Author: staff

เมย์แบงก์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SingTel จากแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น และส่วนลดใน holding company ที่ประมาณ 39%โดยหนึ่งในปัจจัยบวกที่มีแนวโน้มขับเคลื่อนราคาหุ้น SingTel คือ การที่บริษัทร่วมอย่าง BhartiAirtel ได้ปรับขึ้นราคาบริการมือถือในอินเดียเฉลี่ย 15% ซึ่งคู่แข่งในอุตสาหกรรมก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน นับเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อกำไรของ SingTel อย่างมีนัยสำคัญ จากการที่ Singtel ถือหุ้น Bharti Airtel 29% การปรับราคาการให้บริการมือถือขึ้นในอินเดียส่งผลให้ทางเมย์แบงก์ปรับประมาณการกำไรของ Singtel ขึ้น 4-8% ในปี 68-70นอกจากการปรับประมาณการกำไรขึ้น ทางเมย์แบงก์ได้ปรับมูลค่าเหมาะสมของ SingTel แบบ Sum-of-the-Parts (SoTP)  ขึ้นจาก 3.24 เหรียญสิงคโปร์ เป็น 3.40 เหรียญสิงคโปร์ โดยคำนึงถึงมูลค่าที่สูงขึ้นของ Bharti Airtel  ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.24 เหรียญสิงคโปร์ สูงกว่าราคาตลาดประมาณ 29% ณ ปัจจุบัน อัตราผลตอบแทนเงินปันผลของ Singtel แข็งแกร่งที่ 6-7%และประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้นสำหรับปีงบประมาณ 2026-2027 ของทางเมย์แบงก์สูงกว่าประมาณการของตลาดประมาณ 8-12% ยิ่งไปกว่านั้น เมย์แบงก์ยังมองเห็นว่ามีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่จะเข้ามาอีกในอนาคต ตอกย้ำความมั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของ SingTel โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเมย์แบงก์ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเพียงผู้เดียวของหุ้น DR SINGTEL80 ตราสารแสดงสิทธิในหุ้นต่างประเทศของบริษัท Singapore Telecommunications Limited (Singtel) ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้วิเคราะห์เชิงบวกต่อ Singtel โดยเป็นบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ มี Market Cap ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของ SGX และมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับต้นๆ ในหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน และออสเตรเลีย อีกทั้ง Singtel ยังมีแผน มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่น อาทิ ไอซีทีโซลูชั่น ดาต้าเซ็นเตอร์ ดาวเทียม คลาวด์ และ AI สำหรับนักลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในหุ้นต่างประเทศ สามารถติดตามข้อมูลบทวิเคราะห์ผ่านแอปพลิเคชัน Maybank Investment หรือ สอบถามเพิ่มเติมไดที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-658-5050

Read More

  กรุงศรี เป็นธนาคารพาณิชย์รายแรกที่เปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านคิวอาร์โค้ด สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปสปป.ลาว สามารถใช้ KMA krungsri app (Outbound) ชำระกับร้านค้าได้โดยง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย ตามแผนของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป     กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เดินหน้าในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำแห่งภูมิภาคอาเซียน เปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR (Cross-border QR Payment) ระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้ผู้เดินทางระหว่างไทยและสปป.ลาวสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ง่ายๆ โดยนักท่องเที่ยวไทยสามารถใช้ KMA krungsri app สแกน QR ที่ร้านค้าใน สปป.ลาว ที่มีตราสัญลักษณ์ Lao QR เช่นเดียวกันผู้ประกอบการร้านค้าที่ใช้บริการ กรุงศรี Biz มั่งมี สำหรับร้านค้านิติบุคคล หรือกรุงศรี มั่งมี ช้อปสำหรับร้านค้าบุคคลธรรมดา สามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวลาวได้แบบทันทีง่ายๆ  ทั้งสะดวก และปลอดภัย ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน (2567-2569) ในการเสริมความแข็งแกร่งให้เครือข่ายอย่างครอบคลุมทั่วทั้งอาเซียน ในฐานะสถาบันการเงินชั้นนำของภูมิภาค ที่มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันการเงินที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้ใช้ชีวิตง่ายได้ทุกวัน รวมทั้ง สอดรับกับโครงการความร่วมมือในการเชื่อมโยงการชำระเงินในภูมิภาค(ASEAN Payment Connectivity Initiative) ริเริ่มโดยธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเริ่มใช้บริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เป็นอีกครั้งที่กรุงศรีได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่ทันสมัยและเอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวหรือการงานและธุรกิจ และล่าสุดกับการขยายบริการสู่ สปป.ลาว ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสามารถใช้โมบาย แอปพลิเคชันสแกนเพื่อชำระได้ทันที และกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าก็สามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย” บริการสแกนชำระเงินผ่าน QR ระหว่างประเทศเป็นหนึ่งในนวัตกรรมโซลูชันทางการเงินของกรุงศรี เพื่อยกระดับประสบการณ์การชำระเงินให้มีความทันสมัยและสอดรับกับภูมิทัศน์ทางการเงินทั่วโลกที่เปลี่ยนผ่านสู่การเงินดิจิทัล โดยการเชื่อมต่อระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างไทยและ สปป.ลาว เป็นการต่อยอดจากเดิม ซึ่งกรุงศรีได้เปิดให้บริการแล้วใน 6 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ญี่ปุ่น กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์…

