Author: staff

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดยนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย ดร. สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ รับ 2 รางวัลใหญ่ “สุดยอดองค์กรนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี 2564” ประกอบด้วย รางวัลสินค้าประเภทประกันชีวิตและประกันภัย กลุ่มประกันสุขภาพ โครงการ Extra Care Plus และรางวัลสินค้าประเภทประกันชีวิตและประกันภัย กลุ่มการบริการ Application MTL Click ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งเดียวที่ได้รับ 2 รางวัลดังกล่าว จัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ ในโครงการ “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2021” ขึ้นเพื่อคัดเลือกสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมในหลากหลายประเภทสินค้า โดยผ่านการคัดเลือกจากทีมบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งคะแนนโหวตจากประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อมอบรางวัลในครั้งนี้ ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่

Read More

หลังการรวมกิจการของทีเอ็มบีและธนชาตอย่างสมบูรณ์ มาเป็น “ทีเอ็มบีธนชาต” โดยเป็นธนาคารที่มีลูกค้ารวมกว่า 10 ล้านราย พร้อมเป้าหมายการสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต ในส่วนของผลิตภัณฑ์บัญชีเพื่อใช้ “ทีทีบี ออลล์ฟรี” (ttb all free) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ “ฮีโร่” ของธนาคาร ที่ยืนหยัดการเป็นผู้นำเทรนด์ความฟรีที่ให้ฟรีค่าธรรมเนียมมาก่อนใคร และต่อมาได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ประกันอุบัติเหตุฟรีซึ่งเป็นประกันขั้นพื้นฐานที่คนไทยทุกคนควรมี ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงหากเกิดอุบัติเหตุ ในวันนี้ ttb all free ยังคงเดินหน้าต่อ เพื่อตอกย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ให้ลูกค้า “ใช้ชีวิตฟรีรอบด้าน” ในทุกสถานการณ์ และล่าสุดได้ต่อยอดสู่ “บัตรเดบิต ออลล์ฟรี ดิจิทัล” ที่เน้นจุดขายเรื่องสิทธิประโยชน์ด้านการใช้จ่ายออนไลน์ซึ่งเป็นช่องทางหลักในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ หัวหน้าบริหารการตลาดลูกค้าบุคคลและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบี ธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า “แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝาก ttb all free เรายังคงตอกย้ำจุดเด่นด้าน “ใช้ชีวิตฟรีรอบด้าน” พร้อมทั้งการพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ และช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายได้อย่างแท้จริง โดยล่าสุดธนาคารได้พัฒนาบัตรเดบิต ออลล์ฟรี ดิจิทัล ซึ่งลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั้งแรกเข้าและรายปี และไม่ต้องพกบัตร ลดการสัมผัสเงิน ทั้งยังอัปเกรดความคุ้มค่าในการใช้จ่ายผ่านออนไลน์ให้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” “ผู้ใช้บัตรเดบิตออลล์ฟรี ดิจิทัล ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ไม่แตกต่างจากการถือบัตรแข็งแบบเดิม แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์หลายคนต้อง Work From Home และร้านค้าต้องปิดให้บริการจึงไม่สะดวกในการนำบัตรแข็งไปรูดใช้จ่ายตามร้านค้าหรือผู้ให้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าการใช้จ่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้กลายเป็นช่องทางที่จำเป็นในปัจจุบัน ดังนั้น บัตรเดบิตออลล์ฟรี ดิจิทัล จึงเข้ามาตอบโจทย์การใช้จ่ายที่สะดวกคล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้งได้สิทธิประโยชน์ด้านโปรโมชันในเรื่องการใช้จ่ายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นโค้ดส่วนลดค่าส่งและค่าอาหารจากแอปพลิเคชัน Food Delivery อาทิ LINEMAN GrabFood และ Online Shopping อาทิ Shopee เพื่อทำให้ทุกการใช้จ่ายของลูกค้าประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น และเมื่อผูกบัตร เดบิตออลล์ฟรี ดิจิทัล ไว้กับแอปพลิเคชันเมื่อเวลาใช้จ่ายชำระเงิน ก็ง่าย กดจ่ายได้เลยทันที” นางสาวนันทพร กล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ สิ่งที่สะท้อนความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อมาใช้งานบัตรเดบิตออลล์ฟรี ดิจิทัล คือลูกค้าจะได้รับคะแนน wow คืน 1% ทุกการใช้จ่ายออนไลน์…

