ทิพยประกันภัย จับมือ กฟผ. เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเวลเนส รองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อฟื้นฟูและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ตอบสนองเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติในการเปลี่ยนไทยให้เป็นประเทศรายได้สูง ด้วยการบูรณาการความร่วมมือศึกษาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเวลเนสในประเทศไทย นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิพยประกันภัย รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจ เวลเนสเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนภารกิจให้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ด้วยการศึกษาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเวลเนส ของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัยมาช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าและ Ecosystem ของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมใหม่ที่มีมูลค่าสูงเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเวลเนส เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่จะทำให้ประเทศไทยเป็น Wellness Destination ของเอเชีย ด้าน นายจรัญ คำเงิน รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า กฟผ. มีแผนยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้บริบทใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยตระหนักว่าอุตสาหกรรมเวลเนส เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Mega Trend สามารถสร้างมูลค่าและการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันอุตสาหกรรมเวลเนสไทย มีมูลค่าทางตลาดถึง 1 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ อาหาร และสมุนไพร ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าต่อประเทศสูงที่สุดถึง 890,000 ล้านบาท ตามผลการศึกษาของ Global Wellness Institute ปี พ.ศ. 2565 จึงทำให้ กฟผ. มองเห็นโอกาสสร้างมูลค่าให้กับประเทศ ยกระดับขีดความสามารถของแต่ละจังหวัดพื้นที่เป้าหมาย ภายใต้โครงการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส กฟผ. โดยมุ่งพัฒนาโครงการแต่ละพื้นที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด และบูรณาการเชื่อมโยงพื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. รวม 8 พื้นที่ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์เวลเนสประเทศไทยและยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้จากความร่วมมือกันระหว่างทิพยประกันภัย กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมเวลเนส ตลอดจนต่อยอดนวัตกรรมที่ทำให้มูลค่าองค์กรเพิ่มสูงขึ้น และสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจมูลค่าสูงให้กับประเทศไทยต่อไป
Author: staff
ธนชาตประกันภัย ยืนหนึ่งให้บริการบน Social Platform ประกันภัยเจ้าแรกที่เปิดใช้งานแจ้งอุบัติเหตผ่าน “Facebook Messenger” มีบริการครบทุกฟีเจอร์ทั้งแจ้งอุบัติเหตุ ซื้อ และต่อประกัน ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย แชทรับบริการออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย เปิดเผยว่า “หลังจากที่ธนชาตประกันภัย ได้มีการนำเอาแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนไทยอย่าง “Line Official Account” มาต่อยอด ออกแบบระบบให้เชื่อมโยงกับทุกบริการที่มีของบริษัทฯ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการด้านประกันออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ทั้งการแจ้งอุบัติเหตุ เลือกซื้อประกันภัยหรือต่อประกันรถยนต์ผ่านไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุด ธนชาตประกันภัยยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์บริการเพื่อให้เข้าถึงคนไทยมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการพัฒนาช่องทาง Facebook Messenger ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนไทยให้สามารถใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์เช่นเดียวกับทาง Line Official Account โดยธนชาตประกันภัยนับเป็นเจ้าแรกที่เปิดให้บริการแจ้งอุบัติเหตุ ซื้อ หรือต่อประกันรถยนต์ผ่าน Social Platform เพื่อตอกย้ำการให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่ม มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและผูกพัน ควบคู่การส่งมอบประสบการณ์ใช้บริการที่ดีกว่า เหนือกว่า ในราคาเหมาะสม” โดย ช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์ม Facebook Messenger นี้พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสะดวกและมีทางเลือกในการใช้บริการได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีทั้งการให้แจ้งอุบัติเหตุง่ายๆ เพียงแค่คลิกและแชทผ่าน Messenger