Read More

ธนาคารไทยพาณิชย์ และเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ฉลองความสำเร็จ 5 ปี ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ร่วมมอบทางเลือกผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ด้วยช่องทางที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ โดยมอบความคุ้มครองให้ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ เดินหน้าสานต่อความร่วมมือเพื่ออนาคตที่มั่นคงทางสุขภาพการเงินของคนไทย จุดพลุ “ประกันยิ่งอยู่นาน ยิ่งพิเศษ” มอบทางเลือกประกันชีวิตสะสมทรัพย์ระยะยาว ให้ลูกค้าเลือกระยะเวลาชำระเบี้ย 7 ปี 8 ปี หรือ 9 ปี พร้อมรับเงินคืนทุกปี สมัครง่ายไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ พิเศษกว่าที่เคยด้วย โปรโมชัน 5 ต่อ พร้อมทั้งดึง “ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ” ศิลปิน-นักแต่งเพลงฟีล อบอุ่น นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนใหม่ ร่วมสื่อสารและตอกย้ำความตั้งใจของสององค์กรที่เดินหน้าสนับสนุนคนไทยวางแผนชีวิตระยะยาวด้วยประกันชีวิตสะสมทรัพย์ระยะยาว นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2019 ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต”) ประกาศความร่วมมือด้านประกันภัยที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันที่ส่งมอบความคุ้มครองและความยั่งยืนในด้านการเงินและด้านสุขภาพของคนไทยผ่านช่องทางธนาคารไทยพาณิชย์ที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลให้วงการประกันชีวิต และความมุ่งหวังให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงประกันที่ดีมีมาตรฐานระดับโลก ผ่านนวัตกรรมประกันที่สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการประกันอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยไทยพาณิชย์ครองตำแหน่งผู้นำตลาดประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร หรือ แบงก์แอสชัวรันส์ (Bancassurance) ต่อเนื่อง และในช่วงสี่เดือนแรก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ปี 2567 ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 1* “ตลอดระยะเวลา 5 ปี เราได้มีโอกาสดูแลการเจ็บป่วยให้กับลูกค้า ส่งมอบเงินมรดกให้ทายาท รวมทั้งส่งมอบความมั่นคงในชีวิตในรูปแบบเงินคืน รวมเป็นผลประโยชน์ ทั้งสิ้นกว่า 86,888 ล้านบาท** นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ได้มีส่วนช่วยแบ่งเบาผลกระทบในด้านค่าใช้จ่ายในกรณีที่ไม่คาดฝันให้กับคนไทยจำนวนมาก เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์จากการช่วยลูกค้าวางแผนชีวิตและสุขภาพ และเนื่องจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย คนไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ธนาคารเล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนให้คนไทยวางแผนระยะยาว จึงได้ร่วมกับเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต มอบทางเลือกประกันสะสมทรัพย์ระยะยาว ด้วยจุดเด่น ชำระเบี้ยฯในระยะสั้น เพื่อสร้างความคุ้มครองชีวิตยาวตลอดชีพ และยังให้ผลตอบแทนกลับคืนในรูปของเงินคืนทุกปี เพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ตัวเองและคนข้างหลัง” นางสาวปรมาศิริ กล่าว นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร…

Read More

 บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย คุณณัฐพล คุณกรสิริประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน  นำทีมผู้บริหารและพนักงาน ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติครั้งที่ 23 ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำประกันชีวิตให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจประกันชีวิต รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและสนใจทำประกันชีวิตมากยิ่งขึ้น  เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567  ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

