันธุรกิจในประเทศไทย และในภูมิภาคให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ตลอดจนสร้างการเติบโตของบริษัทฯ อย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯ เป็นบริษัทฯ สำคัญของการตลาดที่แข็งแกร่งของกลุ่มแอกซ่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มแอกซ่า สำหรับปี 2024-2026 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Unlock the Future” ซึ่งบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากกลุ่มแอกซ่าในการขับเคลื่อน และการเติบโตที่สูงมากขึ้น ผ่านการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ โดยคุณเคเคจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สาขาบริหารธุรกิจ และระดับปริญญาโทในหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาควิชาบริหารธุรกิจของ Hong Kong University of Science and Technology (HKUST) และ New York University (NYU) Stern School of Business ตลอดจนได้จบหลักสูตรผู้บริหารจาก Singularity University ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
จากอีสานแล้ง สู่อีสานเขียว: 42 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ต้นแบบการฟื้นฟูทรัพยากรอย่างยั่งยืน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สานต่อโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ครั้งที่ 47 นำคณะครูอาจารย์ และผู้สนใจเข้าร่วมศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร เพื่อเรียนรู้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริที่พลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งของภาคอีสาน ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้อย่างยั่งยืน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 บนพื้นที่กว่า 13,000 ไร่ ได้รับการยกย่องให้เป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” ที่รวบรวมองค์ความรู้และการปฏิบัติจริงในด้านการพัฒนาที่ดิน แหล่งน้ำ การฟื้นฟูป่า และการจัดการเกษตรกรรมเชิงบูรณาการ ด้วยเป้าหมายหลักคือการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน ศูนย์แห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานที่ทดลองและถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรกรรมที่ทันสมัยแก่เกษตรกร ตลอดจนการพัฒนาอาชีพต่าง ๆ เช่น การเพาะปลูก การประมง และการเลี้ยงสัตว์ โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้เป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหาด้านเกษตรกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานว่า “กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการศึกษาดูงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังความตระหนักถึงความสำคัญของการพึ่งพาตนเองและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ศูนย์แห่งนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาอย่างครบวงจร ทั้งความแห้งแล้ง ป่าไม้เสื่อมโทรม น้ำแล้ง รวมถึงปัญหาความยากจนของประชาชน ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน การได้มาสัมผัสประสบการณ์ตรงนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาที่สมดุลและสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่อย่างแท้จริง” ในฐานะเป็น 1 ใน 6 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานมีบทบาทสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงการจัดการทรัพยากรแบบองค์รวม อันเป็นต้นแบบการพัฒนาในระดับพื้นที่ที่เชื่อมโยงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ ผู้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ได้สัมผัสประสบการณ์เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การนั่งรถรางชมศูนย์ฯ เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมและระบบการจัดการพื้นที่ รวมถึงการเยี่ยมชมห้องนิทรรศการที่ถ่ายทอดพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเสด็จเยี่ยมเยียนชาวจังหวัดสกลนครกว่า 109 ครั้ง หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการเรียนรู้เรื่อง “สี่ดำมหัศจรรย์แห่งภูพาน” ได้แก่ โคเนื้อภูพาน สุกร ภูพาน ไก่ดำภูพาน และกระต่ายดำภูพาน ซึ่งเป็นตัวอย่างของสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่และการเลี้ยงดูที่ยั่งยืน ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้สัมผัสกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ เช่น การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การทำผ้าย้อมคราม…