ของ Facebook เพจ Thanachartinsurance – TNI โดยไม่ต้องเสียเวลาหาเบอร์ติดต่อ หรือรอสายโทรศัพท์ มีขั้นตอนการแจ้งอุบัติเหตุที่ทำเพียงไม่กี่ขั้นตอน และไม่ต้องกังวลกับปัญหาการบอกเส้นทางแจ้งจุดเกิดเหตุ และสามารถติดตามสถานะการเดินทางของเจ้าหน้าที่สำรวจภัยที่กำลังเดินทางมาให้บริการได้ตลอด นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกซื้อประกันภัยราคาเหมาะสม และต่อประกันรถยนต์ ง่าย สะดวก จ่ายเวลาไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเปิดให้ดาวน์โหลดกรมธรรม์ จองบริการซ่อมรถ กับ Meet and Care ค้นหาอู่ซ่อมและโรงพยาบาลใกล้ๆ เพื่อเข้ารับบริการ รวมถึงเลือกรับสิทธิพิเศษต่างๆ ที่บริษัทมีให้ได้อีกด้วย “การให้บริการที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจประกันภัย ธนชาตประกันภัยจึงให้ความสำคัญและมุ่งเน้นพัฒนางานด้านบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานบริการให้เข้ากับยุคดิจิทัล และเป็นที่มาของนำ Social Platform มาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อการให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อให้ได้รับความสะดวก และรวดเร็ว ที่สำคัญคือเรื่องของความมั่นใจที่จะซื้อหรือรับบริการผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งต้องรองรับด้วยระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่บริษัทในความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยปัจจัยสำคัญเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อและรับบริการประกันภัยผ่านระบบออนไลน์กับบริษัทในที่สุด” นายพีระพัฒน์ กล่าว
Prudential plc. บริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ อนุมัติการเพิ่มทุนเพื่อขยายธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่ ขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต CITIC-Prudential Life (CPL) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 50/50 ระหว่าง Prudential กับ CITIC Bank ของจีน โดยมีกระแสข่าวว่าจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 2.5 พันล้านหยวน (351 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยผู้ถือหุ้นแต่ละฝ่ายจะเทเงินลงมาเท่า ๆ กัน ภายใต้เงื่อนไขของการเพิ่มทุน ผู้ถือหุ้นของ CPL ทั้ง 2 ราย ได้แก่ Prudential Corporation Holdings Limited (PCHL) และ CITIC เพิ่มทุนรายละประมาณ 1.25 พันล้านหยวน (176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งทำให้ทุนจดทะเบียนของ CPL จะเพิ่มขึ้นจาก 2.36 พันล้านหยวนเป็น 4.86 พันล้านหยวน (331 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 682 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นยังคงที่ 50/50ไม่เปลี่ยนแปลง ที่สำคัญ การเพิ่มทุนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเชื่อร่วมกันของผู้ถือหุ้นทั้งสองรายต่อโอกาสระยะยาวสำหรับธุรกิจประกันชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มา : www.reinsurancene.ws
นายธศพงษ์ รังควร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี เดินทางไปใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% จากปี 2565 เนื่องจากเป็นปีที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด – 19 ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ประเทศญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน สำหรับในปีนี้ ประเทศญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับบริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มอบความคุ้มค่าให้สมาชิกด้วยเครดิตเงินคืน 10% เพียงสมาชิกมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี ตั้งแต่ 50,000 เยนขึ้นไปที่ร้านค้าที่มีหน้าร้านในประเทศญี่ปุ่น ไม่รวมรายการออนไลน์ทุกประเภท ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 30 เมษายน2567 (จำกัดเครดิตเงินคืน 5,000 เยน / หมายเลขบัตรเครดิต / ตลอดรายการ) ฃ สำหรับผู้สนใจที่สมัครบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี อัลทิเมท (บัตรหลักใหม่) ที่ได้รับการอนุมัติบัตรฯ ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับโค้ดส่วนลด Lazada มูลค่า 600 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5 รายการขึ้นไปภายใน 30 วัน นับจากวันอนุมัติบัตรฯ สำหรับผู้สนใจที่สมัครบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี แพลทินัม (บัตรหลักใหม่) ที่ได้รับการอนุมัติบัตรฯ ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2566 – วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับโค้ดส่วนลด Lazada มูลค่า 500 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 3…
