นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร “งานปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและความปลอดภัย” ซึ่งบริษัทฯ จัดขึ้นเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ด้านการให้บริการงานซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ให้แก่ สมาชิกศูนย์ซ่อมมาตรฐาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริการสินไหมทดแทน ในพื้นที่ฝ่ายปฏิบัติการภาค 3 (ภาคตะวันออก) โดยได้รับเกียรติจาก ดร. นภดล กลิ่นทอง ข้าราชการบำนาญ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ ณ โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี สำหรับการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เป็นการขยายผลการจัดอบรมต่อเนื่องจากพื้นที่ส่วนกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ออกสู่ภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคใต้ และภาคตะวันออก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการงานซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรและอยู่บนมาตรฐานเดียวกันทุกศูนย์ซ่อมมาตรฐานทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนารูปแบบและตรวจสอบคุณภาพการบริการ ด้วยการกำหนดมาตรฐานการตรวจประเมิน รวมถึงยกระดับคุณภาพศูนย์ซ่อมฯ ให้สอดคล้องและทันต่อเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดีและการจัดซ่อมที่มีคุณภาพจากศูนย์ซ่อมฯ ในเครือวิริยะประกันภัยที่ครอบคลุมมากกว่า 600 แห่ง และดีลเลอร์อีกกว่า 1,100 แห่งทั่วประเทศ
Author: staff
โดยศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอนเกิล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2546 เอไอเอ ประเทศไทย เดินหน้าจัดงาน AIA Nobel Laureates Luncheon Talk Series ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Japan-ASEAN Bridges Event Series ร่วมกับ The International Peace Foundation ในหัวข้อ “A Financial Approach to Climate Risk” โดยศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอนเกิล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2546 ซึ่งได้ค้นพบโมเดล Autoregressive Conditional Heteroskedasticity (ARCH) ที่นำมาใช้วิเคราะห์ความผันผวนของดัชนีหลักทรัพย์ รวมไปถึงการคิดค้น “แผนป้องกันความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ” (Climate Hedge Portfolios) ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงระยะยาวที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของทุกคน เพื่อต่อยอดความมุ่งมั่นของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพชีวิตและสุขภาพการเงินที่มั่นคงอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ร่วมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากหลากหลายสถาบันที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดงานอันทรงคุณค่าอย่าง AIA Nobel Laureates Luncheon Talk Series เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงเป้าหมายของเราที่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วมกับสังคมและผู้คนอย่างน้อยหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573 แน่นอนว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change ได้กลายเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจโลก ในฐานะที่เอไอเอเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง ที่นอกจากจะมอบความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพแล้ว เรายังเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นด้าน ESG มาอย่างต่อเนื่องผ่านการลงทุนในหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนั้นเรายังตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี…
ธ.ก.ส. เติมทุนกว่า 2,000 ล้านบาท รักษาเสถียรภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ปีการผลิต 66/67 ผ่านสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนให้กับสถาบันเกษตรกรในการรับซื้อ รวบรวมและแปรรูปผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย วงเงินรวม 1,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง วงเงินรวม 690 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR-3 ต่อปี แจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายสุนัน พงศ์ประยูร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ปีการผลิต 66/67 วงเงินรวม 2,190 ล้านบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันเกษตรกรในการรับซื้อ รวบรวมและแปรรูปผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตเกษตรกร เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและเพิ่มคุณภาพผลผลิตในการจำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ 1) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2565/66 วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อ รวบรวมหรือแปรรูปข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2566/67 กับกรมส่งเสริมการเกษตร คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทั้งการรับซื้อ รวบรวม แปรรูป หรือใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ วงเงินแบ่งตามประเภทลูกค้า ได้แก่ 1) สหกรณ์การเกษตร วงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท 2) กลุ่มเกษตรกร วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท และ 3) วิสาหกิจชุมชน วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.50 ต่อปี โดยสถาบันเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปี และส่วนที่เหลือรัฐบาลรับหน้าที่ชดเชยให้ระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน แจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 พฤษภาคม 2567 2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร…
ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ ปี 2566 กำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 9,707 ล้านบาท ผลจากกำไรจากการรับประกันภัยเติบโตสูงถึง 12.5% ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของธุรกิจ มูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 5.4% และอัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) เพิ่มขึ้น 6.1 จุด มีอัตราถึง 62.8% ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานของกิจการเติบโตอีก 10.6% มีมูลค่าสูงถึง 160,580 ล้านบาท หรือ 14 บาทต่อหุ้น นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ (Value of New Business : VONB) อยู่ที่ 7,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 5.4% จากปี 2565 อัตรากำไรของธุรกิจใหม่ (VONB Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.1 จุด โดยมีอัตราถึง 62.8% ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์สูงถึง 9,707 ล้านบาท หรือเติบโต 4.8% เป็นผลจากความสามารถในการทำกำไรจากการรับประกันภัยที่เติบโตถึง 12.5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ขณะเดียวกันแม้ว่าจะ ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัว แต่บริษัทฯ ยังคงมีกำไรจากการลงทุน เนื่องจากพอร์ตการลงทุนของบริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น โดยพอร์ตการลงทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 มากกว่า 80% ของสินทรัพย์ลงทุนอยู่ในรูปแบบหนี้สินที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับกลุ่มน่าลงทุน “บริษัทฯ มุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์การขายผ่านช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งมูลค่ากำไรของธุรกิจใหม่ในปี 2566 เติบโตทุกช่องทางการขาย โดยช่องทางตัวแทนประกันชีวิตมีประสิทธิภาพด้านการขายที่ดีขึ้นและมุ่งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลกำไรอย่างยั่งยืน…
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยกำไรปี 2566 ที่ 1,855 ล้านบาท เติบโต 49.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โชว์เบี้ยประกันภัยรับ ทำนิวไฮ ที่ 34,797 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจประกันภัยเชิงรุก มุ่งสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจประกันภัยยุคใหม่ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และยกระดับการบริการอย่างครบวงจร และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนของ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้องค์กรแบบ New S-Curve ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของ ทิพยประกันภัย หรือ TIP ในปี 2566 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,797 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,222 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.8 ซึ่งถือเป็นเบี้ยประกันภัยรับต่อปีที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ TIP ประกอบกับมีรายได้และกำไรจากเงินลงทุนรวม 837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 143 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.7 ส่งผลให้ TIP มีกำไรสุทธิรวม 1,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 617 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 จำนวน 1,759 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นจำนวน 2.96 บาท ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยภายใต้กลุ่มธุรกิจสนับสนุนประกันภัย…
สิ่งแวดล้อม คือพื้นฐานของทุกชีวิต การใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จึงได้น้อมนำศาสตร์พระราชา “จากนภา ผ่านภูผา สู่มหานที” และแนวคิด ‘ESG’ ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม มาเป็นแนวทางในการจัดโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 37 โดยนำคณะครู-อาจารย์ ผู้บริหารองค์กรภาครัฐและเอกชน ร่วมถอดบทเรียนการดูแลสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม พร้อมทำกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม ณ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จังหวัดลำปาง เพื่อเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมและหนุนให้สังคมไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน บริษัท ทิพยประกันภัย ร่วมกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มูลนิธิธรรมดี สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย คุรุสภา และกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา เป็นประจำทุกเดือนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชน ครู-อาจารย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้าใจ เข้าถึงศาสตร์ของพระราชา และเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต สำหรับแนวพระราชดำริ “จากนภา ผ่านภูผา สู่มหานที” นั้น หมายถึง องค์ความรู้ด้านการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมองทุกอย่างแบบองค์รวม ทรงรู้ว่าทุกสิ่งนั้นถูกเชื่อมโยง และส่งผลต่อการเป็นวัฏจักร การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมต้องให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ฝนจากท้องฟ้าที่เป็นต้นกำเนิดของน้ำ ตกลงมาสู่ป่าเขาและฝืนดินไหลไปสู่แม่น้ำลำคลองและท้องทะเล หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในชุมชน ดังนั้น การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน จึงไม่สามารถมองข้ามสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับการดูแลสังคมให้มีความมั่นคง และยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่ไปกับแนวคิด ESG ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งที่ 37 นี้ จะเป็นการตอบโจทย์ความยั่งยืนในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ที่เป็นรากฐานให้กับทุกชีวิตในสังคม โดยจะเป็นการเดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่…
กรุงเทพประกันชีวิต ออกประกันสะสมทรัพย์ใหม่ ซื้อ 1 ได้ถึง 2 “กรุงเทพ สมาร์ท คิดส์” สนับสนุนทุกครอบครัวออมเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาลูก กับ 3 แบบประกัน ให้เลือกตามระยะเวลาคุ้มครองที่ต้องการ 15 ปี, 18 ปี และ 21 ปี ครบสัญญาจะได้รับเงินคืน 115%, 118% หรือ 121% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง พร้อมอุ่นใจกับความคุ้มครองพิเศษด้านอุบัติเหตุ และ 4 โรคร้ายแรงในเด็ก รวมทั้งคุ้มครองไปถึงคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย หากเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ลูกจะได้ยกเว้นการชำระเบี้ยประกันภัยและรับเงินก้อนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน พร้อมมั่นใจได้ว่าลูกจะมีเงินทุนเรียนต่อจนจบการศึกษาเพราะครบกำหนดสัญญามีเงินก้อนคืนให้ นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่แรกเกิด จนเข้าสู่วัยเรียนและจบการศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงการคลอดบุตร และการเลี้ยงดูในแต่ละช่วงวัย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนมีการปรับตัวสูงขึ้นตามยุคสมัย โดยพบว่า *ค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาชั้นอนุบาล อายุ 4 – 6 ปี จะอยู่ระหว่าง 24,000 – 530,000 บาท/ ปี, ชั้นประถม อายุ 7 – 12 ปี จะอยู่ระหว่าง 26,000 – 668,000 บาท/ ปี , ชั้นมัธยม อายุ 13 – 18 ปี จะอยู่ระหว่าง 30,000 – 765,000 บาท/ ปี และระดับชั้นปริญญา อายุ 19– 22 ปี จะอยู่ระหว่าง 26,000 – 1,000,000 บาท/ ปี (*ข้อมูลค่าเทอมจากเว็บไซต์ของโรงเรียนต่าง ๆ…