Read More

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกลุ่มบริษัท เอไอเอ สานต่อกิจกรรม AIA Live 2021 กิจกรรมออนไลน์เพื่อสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่ของเอไอเอ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังจากได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีในปีแรกด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50,000 คนทั่วภูมิภาค โดยกิจกรรม AIA Live 2021 จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้คนทั่วภูมิภาคได้มีการดูแลสุขภาพแบบรอบด้านจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยแขกรับเชิญระดับโลก ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทั่วโลกที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนนั้น ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต โดยชีวิตวิถีใหม่นี้คาดว่าจะดำรงอยู่กับเราไปอีกสักพัก ซึ่งถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ในด้านความอดทน ความคิดบวก ความมุ่งมั่น และความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลกในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ ต่อยอดจากความสำเร็จในปีที่แล้ว ปีนี้ AIA Live 2021 นำโดย แอมบาสเดอร์ด้านสุขภาพของครอบครัวเอไอเอ เดวิด เบ็คแฮม AIA Global Ambassador แขกรับเชิญคนพิเศษจากประเทศไทย โค้ชมิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและเทรนเนอร์สุดฮอต โค้ชชื่อดังจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากทั่วทุกมุมโลกที่จะมามอบมุมมองใหม่ๆ ในการหาเป้าหมายและการมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรงในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ผ่านสาระความรู้ 4 แขนง ได้แก่ • Mental Wellness: เจาะลึกกับปรัชญาการใช้ชีวิตแบบอิคิไก (Ikigai) และ นาโงมิ (Nagomi) กับ ดร.เคน โมงิ นักประสาทวิทยาและผู้เขียนหนังสือขายดี The Little Book of Ikigai • Physical Wellness: ค้นพบวิธีการออกกำลังกายใหม่ ๆ มาเคลื่อนไหวร่างกายและจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับศาสตร์แห่งไทเก็กพร้อม เดวิด เบ็คแฮม โกลบอลแอมบาสเดอร์ของเอไอเอ และคลาสเรียกความฟิตกับโค้ชมิกกี้ นนท์ อัลภาชน์ และโค้ชจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ • Nutritional Wellness: ส่งเสริมให้ได้ลองสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ เรียนรู้วิธีการเตรียมอาหารให้สนุกและอร่อย แถมยังดีต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อม…

