เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ แสดงความห่วงใยลูกค้าเจนเนอราลี่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เดินหน้าจัดทำคู่มืออินโฟกราฟฟิคการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) แนะแนวทางการดูแลตัวเองฉบับเข้าใจง่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขั้นสีเขียว พร้อมตอกย้ำความมั่นใจ ยืนหยัดอยู่ดูแลลูกค้าทุกช่วงเวลาของชีวิตลูกค้า ด้วยการขยายความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันสำหรับลูกค้าทุกกรมธรรม์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation (การดูแลตนเองที่บ้าน) และ Community Isolation (การดูแลตนเองในระบบชุมชน)* นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ทวีความรุ่นแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เกินกว่า 20,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ในปัจจุบันมียอดผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวสะสมสูงถึงกว่า 200,000 คน ทั้งผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากไปจนถึงผู้ป่วยอาการหนัก ทำให้จำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยวิกฤต ทางภาครัฐจึงได้นำเสนอนโยบายการแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation มาปรับใช้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงรักษาสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง แต่ต้องยอมรับว่ากลุ่มผู้ป่วยสีเขียวหลายคนยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลตัวเองเมื่อต้องทำการกักตัวที่บ้าน อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ ทั้ง ขาดการรับรู้ข้อมูล หรือได้รับข้อมูลมากจนเกินไปจนสับสน รวมไปถึงการได้รับข้อมูลที่ผิด จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลในการรับมือกับการดูแลตัวเอง ด้วยความห่วงใยและเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว ทางเจนเนอราลี่ จึงได้จัดทำคู่มือฉบับเข้าใจง่าย “คู่มือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (ผู้ป่วยสีเขียว)” เพื่อใช้เป็นแนวทางการดูแลรักษาตนเองที่บ้านอย่างถูกวิธี โดยเนื้อหาได้ผ่านการคัดกรองความถูกต้อง พร้อมนำมาจัดทำในรูปแบบ Infographic ที่เข้าใจง่าย เริ่มตั้งแต่ ข้อดีของการแยกกักตัวที่บ้าน ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบขอกักตัวที่บ้าน รวมถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ และเช็คลิสต์ของใช้ที่จำเป็นเมื่อต้องกักตัวที่บ้าน นอกจากนี้ยังแนะนำถึงอาการที่ควรรีบพบแพทย์หากพบเจอในระหว่างกักตัว ตลอดจนข้อควรปฏิบัติหลังหายป่วย โดยปัจจุบันทางเจนเนอราลี่ได้จัดทำเรียบร้อยพร้อมเผยแพร่ผ่านช่องทาง Facebook page : Generali Thailand สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่สามารถเปิดอ่านได้สะดวก นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้เจนเนอราลี่ยังได้ขยายความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวันสำหรับลูกค้าทุกกรมธรรม์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประเภท* ที่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation (การดูแลตนเองที่บ้าน) และ Community Isolation (การดูแลตนเองในระบบชุมชน) เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าเจนเนอราลี่พร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าทุกช่วงเวลาของชีวิตและพร้อมดูแลลูกค้าให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างปลอดภัยและไร้ความกังวล โดยสามารถดูรายละเอียดผลประโยชน์และความคุ้มครองโควิด-19 ของเจนเนอราลี่เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://generali.co.th/services/covid-19-faq/ หรือ ติดต่อทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1394 “เจนเนอราลี่จะขอให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทุกคน…
Author: staff
นายโกสนธ์ พิศภา ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์ ทิพยประกันภัย และนายศุภกิจ จิตร์เพิ่มพูลผล รก.ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม นำทีม TIP Smart Assist รับมอบนวัตกรรมสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค คุ้มครอง 6 ชั่วโมง จาก ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี เพื่อปกป้องทีมจิตอาสา Tip Smart Assist ที่ช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน และที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้คอนเซปต์ “มาไว ใส่ใจ ไม่มากเรื่อง” ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ และอาสานำส่งสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคให้ศูนย์พักคอยและโรงพยาบาลสนามต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ด้วยความห่วงใยเป็นที่สุด ทั้งนี้ มูลนิธิธรรมดีได้บริจาคนวัตกรรมสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค #ธรรมดีด้วยหัวใจห่างไกลโควิด #ปกป้องแพทย์พยาบาลอาสาสมัครด่านหน้า และพระสงฆ์ ให้โรงพยาบาล หน่วยงานอาสาสมัคร และวัดทั้งหมด 85 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลกุมภวาปี อุดรธานี มูลนิธิร่วมกตัญญู วัดชลประทานรังสฤษฏ์ฯ วัดป่าบ้านตาดฯลฯ ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคที่ บัญชีมูลนิธิธรรมดี เพื่ออุปกรณ์การแพทย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 059-284322-3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ มูลนิธิธรรมดี Line @dfoundation โทร 090-910-2332
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 1.7 ล้านบาท เพื่อตอบแทนในความมุ่งมั่นทุ่มเทและเป็นขวัญ กำลังใจให้กับนักกีฬาและหัวหน้าผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 โตเกียว 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จชนะเลิศการแข่งขันเทควันโดประเภทหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกให้กับกีฬาเทควันโด ของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยโดยมี นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ อุปนายกและเหรัญญิก สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย นางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 1 ล้านบาท ดร.เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 5 แสนบาท และนายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 2 แสนบาท รับมอบ ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้เป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยมาตลอดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 13 ปี และยังได้สนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แก่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยอีกเช่นกัน ซึ่งการสนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มนี้จะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าประกันอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมและเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกีฬาประเภทต่อสู้ โดยบริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่ได้รับชัยชนะและได้รับเหรียญรางวัลในครั้งนี้มาครองสำเร็จ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอเป็นกำลังให้กับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย รวมถึงนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยทุกท่าน ในการทำงานและฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไปและบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนในด้านสังคม การกีฬา การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมต่อไป ตามพันธกิจในการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่สังคมผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมและมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต คำนึงถึงความสุขและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ภายใต้กลยุทธ์ “MTL Trusted Lifetime Partner”
บมจ.ธนชาตประกันภัย ส่งแคมเปญพิเศษเอาใจผู้บริโภคยุควิกฤตโควิด-19 ออก “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม สุดในรุ่น” คุ้มครอง ชน หาย ไฟไหม้ และให้เพิ่มความคุ้มครองภายหลังการชน ทั้งชดเชยรายได้ ช่วยเหลือฉุกเฉิน และชดเชยค่าเดินทาง คุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ การันตีด้วย 2 รางวัล ตอบโจทย์คนใช้รถน้อยที่ทำงานอยู่กับบ้าน (Work from Home) และผู้ต้องการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน สามารถผ่อนได้ 0% 10 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 799 บาท พร้อมรับโปรโมชั่นได้ 2 ต่อ เมื่อซื้อที่ธนาคารทหารไทยธนชาตทุกสาขา วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564 นายคงศักดิ์ หาญแสวงสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคโควิด -19 กำลังแพร่ระบาด บริษัทฯ เข้าใจในปัญหาสภาพคล่องของประชาชน จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกตามความพร้อมด้านการเงินของตนเอง โดยได้ออกแคมเปญ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม สุดในรุ่น” ที่ให้ความคุ้มครอง รถชน รถหาย รถไฟไหม้ และให้เพิ่มความคุ้มครองถึงภายหลังอุบัติเหตุรถชนด้วย จึงจัดเต็มในเรื่องชดเชย ฉุกเฉิน เดินทาง โดยจะมีเงินชดเชยรายได้ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนระหว่างการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,000 