“โกลเด้น เพลซ” ร้านค้าปลีกที่ก่อตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เพื่อเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเพื่อคนไทย รวมทั้งเป็นพื้นที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรไทย โดย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมุ่งมั่นสานต่อพระราชปณิธานของพระราชบิดา ในการสร้างร้านค้าแห่งนี้ให้แข็งแรง มั่นคง เพื่อให้สามารถดูแลคนไทย ได้อย่างยั่งยืน ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา โกลเด้น เพลซ ภายใต้บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดสาขาแรก “สาขาพระราม 9” บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าจากโครงการหลวง โครงการในพระราชดำริฯ ตลอดจนเป็นช่องทางที่ช่วยกระจายสินค้าจากกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเอสเอ็มอี เพื่อให้มีอาชีพ มีรายได้จากการที่มีพื้นที่จำหน่ายสินค้า ขณะเดียวกันคนไทยในฐานะผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพในราคายุติธรรม ร้านโกลเด้น เพลซ จึงเปรียบเสมือน “ตู้เย็นของประชาชน” ที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการ บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ตลอด 23 ปี ของ โกลเด้น เพลซ ได้สร้างประโยชน์ต่อคนไทยในด้านของการเป็นร้านค้าคุณภาพ ปัจจุบันโกลเด้น เพลซ มี 21 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งยังตั้งใจที่จะขยายสาขาเพิ่ม เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยได้มากขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า การเพิ่มช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม อันเป็นการสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่คนไทย” โกลเด้น เพลซ ดำเนินกิจการตามแนวทางสำคัญของร้าน คือ “นึกถึงสุขภาพ นึกถึงโกลเด้น เพลซ” โดยมีการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้าง ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า ตั้งแต่ผัก ผลไม้ อาหารสด และอาหารกึ่งสำเร็จรูป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด โดยในปี 2546 โกลเด้น เพลซ ได้รับป้ายทองอาหารปลอดภัย (Food Safety) จากกระทรวงสาธารณสุข เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งโกลเด้น เพลซ ยังคงให้ความสำคัญ และเน้นย้ำในมาตรฐานนี้เรื่อยมา…
FWDประกันชีวิต คว้ารางวัล Future Trends Awards 2023 ในสาขา Most Innovative Company รางวัลสำหรับองค์กรที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม จากเวที Future Trends Ahead Awards 2024 การันตีศักยภาพความเป็นองค์กรที่นำนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรทุกภาคส่วนด้วยเทคโนโลยีแบบครบองค์รวม ตั้งแต่การสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้า รวมไปถึงการสื่อสารแบรนด์ที่สร้างความแตกต่าง ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต กล่าวว่า “นับเป็นอีกรางวัลแห่งความภูมิใจของ FWD ประกันชีวิต ที่ได้รับรางวัลองค์กรที่เป็นสุดยอดด้านนวัตกรรม หรือ Future Trends Awards 2023 สาขา Most Innovative Company หมวดธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัย (Insurance & Assurance) จากเวที Future Trends Ahead Awards 2024 ที่จัดโดย Future Trends ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการทำงานที่สม่ำเสมอในการนำนวัตกรรม และดิจิทัลมาใช้ทำงาน ตามแนวทาง “Digital by design” ที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในทุกขั้นตอนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันที โดยมีแนวทางการทำงานที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก หรือ customer led เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้าของเรา” ที่ FWD ประกันชีวิต นวัตกรรมและเทคโนโลยีถือเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และทันเวลา เช่น การพัฒนา iFWD ช่องทางออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามความสะดวกของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถศึกษาข้อมูลประกันชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยมีตัวช่วยสำคัญ Financial Need Analysis เพื่อแนะนำแบบประกันที่ตรงตามความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ไปจนถึงบริการหลังการขายผ่าน Omne by FWD ซึ่งเป็น Mobile Application ที่สามารถดำเนินการชำระเบี้ยประกัน…
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (ที่ 5 จากขวา) ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ที่ 4 จากขวา) นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย (ที่ 3 จากขวา) มร.อูแบร์ เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier (ที่ 3 จากซ้าย) และมร.วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner, Asia Regional Head and Global Head of Strategic Alliances, Lombard Odier (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจาก บลจ.กสิกรไทย และ Lombard Odier ร่วมแถลงข่าวประกาศความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (KAsset) กับลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) สถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะพันธมิตรที่ปรึกษาที่จะช่วยในการกำหนดยุทธศาสตร์และพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Investment) ตามหลักมาตรฐานสากล เสริมความแข็งแกร่งให้ KAsset ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนรวมของไทย และผลักดันอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเติบโตทัดเทียมทั่วโลก รายนามบุคคลในภาพเรียงจากซ้ายไปขวา 1. มร.ซาเวียร์ เบียร์คาร์ด, Head of Strategic Alliance in Thailand, Lombard Odier 2. มร.วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner, Asia Regional Head and Global Head of Strategic Alliances, Lombard Odier 3.…