นางสาวปภากร รัตนเศรษฐ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าธนาคารออมสินเดินหน้าบทบาทธนาคารเพื่อสังคม บนเส้นทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ผ่านการปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจที่คำนึงถึงผลลัพธ์เชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด (Green Finance) ซึ่งเป็นครั้งแรกของธุรกิจธนาคารที่มีการนำเอา ESG Score มาประกอบการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ โดยเริ่มต้นดำเนินการสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ธนาคารอนุมัติสินเชื่อพร้อมเงื่อนไขพิเศษลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับกิจการที่มีคะแนน ESG ดี มีการทำธุรกิจอย่างใส่ใจและคำนึงถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อด้วยการใช้ ESG Score แล้วกว่า 48,600 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีกิจการที่มีคะแนนดีเยี่ยม ได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ คิดเป็นวงเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว และ Thailand Green Taxonomy ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน เปลี่ยนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยล่าสุด ธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อตามโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี จำนวน 4 ราย วงเงินรวม 7,850 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น และปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 ที่จะช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นไปตามนโยบายสู่การเป็นโรงงานสีเขียว (Eco Factory) บริษัท อัลเตอร์วิม จำกัด วงเงิน 1,300 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการติดตั้งระบบ Solar ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Private PPA) มุ่งเน้นการจัดการพลังงานให้กับลูกค้าในเครือซีพีเป็นหลัก เป็นการยกระดับศักยภาพการแข่งขันและพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอน และสร้างโอกาสคาร์บอนเครดิต ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด บริษัท เอ็นพีเอส โซลาร์ จำกัด วงเงิน 900 ล้านบาท ลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ (Solar Floating) เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม 304ปราจีนบุรี…
Author: staff
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบจากศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) โดยเป็นองค์กรเอกชนแห่งแรก และเป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกที่ได้รับการยกย่องจากการสร้างแรงกระเพื่อมแห่งความดีต่อสาธารณะ ตั้งแต่ปี 2561 ด้วยโครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” ซึ่งดำเนินโครงการมากว่า 40 ครั้ง และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 5,000 คน พิธีมอบรางวัล Moral Awards 2022 และเกียรติบัตร ได้รับเกียรติจาก คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการศูนย์คุณธรรม และ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมี ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัยจำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธี ณ อาคารทิพยประกันภัย สำนักงานใหญ่ พระราม 3 รางวัล Moral Awards 2022 เป็นรางวัลที่ยกย่ององค์กรที่เป็นแบบอย่างด้านคุณธรรม และมีการขับเคลื่อนคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์คุณธรรมได้ให้การสนับสนุนโครงการตามรอยพระราชา ซึ่งเป็นโครงการน้อมนำพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ทั้งในด้านการศึกษาดูงาน การลงมือทำกิจกรรมเสริมทักษะเรียนรู้ และการต่อยอด พร้อมสร้างความเข้าใจและเข้าถึงคุณธรรม พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู ทิพยประกันภัยยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ใส่ใจสังคมและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และร่วมสานต่อหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง พร้อมยกระดับการดำเนินงานภายใต้กรอบ…
การเดินทางถือเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของทุกคน หากเป็นคนปกติทั่วไป การเดินทางโดยสารด้วยรถประจำทางนับเป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับกลุ่มผู้ที่พิการทางสายตาถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะมีข้อจำกัดและต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการเดินทาง การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเท่าเทียมทางสังคม จึงทำให้เกิดเป็นแคมเปญ “The Talkable Bus Shelter ป้ายรถเมล์พูดได้” ไอเดียสุดครีเอทจาก FWD ประกันชีวิต ที่ร่วมกับGREYNJ UNITED ในการคิดครีเอเทีฟโซลูชั่น โดยใช้เทคโนโลยีควบคู่กับความคิดสร้างสรรค์จนออกมาเป็นการสร้าง “ระบบเสียงอัจฉริยะ” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการทางสายตาใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างสะดวก ด้วยการเตือนให้ทราบถึงรถเมล์ที่กำลังจะมา และเตรียมตัวเดินทาง เพื่อไปถึงจุดที่หมายที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย Pain Point สำคัญของการใช้บริการป้ายรถเมล์ของผู้พิการทางสายตา FWD ประกันชีวิต ได้ศึกษาข้อมูลจากรายงานสถานการณ์ด้านคนพิการทางการมองเห็นในประเทศไทย โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) ประเทศไทยมีผู้พิการทางสายตา จำนวน 184,622 คน ที่มีการเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน รวมกับข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) กับผู้พิการทางสายตาภายใต้การดูแลของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ทำให้เราพบว่า ผู้พิการทางสายตาส่วนใหญ่เลือกใช้การเดินทางประจำวันด้วยรถโดยสารประจำทาง แต่ paint point สำคัญคือ มักจะพลาดรถประจำทางสายที่ต้องการ เนื่องจากไม่สามารถรับรู้ถึงสายรถประจำทางที่ต้องการได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งเมื่อแคมเปญได้นำร่องเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริเวณป้ายรถเมล์ที่ใกล้กับสถานที่ที่ผู้พิการทางสายตาใช้เป็นประจำ จำนวน 10 ป้ายรถเมล์ ครอบคลุมเส้นทางการเดินรถเมล์ 46 สาย ทาง FWD ประกันชีวิต จึงได้ร่วมกับ Homerun Consulting ที่ปรึกษาด้านการทำวิจัย ทำการวิจัยศึกษาอินไซต์และสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้พิการทางสายตาที่ใช้บริการรถเมล์ ทำให้พบว่า key finding ของ pain point ที่พบก่อนและหลังแคมเปญตรงกัน นอกจากนั้น ยังพบปัญหาสำคัญเพิ่มเติมซึ่งผู้พิการทางสายตาได้เล่าให้เราฟังว่าบางครั้ง รถเมล์ที่รอก็เข้าจอดไม่ตรงป้าย ยิ่งเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารคนอื่นยืนรออยู่ด้วย ก็จะทำให้รถเมล์ไม่ได้เข้ามาจอด หรือในบางครั้งผู้พิการทางสายตาก็ไม่สามารถสอบถามหรือขอความช่วยเหลือจากใครได้ ดังนั้น การมีระบบเสียงอัจฉริยะที่ป้ายรถเมล์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี เพื่อเตือนให้ผู้พิการทางสายตาทราบถึงรถโดยสารที่กำลังจะมา และเตรียมตัวเดินทาง เสียงสะท้อนจากประสบการณ์ของผู้ใช้จริง “ปัญหาปัจจุบันคือคนตาบอดนี่เวลาเราจะเดินทาง ถ้าจะใช้รถเมล์ เราก็ต้องไปที่ป้ายรถเมล์แล้วสุดท้ายเราก็ต้องพยายามหาคนแถวนั้นที่อยู่บริเวณป้ายช่วยบอกว่า มองสายรถเมล์ให้หน่อยนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าสายที่มานี่เป็นรถเมล์สายอะไร ใช่สายที่เราต้องการจะขึ้นหรือเปล่า…
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ร่วมกับ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความยั่งยืนตามแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG จัดงาน Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 สุดยอดการประชุมสัมมนาด้าน ESG โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่อง ESG ให้กับลูกค้าธุรกิจและบุคคลทั่วไปที่สนใจ ซึ่งงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ คณะผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG จาก ธนาคารโลก (World Bank) MUFG และกรุงศรี มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ส่งต่อแนวคิดตลอดจนโซลูชันที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจในการทำแผนเปลี่ยนผ่าน พร้อมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้เกิดความยั่งยืนในระดับประเทศ และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดงานประชุมสัมมนาครั้งนี้ว่า “ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่สี่ (2567-2569) กรุงศรี ตั้งใจอย่างแน่วแน่สู่การเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” โดยเราได้นำกรอบแนวความคิด ESG มาปรับใช้ทั้งการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนมุ่งมั่นให้การสนับสนุนและส่งเสริมลูกค้าธุรกิจให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่การดำเนินงานด้าน ESG อย่างแท้จริงผ่านกิจกรรมต่างๆ และตั้งเป้าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน 100,000 ล้านบาท (จากปีฐาน 2564) ภายในปี 2573 