เมืองไทยประกันชีวิต ตอบรับภาคีเซาท์สุขุมวิท ร่วมจัดงานใหญ่ “Bangkok Design Week 2024” ครั้งแรก นำเสนองานศิลปะให้ชุมชน พร้อมเปิดอาคาร 66 Tower ให้ประชาชนได้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชนย่านเซาท์สุขุมวิท เป็นชุมชนแห่งการสร้างสรรค์ฃ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีแนวคิดในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ในด้านศิลปวัฒนธรรม และมีพันธกิจที่จะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรม โดยในโอกาสนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับภาคีเซาท์สุขุมวิท (South Sukhumvit) ผนึกกำลังของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในย่านพระโขนง – บางนา ระดมพลังความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาย่านเซาท์สุขุมวิท เป็น Creativity Playground และเพื่อยกระดับย่านสุขุมวิทตอนใต้ที่เต็มเปี่ยมด้วยศักยภาพ สู่ย่านนวัตกรรมใหม่ ที่ทั้งน่าอยู่ น่าทำงาน และเปิดโอกาสสำหรับทุกคน โดยในครั้งนี้ได้ผลักดันย่านเซาท์สุขุมวิทเข้าร่วมเป็น 1 ในพื้นที่สร้างสรรค์ ภายในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567 (Bangkok Design Week 2024) ถ่ายทอดวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ในโอกาสนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้ร่วมรังสรรค์นิทรรศการ “The Museum of Happiness” เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Bangkok Design Week 2024 ณ ชั้น 2 อาคาร 66 Tower ตั้งแต่วันนี้จนถึง วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10:00-19:00 สำหรับนิทรรศการดังกล่าวถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Happiness Means Everything” เพราะความสุขคือทุกอย่าง โดยผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมวาดรูป ระบายสีบนกระดาษ บอกเล่าความสุขในแบบของตนเอง เพื่อนำรูปวาดเข้าเครื่องสแกนพร้อมกับส่งต่อความรู้สึกผ่านการเขียนข้อความบนจอ Touch Screen แล้วถ่ายรูป พร้อมสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อบันทึกภาพ และร่วมแชร์ผลงาน ผ่านจอแอลอีดีภายในงาน โดยมี AI ช่วยเสริมจินตนาการรูปวาดของผู้เข้าร่วมให้ออกมาเป็นผลงานศิลปะชิ้นพิเศษ นอกจากนั้นภายในงานนิทรรศการผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับมุมถ่ายรูป โดยบริษัทฯ ได้จำลองสถานที่แห่งความสุข สระน้ำ…
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณระวิน มุคขจี Vice President Customer Experience Management เป็นผู้แทนบริษัทฯ มอบเงินจำนวน 250,000 บาท จากกิจกรรม “OCEAN LIFE LOVE (Virtual) RUN 4 Regions ทุกก้าว เท่ากับให้ ภาคอีสาน” ซึ่งเป็นภูมิภาคสุดท้ายของโครงการ ที่บริษัทจะนำระยะทางเดิน/วิ่งจากผู้ร่วมกิจกรรมทุก ๆ 1 กิโลเมตร เปลี่ยนเป็นเงินบริจาค โดยในครั้งสุดท้ายนี้มอบให้แก่ “โครงการต้นไม้เพื่อเรา” โดยมีคุณวิลาส เตโช ผู้อำนวยการสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ผู้ริเริ่มโครงการต้นไม้เพื่อเราเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปปลูกป่าสร้างพื้นที่สีเขียว ช่วยลดปัญหาของสภาวะอากาศ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน OCEAN LIFE ไทยสมุทร ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ที่ได้เปลี่ยนก้าวเป็นเงินบริจาค เพื่อสร้างโลกใหม่ที่สวยงามไปกับเรา OCEAN LIFE ไทยสมุทร เคียงคู่สังคมไทยภายใต้แนวคิด LOVE MINDSET ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Love the World รักษ์โลกช่วยกันดูแลสังคมให้ดีขึ้น เป็นการร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสุขที่ยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่พร้อมดูแลคนไทยให้ก้าวผ่านทุกวิกฤตด้วยพลังความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญควบคู่กับการดำเนินธุรกิจเสมอมา ร่วมติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดี ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมได้ที่ OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER 1503
บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต(ประเทศไทย) แถลงผลประกอบการประจำปี 2565 โดย มร.โตโยทาเกะ คูวาตะ CEO แถลงผลประกอบการภาพรวมบริษัท ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีผลประกอบการเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 2,072 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 7,654 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม 9,726 ล้านบาท มีสัดสวนในช่องทางการขายผ่านตัวแทนซึ่งเป็นช่องทางหลักของบริษัทคิดเป็นสัดสวน 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเบี้ยประกันภัยรับรวมเติบโตขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีผลงานจากช่องทางประกันกลุ่มมีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 1,603 ล้านบาท คิดเป็นสัดสวน 16 เปอร์เซ็นต์ เติบโตขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ และชองทางการขายอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วน 4 เปอร์เซ็นต์มีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 411 ล้านบาท สำหรับในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายภาพรวม เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 2,545 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 8,882 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,427 ล้านบาทเติบโตขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ “ผมขอขอบคุณ ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจใน บมจ.