Read More

 “ลุมพินี วิสดอม” ระบุแนวโน้มการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานมาแรง ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลภาวะในระยะยาว หลังจากกระทรวงพลังงานคลอดเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564   นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom หรือ LWS)  บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่า หลังจากที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ออกกฎกระทรวงเกณฑ์การออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน หรือ Building Energy Code : BEC ด้วยการกำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการออกแบบอาคาร เพื่อให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา   โดยในปี 2564 ได้นำมาใช้กับอาคารขนาด 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป  ในขณะที่อาคารขนาด 5,000ตารางเมตรขึ้นไปจะมีผลในปี 2565 และอาคารขนาด 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป มีผลในปี 2566  ตามลำดับ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานในประเทศมากขึ้น  จากรายงานของกระทรวงพลังงานพบว่า ตั้งแต่ปี 2552-2563 มีจำนวนอาคารที่ได้รับการประเมินเป็นอาคารประหยัดพลังงานตามเกณฑ์ของ BEC จำนวน 850 อาคาร มีการประหยัดพลังงานได้ 630 ล้านหน่วย โดยกระทรวงพลังงานมีเป้าหมายว่าภายใน 20 ปี นับจากปี 2561 ถึงปี 2581   การสร้างอาคารประหยัดพลังงานจะทำให้ประเทศไทยสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 13,700 ล้านหน่วยต่อปี  คิดเป็นเงินกว่า 47,000 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ไม่น้อยกว่า 7,282 ตันต่อปี    “การสร้างอาคารประหยัดพลังงานเป็นประโยชน์ในระยะยาวกับเจ้าของอาคารและผู้ใช้อาคาร ซึ่งนอกจากประเด็นเรื่องของการประหยัดการใช้พลังงานในระยะยาวแล้ว  การออกแบบอาคารประหยัดพลังงานยังมีส่วนสำคัญในการสร้างสุขอนามัย (Wellbeing) ที่ดีในการอยู่อาศัย   และการใช้ประโยชน์ภายในอาคาร” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว  จากการศึกษาของทีม “ลุมพินี วิสดอม” พบว่า การพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่า เกรด B ประหยัดพลังงานขนาด 10,000 ตารางเมตร จะสามารถประหยัดพลังงานได้เฉลี่ย  270,000   กิโลวัตต์ต่อปี   คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1.12 ล้านบาทต่อปี และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่า 151,470 กิโลกรัมคาร์บอนเทียบเท่าต่อปี ในขณะที่ต้นทุนการก่อสร้างอาคารประเภทนี้สูงกว่าการสร้างอาคารปกติ ประมาณ 0.6%เมื่อเทียบความสามารถในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานกับต้นทุนการก่อสร้างแล้ว แต่ละอาคารจะใช้เวลาในการคืนทุนจากต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นภายในระยะเวลา 4.5-5 ปี โดยเฉลี่ย   โดยการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานจะให้ความสำคัญในการออกแบบครอบคลุมระบบเปลือกอาคาร ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบผลิตน้ำร้อน และการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในอาคาร เป็นหลัก  นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า อาคารประหยัดพลังงานไม่เพียงสามารถออกแบบและพัฒนาอาคารขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาอาคารขนาดเล็ก ที่พักอาศัยทั้งอาคารชุดพักอาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ รวมถึงสามารถนำไปปรับปรุงอาคารเก่าให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานได้ โดยการนำเกณฑ์ในการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานมาใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเจ้าของและผู้ใช้งานในอาคารได้ในระยะยาว ที่ผ่านมา “ลุมพินี วิสดอม” ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้มีการให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานแล้ว 15 โครงการ ช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 135 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี    “ถือว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานให้กับประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อเป็นประโยชน์กับส่วนรวมและการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน”  นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