ซึ่งก็สอดคล้องกับเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและพันธกิจของ MUFG ในการสร้างอนาคตที่สดใส (Committed to Empowering a Brighter Future) ด้วยการผลักดันการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบ และพัฒนาชุมชน และในโอกาสนี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับ MUFG เดินหน้าทำงานแบบองค์รวม ผสานพลังร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งพันธมิตรธุรกิจ ลูกค้า รวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและระดับสากล พาธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วยองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญรอบด้าน พร้อมจัดงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ Krungsri-MUFG ESG Symposium 2024 ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ธุรกิจจะได้เสริมสร้างความรู้และศักยภาพเพื่อมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน โดยจะได้มาอัปเดตสถานการณ์และการขับเคลื่อนเรื่อง ESG และเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากผู้ที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนช่วยขยายโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างพันธมิตรในการต่อยอดด้าน…
กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ ออกผลิตภัณฑ์ “โฮมเฟิสต์ เอ็กซ์ตร้า” (Home 1st Extra) แบบประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจให้หัวหน้าครอบครัว ชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียวคุ้มครองยาวนานสูงสุด 30 ปี พร้อมสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครอง 44 โรคร้ายแรง หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รับผลประโยชน์เพื่อปลดภาระหนี้ อุ่นใจกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นของครอบครัว ไม่เป็นภาระคนข้างหลัง และหากเป็นด้วยโรคร้ายแรง รับผลประโยชน์ 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยสัญญาหลัก สูงสุด 10 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาหรืออื่นๆ นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ในการออกผลิตภัณฑ์ประกันคุ้มครองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย “โฮมเฟิสต์ เอ็กซ์ตร้า” (Home 1stExtra) ในครั้งนี้ว่า นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือที่ทั้งสององค์กรร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งนอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต Gain 1st สำหรับผู้ต้องการออมเงินแล้ว ยังมีแบบประกันโฮมเฟิสต์ พลัส ที่ออกมาก่อนหน้านี้เพื่อคุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุสำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย นายโชนกล่าวว่า การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ถือว่ามีความจำเป็นมากขึ้นเพราะบ้านถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับทุกคนในครอบครัว ผลิตภัณฑ์ “โฮมเฟิสต์ เอ็กซ์ตร้า” จึงเป็นแบบประกันที่ช่วยได้ทั้งความเสี่ยงกรณีผู้ผ่อนชำระค่าบ้านเสียชีวิต และยังมีความคุ้มครองเพิ่มเติมกรณีเป็นโรคร้ายแรง ด้วยจุดเด่นคือ ชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว ได้รับความคุ้มครองยาวนานสูงสุดถึง 30 ปีและสามารถขอใช้สินเชื่อเพื่อชำระเบี้ยได้ โดยคุ้มครองการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ลดลงของเดือนที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง และให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรง สูงสุด 40% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้นของสัญญาหลัก ครอบคลุมถึง 44 โรคร้ายแรง เพื่อลดความกังวลจากโรคร้ายแรงที่ไม่คาดฝัน และ ปลดภาระหนี้ไม่เป็นภาระกับคนข้างหลัง ทั้งนี้ จากสถิติข้อมูลการเรียกร้องสินไหมของบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ในปัจจุบัน พบว่าผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังอยู่ในวัยทำงาน และเพิ่งผ่อนบ้านไปได้ไม่นาน ยังมีภาระหนี้คงเหลือค่อนข้างมาก และสำหรับสาเหตุการเสียชีวิตพบว่ากว่า 70% มีความเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงต่างๆ อาทิ มะเร็งและเนื้องอก ระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งนำมาด้วยโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ รวมทั้งยังพบในคนอายุน้อยและวัยทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงมากโดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น การรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมด้วยเคมีบำบัด มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 400,000 บาท หรือการรักษาแบบพุ่งเป้า (Targeted Therapy) ก็สูงถึง 1.7…