โตเก๊ยวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จนสามารถทำให้ผลประกอบการของบริษัท เติบโตได้แม้อยู่ห่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอขอบคุณ คุณสมโพชน์ เกียรติไกรวัล ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการและสายงานตัวแทนและพลังฝ่ายขายทุกท่านที่ได้ทุ่มเทห่างานอย่างหนัก ช่องทางการขายผ่านตัวแทน สร้างผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมายในหลายปีที่ผ่านมา และผมเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำของ คุณสมโพชน์ เกียรติไกรวัล จะสามารถนำพา บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต สำหรับทิศทางในการทำธุรกิจปี 2566 บริษัทมีแผนในการพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น” มร.โตโยทาเกะ คูวาตะ กล่าว ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล ประธานที่ปกษาสำนักกรรมการผู้จัดการ และสายงานตัวแทน แถลงผลประกอบการ ช่องทางการขายผ่านตัวแทนของบริษัทมีการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาช่องทางตัวแทนผลิตผลงานเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,772 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 5,941 ล้านบาท รวมเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,713…
เอไอเอ ประเทศไทย บริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ที่เข้าใจความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง ฉลองครบรอบ 85 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ส่งภาพยนตร์โฆษณาสร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นใจสำหรับทุกครอบครัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “85 ปี เอไอเอ ประเทศไทย ดูแลคุณและคนที่คุณรักตลอดไป” ตอกย้ำถึงคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ พร้อมเดินหน้ามอบการดูแลตลอดทุกช่วงชีวิตผ่านผลิตภัณฑ์และการบริการที่ครบวงจร ตลอดจนกิจกรรมเพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทย ให้คนไทยทั่วประเทศได้อุ่นใจทุกเวลา เพราะทุกคนคือครอบครัวเอไอเอ นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย ได้ดำเนินธุรกิจมาสู่ปีที่ 85 ซึ่งเราเป็นบริษัทประกันชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยการที่เอไอเอ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ในธุรกิจประกันชีวิตติดต่อกันยาวนานหลายทศวรรษ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นที่คนไทยมีให้กับเอไอเอ ผมในนามของเอไอเอ ประเทศไทย ขอขอบคุณคนไทยทั่วประเทศที่ไว้ใจให้เราดูแลชีวิตและสุขภาพของคุณ รวมไปถึงคนที่คุณรัก และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญนี้ เราได้ออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ล่าสุด ที่ตอกย้ำให้ลูกค้าของเราทุกคนได้อุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยเอไอเอพร้อมเสมอที่จะอยู่เคียงข้าง และดูแลทุกคนเสมือนเป็นคนในครอบครัว “นอกจากภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ออกมาต้อนรับเทศกาลปีใหม่นี้ ตลอดทั้งปี 2566 เรายังได้เตรียมกิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และการบริการ เพื่อเดินหน้าส่งมอบความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพให้กับคนไทย ตลอดจนบริการที่เราจะจับมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย เพื่อร่วมกันดูแลคนไทยในทุกมิติ ต่อเนื่องไปจนถึงกิจกรรมที่เราจะจัดขึ้นในปีนี้ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน สังคม และประเทศไทย ต่อไป ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น” นายนิคฮิล กล่าว นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่นี้ เราต้องการถ่ายทอดถึงความรัก ความผูกพัน และการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันของทุกความสัมพันธ์ในครอบครัว ผ่านเรื่องราวที่น่ารักของสองพี่น้องที่คอยดูแลและเป็นกำลังใจให้กันทุกเวลา โดยแม้ในวันที่ไม่มีบุพการีอยู่แล้ว แต่การดูแลไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเอไอเอ ยังคงมอบการดูแล และความห่วงใยให้ตลอดชั่วชีวิต ซึ่งโฆษณาชุดนี้ ยังช่วยสะท้อนให้ทุกครอบครัวตระหนักถึงการวางแผนด้านการประกันชีวิตและสุขภาพเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เราไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต “สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปี 2566 นี้ เอไอเอ ยังคงมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร ตอบโจทย์เป้าหมายของเราที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน (Quality Healthcare)…