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน สูงสุด 7 คน และให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งยังมีเงินชดเชยค่าเดินทางให้ลูกค้าในกรณีที่ส่งรถเข้าซ่อม 1,000 บาท/ครั้ง ได้ถึง 3 ครั้ง/ปี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก เป็นการอัพเกรดความคุ้มครอง ซึ่งคุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ของประเทศไทย แคมเปญนี้จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถน้อยเพราะต้องทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) และคนที่ต้องการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน โดยค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 7,999 บาท สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยได้ 0% นาน10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เฉลี่ยเดือนละ 799 บาทเท่านั้น พร้อมรับโปรโมชั่น 2 ต่อ เมื่อซื้อผ่านธนาคารทหารไทยธนชาตทุกสาขา ต่อที่ 1 รับฟรี e-coupon ร้าน Dunkin Donuts มูลค่า 79 บาท ต่อที่ 2 เมื่อซื้อคู่กับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยโรคมะเร็ง หรือประกันภัยโรคร้ายแรง (CI) และมีค่าเบี้ยประกันภัยรวมกัน 15,000 บาทขึ้นไป จะได้รับฟรี e-coupon เติมน้ำมัน PT มูลค่า 300 บาทด้วย ทั้งนี้ จากการที่บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาสนองตอบผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า จึงทำให้ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม” ของธนชาตประกันภัย ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Product of the year 2020 ) จากมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับนิตยสาร Business+ นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลด้านการจัดการเคลมยอดเยี่ยม “Best Claims Management” จัดโดย นิตยสาร International Finance Magazine (IFM) จากประเทศอังกฤษ ถึง 2 ปี ซ้อน คือ ปี 2019 – 2020 ซึ่งมาจากนโยบายของบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเชื่อมต่อกับทุกมิติของระบบงานให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ธนชาตประกันภัย ดูแลไว ตรงใจคุณ”
ครึ่งแรกปี 64 กรุงเทพประกันภัยกวาดเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,997.4 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.8 กำไรสุทธิ 1,710.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 สำหรับไตรมาส 2 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติงดจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นตามที่ คปภ.ขอความร่วมมือ ยืนยันฐานะทางการเงินมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนด ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 (เม.ย.-มิ.ย.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,840.2 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 กำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินแล้ว 694.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.0 รายได้สุทธิจากการลงทุน 371.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28.6 กำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,066.1 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 893.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.1 กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 8.40 บาท สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,997.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,137.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 857.8ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.5 มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,995.1 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,710.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 16.06 บาท ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ…
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายพุฒิ เด่นสมพรพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม โดยนางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม บริจาคเตียงผู้ป่วยระบบไฟฟ้า 4 มอร์เตอร์ ราวกั้นปีกนกปิดเต็ม จำนวน 5 เตียง เป็นมูลค่า 500,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สำหรับใช้ในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ณัฐพล ธรรมโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากายภาพโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นางสุกัญญา คุณกิตติ หัวหน้างานการพยาบาลคัดกรองและรับผู้ป่วยใน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิม พระเกียรติ รับมอบ ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่
เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง ประกาศรุกตลาดประกันในกลุ่มเด็ก ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ‘AIA Health Happy – UDR’ สัญญาเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต AIA Issara Plus โดยเป็นการผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพให้ครอบคลุม 360 องศา เพื่อส่งมอบความอุ่นใจแก่ผู้ปกครอง พร้อมตอบโจทย์ครบทุกความต้องการด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของบุตรหลาน โดดเด่นด้วยความคุ้มครองแบบ ‘เหมา เบิ้ล คุ้ม’ ไม่จำกัดวงเงินต่อการเข้ารักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง เพิ่มความคุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยในถึง 365 วัน[1] นอกจากนี้ยังได้รับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า[2] ต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปีกรรมธรรม์หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง รวมถึงบริการเสริมพิเศษจาก Medix[3] เดินหน้าปักธงยืนหนึ่งในด้านผลิตภัณฑ์ประกันในกลุ่มเด็กที่ดีและ ตอบโจทย์ที่สุด ควบคู่กับการเสริมแกร่งความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เป็นระยะเวลากว่า 83 ปี ที่เอไอเอ ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตของประเทศ ด้วยจำนวนกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตในประเทศไทยเป็นของเอไอเอ วันนี้เรามองเห็นโอกาสในตลาดประกันสำหรับเด็กในการมอบความคุ้มครองที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ประกันที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพของบุตรหลาน ได้คลายความกังวลใจเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ควบคู่กับการเพิ่มโอกาสให้บุตรหลานได้เข้ารับการรักษาที่ดีขึ้นเมื่อเจ็บป่วย ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ ‘AIA Health Happy – UDR’ ที่เราออกมาใหม่เพื่อเป็นสัญญาสุขภาพเพิ่มเติมแนบไปกับกรมธรรม์หลักนั้น จะทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันให้ผู้ที่ถือกรมธรรม์สามารถก้าวผ่านทุกอุปสรรคในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ปัจจุบันยังคงมีความน่าเป็นห่วง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่” สัญญาสุขภาพเพิ่มเติม AIA Health Happy – UDR คือทางเลือกสำหรับผู้ที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต AIA Issara Plus ในการรับความคุ้มครองที่มากขึ้นและครอบคลุมยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 4 แผนประกัน ที่มีมูลค่าความคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านบาท และสูงสุดที่ 25 ล้านบาทต่อรอบปีกรมธรรม์ โดยมีอายุรับประกันภัยตั้งแต่ 1 เดือน – 75 ปี สามารถต่ออายุถึง 84 ปี และคุ้มครองต่อเนื่องไปจนอายุ 85 ปี โดยผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิ์ได้ ณ โรงพยาบาลชั้นนำโดยไม่ต้องสำรองเงินสด ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม ให้ผู้ถือกรมธรรม์ได้อุ่นใจในระยะยาว พร้อมเพิ่มความมั่นคงให้กับความไม่แน่นอนตลอดทุกช่วงของชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ เหมา-เบิ้ล-คุ้ม เหมา – รับผลประโยชน์แบบเหมาจ่าย[4] ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล เบิ้ล – รับผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่า ต่อเนื่องรวมเป็น 4 ปีกรมธรรม์ กรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ครั้งแรก คุ้ม – รับบริการจัดการดูแลผู้ป่วยรายบุคคลโดย Medix ที่พร้อมให้คำปรึกษาทางการแพทย์ ตลอดจนการดูแล รักษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก สำหรับแผนความคุ้มครอง 15 ล้านบาท และ 25 ล้านบาท รวมถึงเบี้ยประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวม โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ AIA Health Happy – UDR เริ่มขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/3iSAjkG หรือ ติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIA Call Center โทร. 1581 ตลอด 24 ชั่วโมง หมายเหตุ: [1] ค่าห้องฯ และค่าห้อง ICU รวมกันแล้วไม่เกิน 365 วัน [2] ผลประโยชน์สูงสุดเพิ่มเป็น 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัยเมื่อป่วยเป็นโรคร้ายแรงครั้งแรก [3] รายละเอียดและเงื่อนไขสำหรับการพิจารณา การให้สิทธิประโยชน์ การให้บริการต่างๆ เป็นไปตามนโยบายการให้บริการ ของ Medix ซึ่ง Medix เป็นบริษัทนอกกลุ่มบริษัทเอไอเอ และอยู่นอกเหนือจากการบริหารงานของเอไอเอ ทางเอไอเอจะ ไม่รับผิดชอบต่อการบริการผลิตภัณฑ์ และข้อเสนอใดๆ ที่นำเสนอโดย Medix [4] ผลประโยชน์เหมาจ่ายในบางรายการ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากกรมธรรม์ เมื่อรวมผลประโยชน์ในทุก หมวดแล้วต้องไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ *ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น…