กรุงเทพฯ (17 ธันวาคม 2567) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน krungsri app ด้วยฟังก์ชันยืนยันการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ เพื่อป้องกันการถูกสวมรอยเปลี่ยนอุปกรณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ช่วยให้ผู้ใช้บริการอุ่นใจได้ว่าการเปลี่ยนอุปกรณ์ทุกครั้งจะดำเนินไปอย่างปลอดภัย อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้บริการตัวจริงเท่านั้น โดยฟังก์ชันใหม่นี้จะพร้อมให้บริการในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 สำหรับเวอร์ชันตั้งแต่ 4.01.00 เป็นต้นไป ในยุคที่ภัยคุกคามทางออนไลน์มีรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา และมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน กรุงศรีจึงได้พัฒนาฟังก์ชันยืนยันการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้งาน krungsri app โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อป้องกันการหลอกลวง ลดการถูกสวมรอยเปลี่ยนอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากระบบพบว่ามีการพยายามเปลี่ยนอุปกรณ์โดยไม่ได้รับการยืนยันก่อนล่วงหน้า ระบบจะไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อ โดยจะแสดงข้อความแจ้งเตือนอันเนื่องจากผู้ใช้งานยังไม่ได้ทำการยืนยันการเปลี่ยนอุปกรณ์บนเครื่องเดิมมาก่อน และหากกรณีที่อุปกรณ์เดิมไม่ได้คงอยู่กับผู้ใช้งานแล้ว ก็สามารถติดต่อสาขาธนาคารกรุงศรีได้ทุกสาขาเพื่อยืนยันตัวตนก่อนการเข้าใช้งานบนอุปกรณ์ใหม่ได้เช่นกัน สำหรับผู้ใช้บริการ krungsri app ที่ต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์ใช้งาน จะต้องกดทำรายการที่เมนูตั้งค่า และยืนยันการทำรายการด้วยตนเองล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนอุปกรณ์ ตามขั้นตอนดังนี้ เข้าแอปพลิเคชัน krungsri app เลือกเมนู ‘อื่นๆ’ เลือกเมนู ‘การตั้งค่า’ เลือก ‘ความปลอดภัย’ เลือก ‘เปลี่ยนอุปกรณ์’ ยืนยันเปลี่ยนอุปกรณ์ ตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการทำรายการ ขั้นตอนการทำรายการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงและสวมรอยเข้าใช้บริการ เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ krungsri app ให้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น หมดกังวลในการทำธุรกรรมทางการเงินซึ่งช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคดิจิทัล สอดรับกับความมุ่งมั่นของกรุงศรีที่พร้อมนำเสนอ โซลูชันทางการเงินที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ให้ลูกค้าทุกคนสามารถใช้ชีวิตง่ายได้ทุกวันอย่างแท้จริง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ Krungsri Call Center 1572 หรือติดต่อ Facebook: Krungsri Simple
กลางธรรมชาติอันเงียบสงบของจังหวัดหนองคาย มีสถานที่หนึ่งที่สร้างโอกาสให้กับเยาวชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ฝึกวิชาชีพการโรงแรมและงานบริการพิมาลี ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่โรงเรียน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความหวังและอนาคตที่สดใส ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิพิมาลี ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 เพื่อช่วยเหลือเยาวชนกำพร้าและผู้ด้อยโอกาสในภาคอีสาน รวมถึงอีกหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ หลักสูตรของที่นี่ออกแบบมาเพื่อสร้างทักษะงานด้านการโรงแรม งานครัว และบริการ โดยเน้นทั้งการเรียนรู้ทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริง ซึ่งเบื้องหลังการทำงานพัฒนาเพื่อลดความเลื่อมล้ำทางสังคมนี้ มี FWD ประกันชีวิต เป็นหนึ่งในองค์กรที่คอยร่วมสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ FWD ประกันชีวิต การร่วมสนับสนุนมูลนิธิพิมาลี คือ การเน้นย้ำพันธกิจในการสร้างโอกาสและความเท่าเทียมด้านการศึกษาที่เป็นเวลาติดต่อกันมากว่า 5 ปี โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมอบทุนการศึกษา 7 ทุน พร้อมความคุ้มครองชีวิตและสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลให้แก่นักเรียนทุกคนและบุคลากรในศูนย์ฝึกฯ “เราอยากให้เยาวชนเหล่านี้ได้เรียนรู้ เติบโต เพื่อนำความรู้เหล่านั้นมาเป็นรากฐานในการสร้างอนาคตที่มั่นคง” คุณเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา FWD ประกันชีวิตบอกเล่า หลักสูตรการเรียนการสอนที่พิมาลีใช้เวลา 6-11 เดือน ครอบคลุมทักษะที่เกี่ยวข้องกับ การดูแลห้องพัก การงานครัว และ บริการอาหาร-เครื่องดื่ม โดยมีสถานที่ฝึกอบรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่มีทั้งห้องครัวตามมาตรฐาน โรงแรมสี่ห้องนอนสำหรับรองรับแขกที่เต็มใจเข้ามาพักเพื่อเป็นโจทย์ในการเรียนของเด็กๆ อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตไม่ได้หยุดแค่ในห้องเรียน เมื่อได้มีการสอบถามไปยังนักเรียนรุ่นก่อนๆ พบว่า การจัดการทางการเงินเป็นอีกหนึ่งปัญหา สำหรับนักเรียนที่ก้าวออกไปในโลกการทำงาน ดังนั้นในปีนี้ FWD ประกันชีวิต จึงได้ออกแบบบทการเรียน และเวิร์กช็อปด้านการเงิน พร้อมนำทีมอาสาสมัครลงพื้นที่ และอบรมทางออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการเกี่ยวกับเงินให้กับนักเรียนแห่งนี้ โดย วีรพงศ์ ล้ำเลิศกิจ Lead of Wealth Training จาก FWD ประกันชีวิต หนึ่งในอาสาสมัคร บอกว่า “เราตั้งใจออกแบบเวิร์กช็อปให้สนุก เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ผ่านเกมบอร์ดด้านการเงิน (Money Board Game) ที่ช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้ด้านการเงินกับการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน” ตั้งแต่เปิดศูนย์ฝึกฯ มา ศิษย์เก่าของพิมาลีกว่า 191 คนได้สำเร็จการศึกษา โดย 120 คน ได้งานในโรงแรมและรีสอร์ททั่วประเทศ พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างอนาคตให้ตัวเอง แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวและชุมชนอีกด้วย ดังนั้นการเพิ่มความรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แก่นักเรียนทุกๆ คน จึงเป็นเหมือนการผลักดันให้เยาวชนสามารถยืนได้ดัวยตัวเองอย่างเข้มแข็ง สณิฐิตตา…