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ประสบความสำเร็จในระดับสากล คว้ารางวัลจากงาน The Asset Benchmark Research Awards 2022 จัดโดยนิตยสาร The Asset นิตยสารชั้นนำด้านการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย 2 รางวัล โดยมี คุณภัทรพล พรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการลงทุนและการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน (คนซ้าย) รับรางวัล Best Investment House among Insurers (หรือ รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 สำหรับทีมงานการลงที่ดีที่สุด ในธุรกิจประกันในประเทศไทย) และคุณชาล ชัยกิตติกรณ์ SVP – Head of Investment Portfolio Management (คนขวา) รับรางวัล 2022 Astute Investor โดยรางวัลดังกล่าวพิจารณาจากผลสำรวจที่ได้รับจาก ธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่เป็นคู่ค้าการลงทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กรุงไทย-แอกซ่า เป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีความคิดริเริ่มและมีวิวัฒนาการในการสร้างแบบแผนการลงทุนที่ดี รวมถึงการดำเนินงานทางการลงทุนที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นในแม้ในภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับในวงการธุรกิจระดับโลก ซึ่งรางวัลนี้ถืออีกหนึ่งภาคภูมิใจของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ที่ตอกย้ำการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ การลงทุนในตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อมหรือตราสารหนี้สีเขียว (Green bond) ตราสารหนี้เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability bond) และสินทรัพย์คาร์บอนต่ำ (Low-carbon assets) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่นดูแลกันตลอดไป
บลจ.กสิกรไทย ชวนลงทุนรับต้นปีกระต่ายกับหลากหลายกองทุนแนะนำ เน้นกองทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชียและหุ้นในกลุ่ม Healthcare รวมถึงกองทุนผสมที่มีการกระจายลงทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์ พร้อมรับสิทธินำค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขาย รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท มาลดหย่อนภาษีปี 2566 ได้ตามโครงการช้อปดีมีคืน เริ่ม 1 ม.ค. – 15 ก.พ.นี้ นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย แนะเริ่มต้นลงทุนรับปีกระต่ายกับหลากหลายกองทุนแนะนำ ทั้งกองทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชีย กองทุนหุ้นกลุ่ม Healthcare และกองทุนผสมที่มีการกระจายลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ พร้อมรับสิทธินำค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end Fee) และค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน (Back-end Fee) รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท มาลดหย่อนภาษีปี 2566 ได้ตามโครงการ “ช้อปดีมีคืน 2566” ที่มีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 “สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จังหวะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สามารถทยอยลงทุนในกองทุนหุ้นได้ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมองว่าการทยอยเปิดประเทศกลุ่มเอเชียจะนำไปสู่พัฒนาการการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปที่เป็นภาพชะลอตัว ซึ่งกองทุนแนะนำที่สอดรับกับทิศทางดังกล่าว ได้แก่ K-ASIACV, K-CCTV, K-CHINA, K-JP, K-VIETNAM และ K-STAR ส่วนผู้ลงทุนที่ต้องการเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่กลับมามีความน่าสนใจอย่างธุรกิจเฮลท์แคร์ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ หรือ เน้นกระจายการลงทุนไปในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ก็สามารถทยอยลงทุนในกองทุน K-GHEALTH, K-GHEALTH(UH), K-GINCOME, K-GA, K-PLAN2 และ K-PLAN3 ได้เช่นเดียวกัน” นายสุรเดชกล่าว นายสุรเดชกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนกับกองทุนกสิกรไทยได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ส่งกลับมาที่ SS_Registrar@kasikornbank.com เพื่อรอรับใบกำกับภาษีตัวจริงสำหรับใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษีปี…