บริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด (Orbix Technology) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ประกาศความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบการตรวจสอบและรับรองเอกสารด้วยบล็อกเชน (Blockchain-Enabled Credential Authenticity) ผ่าน Quarix ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่สามารถเชื่อมโยงและรองรับการทำงานร่วมกันในหลายภาคส่วน ทั้งภาคการเงิน เทคโนโลยี และภาครัฐ ตั้งเป้าหมายสร้างโซลูชันที่รองรับการทำธุรกรรมและบริการสาธารณะด้วยความโปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย นายญาณวิทย์ รักษ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด (Orbix Technology) เปิดเผยว่า การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบตรวจสอบรับรองเอกสาร จะทำให้เกิดระบบนิเวศที่สามารถทำงานร่วมกันได้ (Interoperable Ecosystem) ด้วยเทคโนโลยีที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และปลอดภัย ซึ่งหากเกิดการนำไปใช้ในภาคบริการสาธารณะก็จะสร้างประโยชน์ในวงกว้าง Orbix Technology จึงร่วมมือกับ depa ดำเนินโครงการพัฒนาระบบตรวจสอบและรับรองเอกสารด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain-Enabled Credential Authenticity) ผ่าน Quarix ที่สามารถเชื่อมโยงทั้งภาคการเงิน เทคโนโลยี และภาครัฐ ทำให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้อย่างแม่นยำ มีความโปร่งใส และมีความน่าเชื่อถือสูง ช่วยลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงข้อมูลหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต โครงการพัฒนาระบบตรวจสอบและรับรองเอกสารด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนดังกล่าว นี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. การร่วมกันพัฒนาระบบที่สามารถตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของเอกสารรับรองผ่านการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 2. การจัดการและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง และ 3. การสร้างโซลูชั่นรองรับการทำธุรกรรมและบริการสาธารณะด้วยความโปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรม และพัฒนาให้การทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ความต้องการของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศและระดับภูมิภาค ด้าน ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือการพัฒนาโครงการการตรวจสอบเอกสารรับรองด้วยบล็อกเชนระหว่าง depa และ Orbix Technology จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและสร้างประโยชน์อย่างกว้างขวาง ซึ่ง depa จะประยุกต์ใช้โซลูชันดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการสาธารณะและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน พร้อมส่งเสริมสังคมให้ยั่งยืนต่อไป สำหรับความร่วมมือระหว่าง depa และ Orbix…
Author: staff
กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล แถลงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ (สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2568) โดยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นดังนี้ มีผลกำไรธุรกิจใหม่ (New Business Profit) เติบโตเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 608 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตามวิธีการคำนวณแบบ Traditional Embedded Value -TEV) มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เติบโตเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 1,677 ล้านเหรียญสหรัฐ และ มีอัตรากำไรจากธุรกิจใหม่ (New Business Margin) เพิ่มขึ้น 2 จุดเปอร์เซ็นต์ นายอนิล วัธวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล เปิดเผยว่า “เรายังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตด้วยคุณภาพที่เน้นการสร้างกำไรจากธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการดำเนินงาน ที่แข็งแกร่งไตรมาสแรกปีนี้ ได้สะท้อนภาพรวมของผลตอบแทนธุรกิจที่เป็นบวกและการสร้างทุนที่มั่นคง แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของเราอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อยกระดับประสบการณ์และตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น อัตราผลกำไรจากธุรกิจใหม่ (NBP) ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 12% สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานที่เราวางไว้ในปีนี้ซึ่งคาดว่า กำไรจากธุรกิจใหม่ตลอดปีจะเติบโตเกินกว่า 10% การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มาจากผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลในหลายประเทศ ที่มีส่วนผลักดันให้เราเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและ อัตรากำไร(margin)ที่ขยายตัว 2 จุดเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยี และปรับปรุงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งเสริมศักยภาพด้วยการแต่งตั้ง มร. จอห์น ไช่ ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายขายช่องทางตัวแทนระดับภูมิภาค ควบคู่กับการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ดูแลตลาด ใน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม เรายังคำนึงถึงส่งมอบคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ พรูเด็นเชียล ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 442 ล้านเหรียญสหรัฐ (49 ล้านหุ้น) ภายใต้โครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 23 เม.