Author: staff

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ประกาศผลประกอบการไตรมาส3 ปี 2567 โดดเด่นด้วยรายได้รวม 5,273 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 1,366 ล้านบาท โดยบริษัทเผยว่าการปล่อยสินเชื่อในโค้งสุดท้ายของปีนี้ยังเน้นการปล่อยสินเชื่อคุณภาพสูง ขณะเดียวกัน ความต้องการสินเชื่อเงินด่วนของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความจำเป็นและความเชื่อมั่นในการใช้บริการของประชาชนอย่างกว้างขวาง นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยสามารถทำกำไรสุทธิรวมได้ 1,366 ล้านเทียบกับไตรมาสเดียวกันหลังหักรายการพิเศษของปีก่อนจำนวน 1,200  ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 166  ล้านบาท หรือร้อยละ 13.83  อย่างไรก็ตาม หากเทียบกำไรจากการดำเนินงาน งวด 3/2567 กับ ผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส3/2566 ( ก่อนหักรายการพิเศษ ) บริษัท จะมีกำไรลดลง 58 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 4.1 ขณะเดียวกัน บริษัทยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 2,280 ล้านบาท ลดลง 6.82% ซึ่งเกิดจากการลดขาดทุนจากการขายสินทรัพย์รอการขายและค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายตามนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท “SAWAD มุ่งเน้นการเติบโตเชิงคุณภาพ ไม่เพียงแค่ลดค่าใช้จ่าย แต่ยังขยายการให้บริการไปยังพื้นที่ทั่วประเทศผ่านสาขาที่ครอบคลุม 5,600 แห่ง พร้อมยังให้บริการค้นหาข้อมูลประกันภัย และเข้าถึงบริการเสริมต่าง ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” ที่จะช่วยให้ลูกค้าจัดการสินเชื่อและประกันภัยได้สะดวกขึ้น แอปฯ นี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่เข้าถึงง่าย ช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบยอดชำระได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังเป็นการเข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิตอลอีกด้วย และในช่วงสุดท้ายของปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อคุณภาพ ควบคู่กับการควบคุม NPL ให้อยู่ในระดับเหมาะสมและมุ่งสู่การให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรมและยั่งยืน” นางสาวธิดากล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ ซึ่งเป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีผู้ค้ำประกัน และจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยจะเปิดให้จองซื้อปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้…

Read More

ธนชาตประกันภัย สนับสนุนการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2567 สืบสานแสงแห่งศรัทธา สัมผัสมนต์เสน่ห์แสงศิลป์ถิ่นวัฒนธรรม กระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมจัดกิจกรรม “กาดมั่ว ครัวธนชาต“ เปิดพื้นที่บริเวณทีทีบี สาขาท่าแพ ในวันที่ 16 พ.ย.67 ให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวร่วมดื่มด่ำบรรยากาศตลาดล้านนา อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมือง และชวนร่วมกิจกรรม “ฮ่วมใจ๋ ฟื้นฟูเจียงใหม่ ไปตวยกั๋น” ด้วยการเปิดรับบริจาคเงินเพื่อระดมทุนฟื้นฟูเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังมีบริการรถสองแถวรับ-ส่งฟรี! ให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าร่วมงานบริเวณประตูท่าแพด้วย   นางวิชินี โอรพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย กล่าวถึงความพิเศษของการร่วมสนับสนุนการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2567 ซึ่งธนชาตประกันภัยได้ให้ความสำคัญและร่วมสืบสานประเพณีมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มุ่งมั่นอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนาที่สืบทอดกันมา พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยปีนี้ได้จัดกิจกรรมพิเศษ เปิดกาดมั่ว ครัวธนชาต ในวันที่ 16 พ.ย.67 บริเวณธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีทีบี สาขาประตูท่าแพ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมือง และดื่มด่ำกับบรรยากาศของตลาดชาวเหนือแบบดั่งเดิม อีกทั้งยังมีกิจกรรม “ฮ่วมใจ๋ ฟื้นฟูเจียงใหม่ ไปตวยกั๋น” เชิญชวนลูกค้า นักท่องเที่ยว ร่วมแบ่งปันน้ำใจบริจาคเงินตามกำลังศรัทธา เพื่อร่วมระดมทุนฟื้นฟูเชียงใหม่ให้กลับมามีสีสันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน นอกจากนี้ ยังได้จัดบริการรถสองแถวรับ-ส่งฟรีให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 15 – 16 พ.ย.67 ตั้งแต่ช่วงเวลา 17:00 – 21:00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ และเข้าร่วมงานประเพณีเดือนยี่เป็ง บริเวณประตูท่าแพอีกด้วย “เงินบริจาคที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะมอบให้กับมูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อนำไปช่วยเหลือด้านสาธารณภัยพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากทั้งปัญหาน้ำท่วม ฝุ่นละออง และหมอกควันไฟป่า โดยมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการคืนคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนเชียงใหม่ โดยธนชาตประกันภัยพร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาเมืองเชียงใหม่ในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และศิลปวัฒนธรรม”นางวิชินี กล่าว งานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2567 โดยมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมประเพณีล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, การประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา, การแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสมกลางลำน้ำ, การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ, การประกวดเทพี-เทพบุตร ยี่เป็งเมืองเชียงใหม่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบรรยากาศความคึกคักให้กับการท่องเที่ยวฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2568 กระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าระดับท้องถิ่น และสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ โดยธนชาตประกันภัยพร้อมมอบความอุ่นใจด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัย ที่ครอบคลุมทั้งประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยบ้าน เพื่อให้ความคุ้มครองและลดผลกระทบทุกความเสี่ยงภัยในชีวิตประจำวัน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดีๆ ของธนชาตประกันภัย ได้ที่ Line Official Account “ธนชาตประกันภัย” และเฟซบุ๊กธนชาตประกันภัย Thanachartinsurance – TNI #TNIxYipengFest2024 #ธนชาตประกันภัย #ดูแลไวตรงใจคุณ #ThanachartInsurance #ยี่เป็งเชียงใหม่ #YiPengChiangMai #Yipengfestival