Read More

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)   ผนึกกำลังกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารชั้นนำของประเทศไทย เปิดบริการให้คำปรึกษา ทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ สำหรับลูกค้าเอไอเอส (AIS) และเอไอเอสไฟเบอร์ (AIS Fibre) ผ่าน แอปพลิเคชัน Pulse by Prudential (Pulse) สุดยอดแอปพลิเคชันด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวมสำหรับผู้บริโภคทุกคนแอปแรกในเอเชีย ในราคาโปรโมชั่นพิเศษเพียง 199 บาท (จากราคาปกติ 375 บาท) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ โดยลูกค้าทุกคนสามารถรับคำปรึกษาทางการแพทย์จากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การรักษาในโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย ซึ่งได้รับการฝึกอบรมและการรับรองสำหรับการให้คำปรึกษาทาง การแพทย์แบบออนไลน์โดยเฉพาะ รวมถึงผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด จนพร้อมให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาโรคทั่วไป อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัสอักเสบ หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมถึงประเมินอาการที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านระบบการนัดหมายและ ให้คำปรึกษาทางออนไลน์ คุณซูซาน แฟนนิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจสุขภาพ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ผ่านแอป Pulse by Prudential นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ระบบสาธารณสุขไทยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย ซึ่งพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ในฐานะบริษัทประกันชั้นนำ มั่นใจว่าดิจิทัลโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพของเราจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและดูแลสุขภาพของคนไทยให้สามารถก้าวผ่านสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น โดยเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับเอไอเอส ในการสนับสนุนลูกค้าในช่วงการระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการมอบประกันที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ฟรี ซึ่งถือเป็นเป็นเจ้าแรกในตลาดที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 250,000 บาท ตามด้วยความคุ้มครองเพิ่มเติมสูงสุด 550,000 บาท ให้กับลูกค้าเอไอเอส กว่า 1 ล้านคน ฟรี” “นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังปกป้องคนไทยจากการระบาดของโรคภัยอื่น ๆ อย่างโรคไข้เลือดออก ที่เราได้นำเสนอแผนประกันราคาพิเศษสำหรับ PRUDengue แบบครบวงจรให้กับลูกค้าเอไอเอส เพื่อคุ้มครอง พวกเขาจากโรคร้ายนี้ นับเป็นความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับ AIS เพื่อเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า และประชาชนทุกคนให้สามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ราคาเป็นมิตรและเข้าถึงได้ และมุ่งหวังว่าการร่วมมือกันเป็นพันธมิตรของทั้งสองบริษัทจะเข็มแข็งมากขึ้น เพื่อทำให้ผู้คนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีและปลอดภัยมากขึ้นไปอีก” คุณซูซาน กล่าวเพิ่มเติม

Read More

อลิอันซ์ อยุธยา ได้รับรางวัลเหรียญทอง GOLD STEVIE® WINNERS ประเภทการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์พนักงานยอดเยี่ยม จากเวที International Business Awards® (IBA) ประจำปี 2564 จากการจัด GAME NIGHT INTERACTIVE virtual staff party โดยเป็นรางวัลด้านธุรกิจระดับโลก ที่มอบให้แก่บุคคลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ในปีนี้มี 3,700 องค์กรจาก 65 ประเทศทั่วโลกส่งผลงานเข้าประกวด มร.โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทฯมีความยินดีและภาคภูมิใจกับรางวัล GOLD STEVIE® WINNERS ประเภทการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์พนักงานยอดเยี่ยม เป็นอย่างมาก เพราะในช่วงสถานการณ์โควิดถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในการสร้างความสัมพันธ์ของพนักงานในองค์กร แต่เราก็ทำได้สำเร็จได้รับการยอมรับในระดับโลก กิจกรรม GAME NIGHT มีจุดเริ่มต้นจากการปรับงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ให้อยู่ในรูปแบบ virtual เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้การรวมตัวพนักงานกว่า 1,200 คนในแบบเดิมไม่สามารถทำได้ ความพิเศษในการจัดงานปีนี้ จึงเกิดขึ้น ด้วยการจับมือกับ HUI Team Design ซึ่งเป็น Concert Designer แถวหน้าของเมืองไทย เพื่อดีไซน์ภาพรวมงานทั้งหมดตลอด 3 สัปดาห์ พร้อมนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ร่วม ผ่านการทำแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อไว้เชื่อมต่อทุกคน ซึ่งก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของพนักงานเกือบ 100% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด ตั้งแต่มีการจัดกิจกรรมพนักงานมา โดยพนักงานทุกคน ถูกแบ่งเป็น 5 สี มีการเก็บคะแนนสะสมให้ทีมด้วยการออกกำลังกายแข่งขันกัน มีการแข่งตอบคำถามชิงรางวัล รวมถึงฟังก์ชั่นแชท ที่ให้แต่ละสีสามารถพูดคุยกันในทีมเพื่อให้กำลังใจและวางแผนการแข่งขัน โดยในกิจกรรมวันสุดท้าย จัดขึ้นที่สตูดิโอ โดยมีตัวแทนแต่ละสีเข้ามาที่สตูดิโอ และพนักงานที่เหลือจะอยู่ที่บ้านแต่ยังคงมีส่วนร่วมในการแข่งขันได้ผ่านแอปพลิเคชัน ถือเป็นวิธีที่สร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมตลอดทั้งงานได้เป็นอย่างดี สามารถชมภาพบรรยากาศกิจกรรมได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=BXihpI03Sgo ในปีนี้ การประกวด IBA ได้รับผลงานที่ส่งเข้าประกวดมากกว่า 3,700 ผลงานจากองค์กรจากหลากหลายอุตสาหกรรมและในหลากหลายประเภท การตัดสินผู้ชนะรางวัล Stevie Award พิจารณาจากคะแนนเฉลี่ยจากผู้บริหาร…