อลิอันซ์ อยุธยา ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เชื่อมต่อเทคโนโลยี API ครบวงจร เพิ่มความสะดวก รวดเร็วการใช้บริการที่รพ. ไม่ต้องรอนาน บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตอกย้ำผู้นำในธุรกิจประกันชีวิต เดินหน้าต่อยอดระบบการทำงานกับโรงพยาบาลด้วยเทคโนโลยี มุ่งเสริมประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า ล่าสุด ร่วมกับบมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (มหาชน) หรือ BDMS พัฒนาระบบเชื่อมต่อ API (Application Program Interfaces) ครบวงจร ประสานการทำงานระหว่างโรงพยาบาลในเครือ BDMS และอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวก ร่นระยะเวลาการใช้บริการ OPD และ IPD ให้รวดเร็ว พร้อมขยายการให้บริการในโรงพยาบาลในเครือ BDMS ทั่วประเทศในอนาคต พัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า กล่าวว่า “อลิอันซ์ อยุธยา เป็นผู้นำในนวัตกรรมธุรกิจประกัน เรามุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดในการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจประกันสุขภาพที่อลิอันซ์ อยุธยา เป็นผู้นำอยู่ในตลาดประเทศไทย เรามองเห็นถึงต้องการของลูกค้าเมื่อไปโรงพยาบาล ที่ต้องการได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน เมื่อรับการบริการจากโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องการรับยาและกลับบ้านทันที จึงทำให้เกิดความร่วมมือกับพันธมิตรใกล้ชิดอย่าง BDMS เครือโรงพยาบาลเอกชนที่มีเครือข่ายใหญ่ในประเทศไทย ในการพัฒนาระบบ API ครบวงจร เพื่อเชื่อมต่อการทำงานระหว่างโรงพยาบาลกับบริษัทฯ ช่วยให้การประสานงานเป็นไปด้วยความรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา เราได้มีการนำร่องทดสอบการใช้งานระบบนี้กับบริการผู้ป่วยนอกไปแล้วในโรงพยาบาลในเครือ BDMS 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และ โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน ปรากฎว่าสามารถสร้างผลสำเร็จ ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น โดยสามารถร่นระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการทำงานได้ถึง 80% และในปี 2564 นี้ จึงได้ขยายการดำเนินงานมาสู่กระบวนการทำงานสำหรับผู้ป่วยใน ซึ่งลดระยะเวลาการทำงานได้ถึง 50% นอกจากนี้ ยังช่วยลดขั้นตอนการประสานงานระหว่างอลิอันซ์ อยุธยา และโรงพยาบาลให้มีความคล่องตัวมากขึ้นได้ถึง 50% เช่นกัน ทำให้การประสานงานระหว่างกันในระบบหลังบ้านมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในการเก็บค่าบริการ (E-billing)…
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ รับมอบรถเข็นวีลแชร์และถังทิ้งเข็มฉีดยา จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นางสาวพรพิมล จำปาพุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายปฏิบัติการภาค 6 (ภาคกรุงเทพฯ) ด้านสาขา เป็นผู้แทนบริษัทฯมอบ เพื่อนำไปใช้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุที่มาใช้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มอบถังสำหรับจัดทิ้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้แล้ว เช่น เข็มฉีดยา หรืออุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้จัดเก็บขยะภายในศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ณ สถานีกลางบางซื่อ ถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้โดยเร็วและครอบคลุมมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศ และบริษัทฯ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชนชาวไทย ก้าวผ่านพ้นวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนขวา) และนางสาวบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล (คนซ้าย) รับรางวัลระดับนานาชาติ จาก Asian Leadership Awards 2021 ในสาขา “Diversity & Human Resource” รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ และความสำเร็จในด้านบริหารทรัพยากรบุคคล และส่งเสริมความเท่าเทียมกันในองค์กร ตอกย้ำจุดยืนของบริษัทฯ ที่จะเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป ทั้งนี้ Asian Leadership Awards 2021 จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อที่เป็นเวทีเปิดเผยศักยภาพของผู้นำในภูมิภาคของเอเชียของแต่ละบริษัท และองค์กรชั้นนำที่มีเป็นเลิศในการเป็นผู้นำทางธุรกิจในเอเชีย