ย. 2568 และยังอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ถึงการนำธุรกิจจัดการสินทรัพย์ในอินเดียเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งใจนำรายได้สุทธิส่งมอบให้แก่ ผู้ถือหุ้น ด้านสถานการณ์ความไม่แน่นอนด้านภาษีและมาตรการการค้าระหว่างประเทศที่กำลังเป็นประเด็นในตอนนี้ ผมเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ด้วยสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ผสานกับเครือข่ายธุรกิจของเราในหลายประเทศ…
บลจ.ยูโอบี มีความยินดีตอบรับเข้าร่วมนโยบายที่ทางกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Thai ESGX ล่าสุดผู้บริหารจาก บลจ.ยูโอบี นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ (ลำดับที่ 4 จากซ้าย) ร่วมกับสมาคมจัดการลงทุน (AIMC) พร้อมด้วย บลจ.ชั้นนำอื่นๆ ได้ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญโปรโมทกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนได้ทราบถึงประโยชน์และโอกาสของการลงทุนในกองทุน Thai ESGX ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันอังคารที่ 28 เมษายน 2568 ทาง บลจ. ยูโอบี ได้เปิดเสนอขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESGX) จำนวน 2 นโยบายเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนไทย สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด มิกซ์ 70/30 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (UMIX-TESGX) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (UEQ-TESGX) ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2568 เพื่อรองรับเงินลงทุนใหม่ และสำหรับเงินโอนจากองทุน LTF ที่ครบกำหนด จะเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568
บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด หรือ TQM เดินหน้าผลักดัน “ประกันมนุษย์เงินเดือน” อย่างต่อเนื่อง หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยได้พัฒนาความคุ้มครองให้ครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนทำงานยุคใหม่แบบรอบด้าน ทั้งด้านสุขภาพ อุบัติเหตุ และภัยไซเบอร์ เพื่อให้มนุษย์เงินเดือนมีหลักประกันที่มั่นคง และใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น พร้อมจัดแคมเปญพิเศษเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ มอบฟรีเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์ 1 ชิ้น และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “มนุษย์เงินเดือนคือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราเข้าใจดีถึงความเสี่ยงและภาระต่าง ๆ ที่คนทำงานต้องเผชิญในแต่ละวัน และจากผลตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมา ทำให้ ‘ประกันมนุษย์เงินเดือน’ ได้รับความนิยมในกลุ่มคนทำงานรวมถึงกลุ่มฟรีแลนซ์ที่มองหาหลักประกันที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ และการใช้ชีวิตประจำวัน ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติปีนี้ เราจึงอยากขอบคุณและส่งต่อกำลังใจให้กับทุกแรงที่ไม่เคยหยุด ผ่านแคมเปญพิเศษที่มอบทั้งความสุขและความคุ้มครองครบทุกความต้องการกับ 7 ความคุ้มครอง พร้อมมอบเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์ฟรี 1 ชิ้นต่อ 1 สิทธิ์ พร้อมรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท คุ้มครองนาน 90 วัน จำนวน 18,000 สิทธิ์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณแรงงานไทย ที่ยังคงเดินหน้าสู้ในทุกสถานการณ์” ผลิตภัณฑ์ในแคมเปญ “ประกันมนุษย์เงินเดือน” ที่รับประกันโดยกรุงเทพประกันภัย ครอบคลุม 7 กลุ่ม ความคุ้มครองหลัก ได้แก่ 1. ประกันสุขภาพ Health เบา เบา เหมาจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยใน เหมาะสำหรับผู้ไม่มีสวัสดิการจากที่ทำงาน 2. ประกันสุขภาพ Health Top Up สำหรับผู้มีประกันสุขภาพหลัก เช่น ประกันกลุ่มหรือประกันสังคม เสริมความคุ้มครองให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น 3. ประกันภัยโรคมะเร็ง Super Save ตรวจพบมะเร็ง รับเงินก้อนทันที พร้อมคุ้มครองค่ารักษาเคมีบำบัดและรังสีรักษา 4. ประกันภัยคุ้มครองโรคจากมลพิษ…
บลจ.กสิกรไทย มองหุ้นไทยปันผลสูงมีความน่าสนใจในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นยั่งยืนของไทยที่มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลสูง พร้อมส่งกองทุนใหม่ Thai ESGX เน้นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ได้แก่ K-HDThaiESGX ลงทุนในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 100% และ K-70ThaiESGX ลงทุนผสมในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 70% ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน 30% เปิดขายครั้งแรกเฉพาะเงินลงทุนใหม่ในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคมนี้ นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย)เปิดเผยว่า “หุ้นไทยปันผลสูง” ยังมีความน่าสนใจในระยะยาวอยู่มาก เนื่องจากคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนที่มีนโยบายจ่ายปันผลสูง โดยการลดดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินของบริษัท ส่งผลให้กำไรสุทธิมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว 2 กองทุน Thai ESGX ได้แก่ K-HDThaiESGX เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 100% และ K-70ThaiESGX เน้นลงทุนผสมในหุ้นยั่งยืนปันผลสูง 70% และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน 30% โดยมีรูปแบบให้เลือกลงทุน 2 Share Class ทั้งสำหรับเงินลงทุนใหม่ และสำหรับสับเปลี่ยนจาก LTF นายวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย กำหนดเปิดขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 2-8 พฤษภาคม 2568 เฉพาะ Share Class สำหรับเงินลงทุนใหม่ พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 300,000 บาท และเตรียมเปิดขายครบทั้ง 2 Share Class อีกครั้งในระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2568 จากทั้ง 2 Share Class สูงสุดถึง 600,000 บาท ทั้งนี้ การสับเปลี่ยนจาก LTF มายังกองทุน Thai ESGX สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 500,000 บาท…
Swiss Re เผยพายุเฮอริเคนและแผ่นดินไหวอาจทำให้ตัวเลขความเสียหายที่มีการประกันภัยสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเป็นอีกปีที่ถือว่ารุนแรงที่สุด สถาบัน Swiss Re ระบุในรายงานล่าสุดว่า จากแนวโน้มการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-7% ต่อปี ความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่มีการทำประกันภัย (Insured Loss) ทั่วโลกอาจสูงถึง 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 โดยสาเหตุหลักมาจากภัยรอง (secondary perils) เช่น พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง น้ำท่วม และไฟป่า อย่างไรก็ตาม ภัยหลัก (Primary perils) เช่น พายุเฮอริเคนและแผ่นดินไหว ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด และอาจทำให้ความเสียหายที่มีการประกันสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมากกว่านั้นในปีที่รุนแรงที่สุด ปี 2025 เริ่มต้นด้วยไฟป่าในลอสแอนเจลิส ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายที่มีการประกันภัยราว 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ภัยรองนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก แต่ภัยหลักก็ยังเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด (biggest threat) โดยหากเกิดพายุเฮอริเคนรุนแรงหรือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในเขตเมืองที่มีประชากรหนาแน่น ความเสียหายที่มีการประกันภัยไว้อาจสูงกว่าสองเท่าของตัวเลขแนวโน้มระยะยาว Urs Baertschi ซีอีโอฝ่ายประกันภัยต่อทรัพย์สินและวินาศภัยของ Swiss Re กล่าวว่า “นอกจากการช่วยลูกค้าจัดการความเสี่ยงแบบดั้งเดิมหรือ traditional risk แล้ว บริษัทประกันภัยต่อยังให้ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึก และความรู้เกี่ยวกับจุดเสี่ยงต่างๆ อุตสาหกรรมประกันภัยต่อเป็นเหมือนโช้คอัพที่รับแรงกระแทกเมื่อภัยใดๆ ขยายกลายเป็นภัยพิบัติ และยังเป็นพันธมิตรสำคัญในการหารือเรื่องการตระหนักรู้และป้องกันความเสี่ยงด้วย” ปีที่มีความเสียหายสูงสุด ซึ่งเกิดจากภัยหลักไม่กี่เหตุการณ์หรือจากการสะสมของภัยรองและภัยหลัก ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ โดยปีที่มีความเสียหายสูงสุดล่าสุดคือปี 2017 ซึ่งมีพายุเฮอริเคน Harvey, Irma และ Maria เป็นต้นเหตุ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ความเสี่ยงพื้นฐานได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจ ประชากร และการขยายตัวของเขตเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังมีบทบาทในการเพิ่มความเสียหายจากภัยพิบัติบางประเภทในบางภูมิภาคอีกด้วย ตามการประมาณการของ Swiss Re Institute พายุเฮอริเคนบางลูกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หากเกิดขึ้นในปัจจุบันจะก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวอย่างเช่น พายุเฮอริเคน Andrew สร้างความเสียหายที่มีการประกันภัยไว้ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1992 หากเกิดขึ้นในเส้นทางเดิม ในวันนี้ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นเกือบ…
บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2 นำโดย ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน (กลาง) กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมจากมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น พร้อมด้วยคณะกรรมการ (จากซ้ายไปขวา) นายกองเอกเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช กรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และนายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนและสรรหา โดยที่ประชุมฯ มีมติอนุมัติเห็นชอบทุกวาระการประชุมตามที่คณะกรรมการเสนอ ณ อาคารกรุงเทพประกันภัย สำนักงานใหญ่ ถนนสาทรใต้ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ นายภาณุพงศ์ ขันธโมลีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรวอลเลย์บอลสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง, สุพัตรา ไพโรจน์ และทีมนักกีฬาสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค ที่เดินทางมาเพื่อมอบถ้วยแชมป์ พร้อมแสดงความขอบคุณแก่ ทิพยประกันภัย ในฐานะผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขันวอลเลย์บอลไทยแลนด์ ลีก ฤดูกาล 2024–2025 ดร.สมพร สืบถวิลกุล กล่าวแสดงความยินดีกับทีมนักกีฬา โค้ช และทีมงานทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจ ฝ่าฟันอุปสรรค และมุ่งมั่นจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ตลอดเส้นทางตั้งแต่ฤดูกาล 2022–2023 จนถึงปัจจุบัน ทิพยประกันภัยได้ให้การสนับสนุนสโมสรสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค อย่างต่อเนื่อง และได้เห็นถึงความพยายาม ความทุ่มเท ความมีวินัย ตลอดจนจิตวิญญาณนักสู้ที่งดงามของทุกคน วันนี้เรารู้สึกยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นถ้วยแชมป์อีกครั้งในฤดูกาลต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ ทิพยประกันภัยยังมุ่งมั่นสนับสนุนวงการกีฬาหลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงในระดับสโมสร หากยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ผ่านการสร้างโอกาส จุดประกายแรงบันดาลใจ และเสริมสร้างศักยภาพนักกีฬารุ่นใหม่ เพื่อก้าวขึ้นสู่ทีมชาติและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติต่อไป” “กีฬาไม่เพียงเป็นเวทีแห่งการแข่งขัน หากยังหล่อหลอมคุณค่าอันสำคัญ อาทิ น้ำใจนักกีฬา ความสามัคคี การทำงานเป็นทีม ตลอดจนการส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งยังมีบทบาทในการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสมดุล เราพร้อมเดินหน้าสนับสนุนวงการกีฬาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” ดร.สมพร กล่าวทิ้งท้าย
นายเด่นพงษ์ เจษฎาวิริยะ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีเครื่องบินเล็กของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 6 ราย บริษัทฯ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่าน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เป็นผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ 1 ราย จึงได้ดำเนินการพิจารณาและอนุมัติการจ่ายสินไหมมรณกรรมอย่างเร่งด่วนตามโครงการไทยประกันชีวิตฮอตเคลม จำนวน 250,000 บาท โดยอยู่ระหว่างประสานงานกับผู้รับผลประโยชน์ในการส่งมอบสินไหมต่อไป
เมืองไทยประกันชีวิต ตอกย้ำนโยบายการตอบแทนสังคมเดินหน้าโครงการเพื่อมุ่งเน้น การสร้าง “คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน” โดยล่าสุดได้มอบเงินสนับสนุนจำนวนเงิน 16,110,000 บาท แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อร่วมสมทบทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การบริการทางการแพทย์ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 74 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ยึดมั่นในการดูแลและคุ้มครองประชาชนควบคู่กับการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตามนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง โดยการสนับสนุน ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์เจตนารมณ์ของบริษัทในการร่วมเสริมสร้างระบบสุขภาพไทย ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง โดยมอบเงินสนับสนุนแก่ ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสูง และเป็นแหล่งวิจัย ฝึกอบรม และเผยแพร่ความรู้ ด้านโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยในวงกว้าง ทั้งนี้ โรคหลอดเลือดสมองเป็นภัยเงียบที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงมุ่งดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร โดยทีมสหสาขาวิชา ครอบคลุมทั้งการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ติดตามอาการ และดูแลต่อเนื่องที่บ้าน พร้อมเป็นศูนย์กลางฝึกอบรม วิจัย และเผยแพร่ความรู้สู่สังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดอัตราการเจ็บป่วยและภาระต่อระบบสาธารณสุขอย่างยั่งยืน และบริษัทยังมอบเงินสนับสนุนใน “โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ครอบคลุม เข้าถึง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังมอบเงินสนับสนุนโครงการพัฒนาศูนย์ฯ เพิ่มเติมผ่านทางการกิจกรรมการจัดแสดงการเต้นรำระดับโลก “Rhythm Dance by The BYU Ballroom Dance Company” รวมเป็นจำนวนเงิน 6,000,000 บาท เพื่อมอบให้แก่“โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สำหรับ “โครงการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพด้านการดูแลรักษาโรคมะเร็งอย่างครบวงจร โดยมีการปรับปรุงอาคารเดิม 4 อาคาร ได้แก่ อาคารคัคคณางค์, อาคารนวมินทราชินี,…