Read More

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้เอาประกันภัยหลายรายเข้าติดตามทวงถามเกี่ยวกับเคลมประกันภัยโควิด-19 ที่สำนักงานของบริษัทประกันวินาศภัยบางแห่งนั้น สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ออก 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วยมาตรการเข้าตรวจสอบข้อมูลบริษัทในเชิงลึก เพื่อติดตามสภาพปัญหาและกำชับการดำเนินการ มาตรการออกคำสั่งซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียน ทั้งในส่วนเรื่องร้องเรียนที่ยื่นมายังสำนักงาน คปภ. และที่ยื่นที่บริษัทประกันภัยโดยตรง ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้าแล้ว เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากสำนักงาน คปภ. ได้ออก 3 มาตรการเร่งด่วนดังกล่าวแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ได้มีการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของสำนักงาน คปภ. เพื่อหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวและการดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายกับบริษัทที่มีเจตนาประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์และสายกฎหมายและคดี โดยสำนักงาน คปภ. จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ ยังได้ออกคำสั่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพิ่มอีก 4 ชุด เพื่อช่วยกลั่นกรองและพิจารณาเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย กรณีที่มีปัญหาข้อโต้แย้ง อีกทั้งได้หารือเกี่ยวกับปัญหาข้อโต้แย้งต่าง ๆ ในทางปฏิบัติที่ทำให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้า โดยขั้นตอนต่อไปจะหารือร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สภาองค์กรผู้บริโภค สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ภายในวันที่ 15 กันยายน 2564 เพื่อให้เกิดความชัดเจนและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้ตรงกันต่อไป ในส่วนของทีมตรวจสอบ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจากการเข้าตรวจสอบพบว่า บริษัทประกันวินาศภัยดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 เพื่อให้สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และอยู่ระหว่างแจ้งผู้เอาประกันภัยเพื่อนัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนแล้ว อย่างไรก็ตาม คำสั่งสำนักงาน คปภ. เรื่อง ให้แก้ไขเพิ่มเติมคู่มือ ระบบงาน และกระบวนการดำเนินการพิจารณาและจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2564 กำหนดให้บริษัทต้องจัดตั้งหน่วยงานรับเรื่องเรียกร้องเคลมประกันภัยโควิด-19 เป็นการเฉพาะขึ้น และให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานประกอบการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้เสร็จใน 3 วัน หากเอกสารหลักฐานครบถ้วน ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน แต่หากพบว่าเอกสารหลักฐานประกอบไม่ครบถ้วน…

Read More

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI รับ 2 รางวัลใหญ่จากนิตยสารชั้นนำระดับโลก International Finance Awards 2020 ซึ่งจัดโดย International Finance Magazine (IFM) กับรางวัล Best Non-Life Insurance Company – Thailand โดยได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยความโดดเด่นจากการเป็นผู้นำในธุรกิจประกันวินาศภัยที่มีความมั่นคงแข็งแกร่ง มีระบบการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม โดยมีการนำนวัตกรรมมาใช้ในการบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้รับการยอมรับจากองค์กรต่างๆ และสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Best Non-Life Insurance CEO ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรที่มีวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำ มีความรู้ความสามารถที่โดดเด่น และนำประสบการณ์อันเชี่ยวชาญด้านประกันวินาศภัยบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จเติบโตอย่างยั่งยืน รางวัล International Finance Awards จัดโดย International Finance Magazine (IFM) นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งรางวัลดังกล่าวจะมอบให้บริษัทหรือบุคคลที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ โดยผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความโปร่งใสซึ่งได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างดี

Read More

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้า จับมือ “เอสโซ่” เปิดตัวบัตรเครดิตเติมน้ำมัน Esso Fleet Card ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขับเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ให้เติบโตต่อได้อย่างยั่งยืน นายวิสูจน์ ตั้งอดุลย์รัตน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำเป็นต้องปรับตัวและมีการวางแผนการจัดการต้นทุนอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) พบว่ากลุ่มเอสเอ็มอีและธุรกิจในกลุ่มขนส่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญของประเทศไทยและถือเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทาน ที่ช่วยเชื่อมโยงธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีขนาดรายได้รวมถึง 1 ล้านล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายเป็นสัดส่วนต่อรายได้สูงถึง 77% โดยค่าใช้จ่ายหลักที่เป็นต้นทุนของธุรกิจ คือ ค่าน้ำมันในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการให้บริการ หรือการส่งมอบผลผลิตหรือวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจแทบทุกด้านจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ธุรกิจขนส่งสินค้ายังมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากผลของมาตรการ work from home ทีเอ็มบีธนชาต จึงได้ร่วมมือกับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำเสนอผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต เติมน้ำมัน Esso Fleet Card ที่ตอบโจทย์การใช้งานแก่ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี สามารถบริหารค่าใช้จ่ายน้ำมันและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์และรถทุกชนิดเพื่อการใช้งานทางธุรกิจ นายเจษฎา ชั้นเชิงกิจ กรรมการและผู้จัดการฝ่ายการตลาดขายปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำการให้บริการสถานีน้ำมันคุณภาพระดับโลก ที่มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันกว่า 700 แห่งทั่วประเทศไทย เอสโซ่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยบริหารสถานการณ์ และตอบสนองการเติบโตทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตเติมน้ำมัน Esso Fleet Card ซึ่งทางเอสโซ่มั่นใจว่า จะสามารถเพิ่มศักยภาพและช่วยผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีในการบริหารต้นทุนและจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงโอกาสในการใช้บริการสถานีน้ำมันเอสโซ่ได้โดยง่าย และได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำมันคุณภาพที่ทั่วโลกยอมรับ ที่ผ่านการกลั่นจากโรงกลั่นของเอสโซ่ในประเทศไทย พร้อมควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานในทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้านนางกนกพร จูฑา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวว่า…

Read More

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มอบความอุ่นใจในสุขภาพให้สมาชิกบัตรฯ ด้วยการรวบรวมบริการตรวจภูมิคุ้มกัน (Covid19 Antibody Level Test) จากโรงพยาบาลชั้นนำที่ร่วมรายการ อาทิ โรงพยาบาล นวเวช / โรงพยาบาลเมดพาร์ค / โรงพยาบาลวิภาวดี / โรงพยาบาลเจ้าพระยา และโรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมมอบสิทธิพิเศษ แลกรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อชำระค่าบริการตรวจภูมิคุ้มกันผ่านบัตรเครดิตเคทีซี พร้อมใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน โดยสมาชิกรับสิทธิ์ผ่าน SMS พิมพ์ HOP เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ส่งมาที่เบอร์โทรศัพท์ 061 384 5000 (ค่าส่งครั้งละ 3 บาท) หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://ktc.promo/antibody-level-test ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2564 – วันที่ 30 กันยายน 2564 ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่: https://bit.ly/apply-ktc

Read More