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายจัดจำหน่าย (คนที่ 2 จากซ้าย) และคุณมนต์นิดา มุสิกบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องทางคู่ค้า (คนที่ 4 จากซ้าย) จัดงาน “Krungthai-AXA CS Appreciation Party 2024 : Flashback Fiesta” ให้กับพันธมิตรของบริษัทฯ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของคู่ค้าของบริษัทฯ ที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นสร้างผลงานคุณภาพยอดเยี่ยมตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา ณ ร้าน Kilik Social Club ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นการพัฒนาเทคโนโลยี บริการ และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้า พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าคนสำคัญของเรา รวมถึงสนับสนุนฝ่ายขาย เพื่อก้าวสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ ตามเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ที่พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการ ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/ หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณวิลาวัลย์ วรุตพิพัฒน์ Chief People Officer (CPO) เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่อง Data Analytics ที่บริษัทได้พัฒนาในเรื่องนี้ตลอดมา แต่สิ่งที่สำคัญต่อมาคือการนำข้อมูลเหล่านี้ออกมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีทักษะในการจัดระเบียบข้อมูล การวิเคราะห์ และถ่ายทอดข้อมูลออกมาให้เข้าใจง่าย พร้อมนำไปใช้งาน จึงได้จัดการอบรม “Intro to Data Analytics & Storytelling” โดยได้รับเกียรติจาก คุณกษิดิศ สตางค์มงคล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Analytics และเจ้าของเพจ DataRockie ที่มีผู้ติดตามกว่า 140,000 คน มาทำการบรรยายให้ความรู้เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล มี Workshop ให้พนักงานได้ฝึกการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการทำสรุปรายงานในรูปแบบแดชบอร์ด สามารถนำไปใช้เล่าเรื่อง Storytelling ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย มีประสิทธิภาพในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้นำพลังความรักและเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาช่วยทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด OCEAN LIFE ไทยสมุทร ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรตลอด 75 ปี โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ด้วยนวัตกรรม ให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ได้มากที่สุด วันนี้พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่โลกยุคใหม่โดยจะใช้ศักยภาพทุกด้านที่มาจากความรัก ช่วยให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข ทั้งวันนี้และตลอดไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER 1503
Finnomena Funds (ฟินโนมีนา ฟันด์) เดินหน้ายกระดับ Ahead of The Game “มองขาดทุกโอกาสการลงทุน” โชว์ผลตอบแทนกองทุนแนะนำในปี 2024 สามารถสร้างโอกาสชนะ (Win Rate) ได้สูงกว่า 80% ในทุกคำแนะนำ พร้อมเผยอินไซต์นักลงทุนไทย ไม่ว่า Gen ไหนก็ชอบลงทุนหุ้นต่างประเทศ นายกสิณ สุธรรมนัส Chief Strategy Officer, Finnomena Group เปิดเผยว่า “ภารกิจสำคัญของ Finnomena คือเราจะมุ่งแสวงหาการลงทุนที่ยอดเยี่ยม เพื่อโอกาสสร้างความมั่งคั่งสูงสุดแก่ทุกคน ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นชัดเจนที่ในปีนี้เราออกมาให้มุมมองการลงทุนแบบเข้มข้น วิเคราะห์ตลาดอย่างเท่าทันสถานการณ์ ด้วยคำแนะนำกองทุนหลากหลายสไตล์ทั้ง MEVT Call, Mr.Messenger Call และ FundTalk Call ซึ่งพบว่าในปีนี้ มากกว่า 80% ของกองทุนที่ฟินโนมีนาแนะนำ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน นำโดยกองทุนหุ้นเวียดนาม กองทุนหุ้นจีน กองทุนหุ้นสหรัฐฯ กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกองทุนตราสารหนี้โลก” ทั้งนี้ จากการเก็บรวบรวมคำแนะนำการลงทุนของ Finnomena Funds ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2024 ชี้ว่า FundTalk Call ซึ่งเป็นการลงทุนรูปแบบ The Contrarian Style เฟ้นหาสินทรัพย์ดี ราคาถูกนั้นมี Win Rate สูงถึง 90% และสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.1% โดยมีกองทุนแนะนำที่โดดเด่น ได้แก่ MEGA10CHINA-A, KFSINCFX-A และ K-SEMQ ในขณะที่คำแนะนำ Mr.Messenger Call การลงทุนรูปแบบ Trend Follower ที่เน้นจับจังหวะลงทุนตามตลาดขาขึ้นนั้นมี Win Rate อยู่ที่ 83% และสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 4.4% นำโดยกองทุน ASP-DIGIBLOC, K-CHINA-A(A),…
นายณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต, นางสาวธีรนุช ทำนุพันธุ์ (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ตัวแทนและบริหารสำนักงานตัวแทน, นายกฤษณ์ อัตตะสาระ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิตภูมิภาค 5, นางสลักจิต นิลประเสริฐศักดิ์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนช่องทางการขาย, นางสาวศศิรัตน์ กิตติจูงจิต (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, นายมนต์ชัย บุณยรัตพันธุ์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิตภูมิภาค 1 และนายศุภวัฒน์ โฆวัชรกุล (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ช่องทางตัวแทน กรุงเทพฯ 28 พฤษภาคม 2567 – เอไอเอ ประเทศไทย จัดงาน AIA CI Kick Off 2024 เดินหน้าส่งมอบความคุ้มครองโรคร้ายแรงเพื่อเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากโรคที่ไม่อาจคาดคิดให้กับคนไทย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาพลังและยกระดับความเป็นมืออาชีพให้กับตัวแทนเอไอเอ ประเทศไทย ผ่านการฝึกอบรมเสริมความรู้และความสามารถในด้านการวางแผนประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรงให้กับลูกค้า เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีความคุ้มครองที่เพียงพอและครอบคลุม นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้มอบคุณวุฒิให้กับตัวแทนประกันชีวิตที่ผ่านมาตรฐานการทำงาน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความเชี่ยวชาญในการวางแผนความคุ้มครองโรคร้ายแรงให้แก่ลูกค้า ตอกย้ำถึงคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ นายณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันโรคร้ายแรงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกอายุ เพราะปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพคนไทย และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนไทยมีการวางแผน และสร้างความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่เพียงพอ เอไอเอ ประเทศไทย ได้พัฒนาแบบประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อช่วยสร้างความคุ้มครองในกรณีมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AIA CI ProCare แบบประกันหลักที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรงตลอดชีพ AIA Multi-Pay CI Plus แบบประกันที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงแบบ เจอ-จ่าย-หลายจบ ครบถึงการดูแล AIA CI Plus…
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต โดย “เมืองไทยสไมล์คลับ” เดินหน้าส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับด้วยการเพิ่มประสบการณ์สุดพิเศษ สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับระดับสถานะ The Ultimate และ Beyond Prestige ด้วยเอกสิทธิ์พิเศษประจำปี 2567 กับการมอบสิทธิพิเศษด้านสุขภาพ ด้านการเดินทางท่องเที่ยว ด้าน Lifestyle กิจกรรมสุด Exclusive และ Smile Birthday Gift ภายใต้แนวคิด Your Pleasure, Your Design เลือกอิ่มเอม เหนือระดับในแบบคุณ โดยสิทธิพิเศษที่สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับระดับสถานะ The Ultimate และ Beyond Prestige จะได้รับประจำปี 2567 ประกอบด้วย • Smile Birthday Gift* ส่งมอบของขวัญที่คัดสรรพิเศษในเดือนเกิด ให้กับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ • Special Lounge at the airport มอบสิทธิพิเศษเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบิน สะดวกสบายในการเดินทาง ที่ The Coral Executive Lounge • Exclusive Limousine Services มอบสิทธิพิเศษบริการรถลีมูซีน รับ หรือ ส่งสนามบิน • Quadrivalent Influenza Vaccine มอบสิทธิพิเศษการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ (สำหรับอายุ 15 ปีขึ้นไป) ได้ที่เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ทั่วประเทศที่ร่วมโครงการ • Smile Exclusive Health หรือ Smile Healthy Plus แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี สิทธิพิเศษการตรวจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ระดับสถานะ The Ultimate และ…