Read More

  กรุงเทพฯ, 13 พฤศจิกายน 2567 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คว้า 3 รางวัลระดับประเทศจากเวทีระดับภูมิภาค โดยได้รับการยกย่องจาก International Finance ในฐานะ “Best Foreign Retail Bank” ในประเทศไทย, รางวัล ABF Retail Banking Awards 2024 จาก The Asian Banking and Finance, และรางวัล TAB Global Excellence in Retail Financial Services Awards 2024 จาก The Asian Banker รางวัลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า ด้วยกลยุทธ์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และการนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า (Personalisation) นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Personal Financial Services (บุคคลธนกิจ) ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยได้ขยายความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น เมอร์เซเดส, การบินไทย, แม็คโคร, แกร็บ, ลาซาด้า และสายการบินสิงคโปร์ (SIA) ด้วยการเปิดตัวบัตรเครดิต Co-brand ทั้ง 6 ใบ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในระดับประเทศและภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ธนาคารยูโอบียังได้ร่วมมือกับ AEG, เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดตัว UOB LIVEศูนย์กลางความบันเทิงเอเชียและสถานที่จัดงานอีเวนต์ระดับโลกในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ธุรกิจลูกค้ารายย่อยของธนาคารเติบโตอย่างก้าวกระโดด รางวัลเหล่านี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของยูโอบี ประเทศไทย ในการมอบบริการตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า 2.5 ล้านราย ผ่านการให้บริการผ่านสาขาทั่วประเทศที่ครอบคลุมกว่า 147 สาขา ศูนย์สินเชื่อ 45 แห่ง และช่องทางดิจิทัล ทำให้ธนาคารได้รับข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าจากการให้บริการทั้งแบบตัวต่อตัวและแบบดิจิทัล…

Read More

Roddonjai แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองชั้นนำ โดยทีทีบีไดรฟ์ ประสบความสำเร็จก้าวสู่ปีที่ 2 กับพันธกิจในการยกระดับมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ครบวงจร เดินหน้ารุกตลาด “รถบ้าน” ด้วยคอนเซ็ปต์ Sell Smooth, Good Price หรือ ขายง่าย ได้ราคา พร้อมเปิดตัวโฆษณาใหม่ โดยมี “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็น พรีเซนเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของทีทีบี ที่มุ่งสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย ช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแบบครบวงจรให้กับกลุ่มลูกค้าคนมีรถ (Car Owners) สำหรับตลาดรถยนต์ธนาคารเล็งเห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรผู้ขายรถยนต์มือสองที่มีการแข่งขันสูง และพฤติกรรมของผู้ซื้อเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทีทีบีจึงต้องการช่วยพันธมิตรกลุ่มนี้ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อรถ จึงนำจุดแข็งของธนาคารสร้างโมเดลธุรกิจและแพลตฟอร์ม Roddonjai เพื่อเชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายเข้าด้วยกัน ด้วยมาตรฐานที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดรถยนต์มือสอง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับพันธมิตร ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีรถยนต์ที่ผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว ประกาศขายบน Roddonjai.com กว่า 65,000 คัน มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม 1.9 ล้านคนต่อเดือน ส่งผลให้สามารถขายรถยนต์ได้ถึง 38,000 คัน และมีลูกค้ามาใช้สินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ของธนาคารไปแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับจากความร่วมมือกับพันธมิตรดีลเลอร์รถยนต์มือสอง ไม่เพียงยกระดับมาตรฐานให้กับตลาด แต่ยังช่วยสร้างธุรกิจที่โปร่งใสและตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน “วันนี้ Roddonjai เข้าสู่ปีที่ 2 และพร้อมที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ขายอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “รถบ้าน” ซึ่งก็คือบุคคลทั่วไปที่มีความต้องการขายรถและประสบปัญหาในด้านการขายรถยนต์ด้วยตนเอง ซึ่งทีทีบีเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและจุดแข็งของธนาคาร จะสามารถช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อ-ขายรถบ้านบน Roddonjai ให้ดียิ่งขึ้นได้” นายปิติ กล่าวเสริม ด้านนายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์และทรานส์ฟอร์เมชัน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ในโอกาสที่ Roddonjai ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 จึงได้ต่อยอดความสำเร็จสู่การให้บริการแก่กลุ่มผู้ขาย “รถบ้าน” ซึ่งยังประสบปัญหาและอุปสรรคในการซื้อขายด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการถูกกดดันด้านราคา ช่องทางการขายที่จำกัด และการเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่สะดวก ซึ่งจากจำนวนผู้มีรถยนต์ในประเทศไทยกว่า 18 ล้านคัน และมีรถที่มีอายุใช้งานในระหว่าง 4-7 ปี ซึ่งมีโอกาสในการเปลี่ยนรถจำนวนเกือบ 11 ล้านคัน กลับมียอดจำหน่ายรถยนต์มือสองทั้งประเทศ 700,000 คัน ซึ่งหากเราสามารถสร้างบริการครบวงจร สร้างประสบการณ์การซื้อ-ขายรถบ้านบน Roddonjai ให้ดียิ่งขึ้นได้ จะช่วยเพิ่มการหมุนเวียนในตลาดรถยนต์มือสองมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายศักยภาพของตลาดรถยนต์มือสองให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด Roddonjai มีความตั้งใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ขาย “รถบ้าน” ให้สามารถขายได้ง่ายและได้รับราคาที่ดี ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขายและผู้ซื้อรถบ้านในยุคดิจิทัลอย่างครบถ้วน ด้วยคอนเซ็ปต์ Sell Smooth, Good Price หรือ ขายง่าย ได้ราคา โดยโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรถบ้าน ด้วยบริการดังนี้ ลงขายง่ายมีผู้ช่วย ด้วยบริการ Quick Selling Service มีผู้ช่วยลงขาย ถ่ายภาพ นัดหมายตรวจสภาพ และให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน บริการตรวจคุณภาพรถทุกคันผ่านการตรวจคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานสากลสูงสุด 274 จุด พร้อมรับรายงานการประเมินคุณภาพ การันตีคุณภาพรถให้ โปรโมตฟรี ทุกคันรถทุกคันที่ประกาศขายผ่านรถโดนใจ จะได้แพ็กเกจโฆษณาออนไลน์ ช่วยปิดการขายได้ไวขึ้น ขายได้ราคาผู้ขายสามารถตั้งราคาขายได้ด้วยตนเอง โดยมีตัวช่วยในการตั้งราคาด้วย ttb bluebook ที่ได้รับมาตรฐานสากล ช่วยให้การตั้งราคาได้ง่ายขึ้น ตามราคาตลาด บริการสินเชื่อถึงที่บริการจัดสินเชื่อให้ถึงที่ทั่วไทย ด้วยดีลดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว และโปรโมชันพิเศษจากทีทีบีไดรฟ์ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายและผู้ซื้อ สำหรับปีที่ 2 ของ Roddonjai ยังได้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” เป็นพรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวโฆษณาใหม่ในคอนเซ็ปต์ “อย่าให้ใครตีค่ารถคุณผิดๆ” ที่เปิดมุมมองใหม่ของการขายรถบ้าน และ Pain Point ต่าง ๆ ของผู้ขายรถบ้าน ที่มักถูกประเมินค่ารถต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อลงขายเอง มุ่งเน้นให้ผู้ขายเห็นถึงความสำคัญของการตั้งราคาที่เป็นธรรม ผ่านบริการของ Roddonjai ที่ให้ผู้ขายสามารถตั้งราคาขายได้เองตามมาตรฐานตลาดด้วย ttb bluebook Roddonjai เปิดโปรโมชันพิเศษให้กับผู้ที่ประกาศขายรถบ้านตั้งแต่วันนี้ รับแพ็กเกจผู้ขาย 3 ต่อ เฉพาะ 1,000 ท่านแรกเท่านั้น! ต่อที่ 1 แพ็กเกจประกาศขายมูลค่า 10,000 บาท ประกอบด้วย ตรวจสภาพรถยนต์ บริการผู้ช่วยลงขาย  บริการถ่ายภาพรถ แพ็กเกจโฆษณาออนไลน์ ต่อที่ 2 รับบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 1,000 บาท เมื่อแนะนำให้รถที่ประกาศขายจัดสินเชื่อกับทีทีบีไดรฟ์ ต่อที่ 3 รับบัตรของขวัญโลตัสมูลค่า 3,000 บาท เมื่อซื้อรถอีกครั้งที่ Roddonjai.com และจัดสินเชื่อกับทีทีบีไดรฟ์ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถบ้านที่ Roddonjai พร้อมจัดสินเชื่อผ่านทีทีบีไดรฟ์ รับอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.59% ต่อปี และรับฟรี!…

Read More

พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือร่วมกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน องค์กรการกุศลของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล พร้อมด้วยผู้บริหารและอาสาสมัครระดับภูมิภาค PRU Regional Volunteers กว่า 70 คน ลงพื้นที่ฟื้นฟูบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุและครอบครัวที่ประสบภัย จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่จังหวัดสุโขทัย   นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ตระหนักถึงผลกระทบระยะยาวต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านที่ประสบภัย เราจึงได้จัดทำแผนกิจกรรมฟื้นฟูที่อยู่อาศัย และช่วยฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบระยะยาวจากภัยพิบัติครั้งนี้ เพราะเราเชื่อว่าสังคมที่ดีคือสังคมที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าได้เพียงลำพัง หากสังคมขาดความเข้มแข็ง เราจึงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบและนำสังคมสู่ความ ตามเจตนารมณ์ ‘ชีวิตมีกัน ทุกวันดีกว่า’”           นางดิอานา กูซมัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืน กลุ่มบริษัท พรูเด็นเชียล กล่าวว่า “กลุ่มพรูเด็นเชียลตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศในภูมิภาคของเรา โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราจึงได้จัดกิจกรรมฟื้นฟูบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ และครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย วัตถุประสงค์หลักของกิจกรรมนี้คือการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ โดยการซ่อมแซมบ้านที่มีอยู่และสร้างบ้านใหม่ให้แก่ครอบครัวที่ขาดโอกาส รวมถึงการทาสีโรงเรียนและปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียนเก่าให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”           กิจกรรมฟื้นฟูบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุและครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยครั้งนี้ ถือเป็นโครงการที่ พรูเด็นเชียล พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ร่วมมือกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล จัดขึ้นโดยมีอาสาสมัคร “PRUVolunteers”  จากทั้งเอเชียและแอฟริกา รวมทั้งทีมผู้บริหารระดับสูงจากพรูเด็นเชียล ประเทศไทย และบลจ.อีสท์สปริง กว่า 70 คน จาก 16 ประเทศทั่วโลก มาร่วมกันซ่อมแซมและสร้างบ้านใหม่ทั้งหมด 12 หลัง

Read More

บลจ.กสิกรไทย มองเห็นโอกาสการลงทุนบนโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พักอาศัย จึงได้จัดตั้งกองทุน K-THRE24A-UI ขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ชูจุดเด่นลงทุนผ่านกองทุนหลัก CG Capital Real Estate Partners Fund I, L.P. เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ภาคการบริการ เช่น โรงแรม และ Branded Residence เป็นหลัก และเน้นพื้นที่ Key Tourist Destination ของไทย อาทิ ภูเก็ต กรุงเทพฯ กระบี่ และเกาะสมุย เป็นต้น เริ่มต้นลงทุน 500,000 บาท เปิดเสนอขายครั้งเดียว 11-25 พ.ย.นี้ นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด              (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พักอาศัยยังคงมีความน่าสนใจ โดยจากภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 สามารถพลิกฟื้นกลับมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีโอกาสขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีกในระยะยาว ประกอบกับทางภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจท่องเที่ยว จึงมีการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เอื้อต่อนักท่องเที่ยวและการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ อาทิ การขยายสนามบิน การขยายสายรถไฟฟ้า และการขยายเส้นทางด่วนใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองเห็นโอกาสการลงทุนบนโปร      เจกต์อสังหาริมทรัพย์ไทย จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค Thailand Real Estate 24A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-THRE24A-UI) สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น เริ่มต้นลงทุน 500,000 บาท โดยเปิดเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 11 – 25 พฤศจิกายน 2567 นายวจนะกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-THRE24A-UI มีอายุโครงการประมาณ 9…

Read More

13 พ.ย. 2567 – บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ กลุ่มทิสโก้ ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 367 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคะเเนนการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2567 ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 808 บริษัท สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยรายงานผลสำรวจ Corporate Governance Report of Thai Listed Companies หรือ CGR ประจำปี 2567 ปรากฎว่า บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ กลุ่มทิสโก้ ได้รับคะเเนนการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) หรือ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 จากการสำรวจและติดตามพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งพิจารณาจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1) สิทธิของผู้ถือหุ้นและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน 2) การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียและการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 3) การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และ 4) ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า กลุ่มทิสโก้มุ่งดำเนินธุรกิจให้เติบโตด้วยความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกับชุมชน สังคม และเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ “Sustainable Focus” การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการและมีบรรษัทภิบาลที่ดี (Governance) ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental) และสังคม (Social) เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจและองค์กร ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ (Trust)…

Read More

บริษัท เงินให้ใจ จำกัด บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย ประกาศเดินหน้าให้บริการสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน ภายใต้แบรนด์ “เงินให้ใจ” มุ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกอาชีพ ทุกครัวเรือน เข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้น ด้วยจุดเด่น เข้าถึงบริการง่าย สะดวกและมั่นใจได้ สมัครที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือผ่าน K PLUS ชูความแตกต่างด้วยการเปลี่ยนมุมมองต่อสินเชื่อรถให้เป็นตัวช่วยต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิต แค่มีรถ มีใจ ก็มีโอกาสไปต่อ เตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2569 นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินให้ใจ จำกัด เปิดเผยว่า “เงินให้ใจ” มุ่งให้บริการรถแลกเงินเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำ เจ้าของร้านค้ารายเล็ก กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อย และพนักงานเงินเดือน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้สะดวกและง่ายขึ้น พร้อมด้วยมาตรฐานบริการที่ลูกค้าสามารถมั่นใจในความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถต่อยอดโอกาสในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น โดยยึดนโยบายการปล่อยสินเชื่อใหม่อย่างมีคุณภาพ ร่วมกับมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารกสิกรไทยที่มุ่งส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยเงินให้ใจหวังที่จะเปลี่ยนมุมมองการขอสินเชื่อในระบบไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ปัจจุบัน เงินให้ใจให้บริการรถแลกเงิน ประเภทสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ และประเภทสินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ ทั้งรถส่วนบุคคลและรถเชิงพาณิชย์ สมัครผ่านสาขาของธนาคารกสิกรไทย 789 แห่งทั่วประเทศ หรือ K PLUS แพลตฟอร์มโมบายแบงก์กิ้งที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 22.9 ล้านราย รวมถึงเว็บไซต์ www.ngernhaijai.com ลูกค้าทุกอาชีพสามารถยื่นขอกู้ได้ เลือกผ่อนชำระได้ตามกำลัง และเมื่อเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทยจะยื่นเอกสารในการขอกู้น้อยลง เงินให้ใจ พลิกเกมการตลาดโดยเปลี่ยนมุมมองให้เห็นถึงความสำคัญของรถว่าเป็นสินทรัพย์มีค่า สามารถเปลี่ยนเป็นเงินทุนได้ และเงินให้ใจก็เป็นเหมือนตัวช่วยต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ๆ เน้นสร้างการรับรู้ด้วยกลยุทธ์การสื่อสาร 360 องศา จากการดึงอินไซต์ลูกค้าในกลุ่มคนที่ไม่มีรายได้ประจำ อาชีพอิสระ เจ้าของธุรกิจ และพนักงานเงินเดือน ที่มีใจมุ่งมั่นมองหาโอกาสในชีวิตหรือต่อยอดกิจการ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโฆษณาออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีสื่อโฆษณานอกบ้านและกิจกรรมออนกราวด์ตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ รวมถึงการสื่อสารผ่านช่องทางของอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ทั้งแบงก์และนอนแบงก์ ยังมีโอกาสเติบโต โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 มีการขยายตัว 25.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ชะลอลงจาก 36.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ณ สิ้นปี แต่บริษัทยังมองเห็นโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าธนาคารที่ยังไม่เคยมีวงเงินสินเชื่อ และเป็นเจ้าของรถมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านราย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้อาจต้องการเงินทุนหรือเงินหมุนไปใช้จ่ายในโอกาสที่จำเป็นของตัวเอง เงินให้ใจ รถแลกเงินจึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้…

Read More

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  ร่วมสนับสนุนโครงการประกวดคลิปวีดีโอ “Thailand Tomorrow  คนรุ่นใหม่ทำความดีเพื่อสังคม” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยกรมกิจการเด็กเเละเยาวชน  มูลนิธิพุทธภูมิธรรม ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)  มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงศักยภาพและไอเดียสร้างสรรค์ ผ่านการสร้างสรรค์คลิปวีดีโอที่สะท้อนการทำความดีเพื่อสังคม นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมพิธีประกาศผลและมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในการประกวดครั้งนี้ ซึ่งมีรางวัลรวมมูลค่ากว่า 160,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี ภายในงานยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรต่าง ๆ ร่วมแสดงความยินดี ได้แก่ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน, รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และอาจารย์วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม โดยพิธีจัดขึ้น ณ อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

Read More

เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าสร้าง Senior Ecosystem เข้าร่วมลงทุนใน นายา และลิฟเวล ผนึกกำลังยกระดับ โครงการ “นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล” ขึ้นแท่นที่อยู่อาศัยสำหรับวัยอิสระ เติมเต็มความสุข ความอุ่นใจ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบวงจร ตอกย้ำนโยบายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเพื่อก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต ตระหนักและให้ความสำคัญกับการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงวัย รวมไปถึงการสร้าง Senior Ecosystem เพื่อเติมเต็มการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและก้าวสู่วัยอิสระอย่างมีคุณภาพ และตอบรับต่อนโยบายการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจประกันภัยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย  (คปภ.) ที่มุ่งหวังส่งเสริมในประเด็นด้านการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนในการดูแลสังคมและคุณภาพในกลุ่มสูงวัย ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต  ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท นายา เรสซิเด้นซ์ จำกัด และ บริษัท ลิฟเวล ลิฟวิ่ง จำกัด เพื่อผนึกจุดแข็งและความเชี่ยวชาญ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้สูงวัย พร้อมร่วมกันยกระดับ“นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล (Naya Residence by LivWell)” โครงการที่อยู่อาศัยแนวคิดใหม่เพื่อผู้สูงวัย ในกลุ่มวัยอิสระ บนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นนทบุรี ที่เพียบพร้อมไปด้วยการบริการดูแลด้านสุขภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันโดดเด่นด้วยการออกแบบให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอิสระในแบบ Active Ageing ได้ยาวนานที่สุด ควบคู่การสร้างความสุขทางกาย ทางใจ และความอุ่นใจรอบด้าน นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานกรรมการ, กรรมการบริหาร บริษัท นายา เรสซิเด้นซ์ จำกัด กล่าวว่า การผสานความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการร่วมกันสร้างความสุข ความอุ่นใจ และช่วยวัยอิสระได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น  และยังถือเป็นการตอบรับต่อสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุเติบโตอย่างก้าวกระโดด แนวคิด “Senior Living” ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของผู้สูงวัยในยุคปัจจุบัน ด้วยรูปแบบการอยู่อาศัยที่ผสมผสานระหว่างความเป็นอิสระและการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ทำให้ Senior Living จึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในยุคที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ และ “นายาเรสซิเดนซ์…

Read More