Read More

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นางอรนุช สำราญฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายประกันชีวิต (ที่ 3 จากขวาบน) และ นางสาวจารุวรรณ ลิ้มคุณธรรมโม  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน (ที่ 4 จากขวาบน) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน รวมพลังใส่ใจช่วยเหลือสังคม ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อผู้ป่วยทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสวันประกันชีวิตแห่งชาติประจำปี 2567  ซึ่งเป็นโครงการที่กรุงเทพประกันชีวิตให้ความสำคัญและร่วมกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี  ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

Read More

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำโดยนางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานเปิดงาน นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงาน และ นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมมหกรรมการเงิน Money Expo ในโอกาสให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดและเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Enabling your financial journey – คู่คิด เคียงข้างเรื่องการเงิน ตอกย้ำบทบาท ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย  พร้อมชวนพี่น้องชาวใต้ รวมพลัง ‘ผู้ให้’ ในกิจกรรมบริจาคโลหิต ‘80 แสนซีซีx2’ สานต่อโครงการ ‘80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ’ในงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 14 (Money Expo Hatyai 2024) ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2567 ณ หาดใหญ่ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่   นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 14 หรือ Money ExpoHatyai 2024 นี้ ธนาคารกรุงเทพได้เข้าร่วมออกบูธ ภายใต้แนวคิด Enabling your financial journey – คู่คิด เคียงข้างเรื่องการเงิน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับการเงินในยุคดิจิทัลช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา แต่ยังมั่นใจได้ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป โอกาสนี้ธนาคารได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ธนาคารตั้งใจนำมาเสนอพี่น้องชาวภาคใต้ พร้อมโปรโมชันพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น ประกอบด้วย แบงก์แอสชัวรันส์ บริการประกันภัยหลากหลายรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมด้วยบริษัทพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่…

Read More

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร ได้รับเชิญเป็นหนึ่งในผู้บรรยายพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “Immersive AI Experience in HR” และ “Care & Dare: The Power of People Wellbeing” ในงาน Thailand HR TECH 2024ที่จัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ภายในงาน คุณบุปผาวดี ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแนวปฏิบัติในการดูแลพนักงาน ผ่านการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในงานด้านทรัพยากรบุคคล อาทิ ผ่านการเรียนรู้ การสรรหาบุคลากร การบริหารผลการปฏิบัติงานในการให้และรับฟังเสียงจากพนักงาน Employee Voice is Matter เพราะเสียงของพนักงานมีค่า ซึ่งพนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นได้ทุกๆ เรื่อง เพื่อพัฒนาให้องค์กรดีขึ้น รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาสร้างประสบการณ์การทำงานของพนักงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Touch Application เป็นต้น นอกจากนี้ในหัวข้อ “Care & Dare: The Power of People Welling” คุณบุปผาวดี ได้แบ่งปันวิธีการดูแลพนักงานแบบรอบด้าน ทั้งกาย ใจ และการเงิน ผ่านสวัสดิการต่างๆ ของบริษัทฯ พร้อมทั้งเน้นย้ำ ด้านความกล้าที่จะทำสิ่งที่แตกต่างให้กับพนักงานและลูกค้า เช่น การให้เงินช่วยเหลือในการซื้ออุปกรณ์สำหรับทำงานที่บ้าน วันลาสำหรับดูแลสัตว์เลี้ยง วันลาคลอดของทั้งของพนักงานชายและหญิง ตลอดจนสวัสดิการให้คู่รัก LGBTQ+ รวมถึงเงินช่วยเหลือและวันลาสำหรับการผ่าตัดแปลงเพศ เป็นต้น กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เชื่อว่าการพัฒนาศักยภาพของพนักงานและสร้างจิตสำนึกด้านวัฒนธรรมองค์กร เทคโนโลยี ตลอดจนการให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงาน และลูกค้ารวมถึงความกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง บริษัทฯ มั่นใจว่า เมื่อพนักงานได้รับการดูแลที่ดี จะส่งมอบการบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของเรา ตามนโยบายหลักที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป สำหรับท่านที่สนใจร่วมงานกับ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สามารถติดต่อได้ที่…

Read More

4 แกนนำภาคอุตสาหกรรมประกันชีวิต โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน พร้อมด้วยกองทุนประกันชีวิต รวมพลังบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตและเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคโลหิตช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 ประจำปี 2567 นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ รองประธานคณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 (พ.ศ.2567) กล่าวว่า การบริจาคโลหิตเป็นกิจกรรมสาธารณะกุศล เนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติที่ถูกจัดอย่างต่อเนื่องทุกปี จากการประสานความร่วมมือของ 4 แกนนำภาคธุรกิจประกันชีวิตได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน พร้อมด้วยกองทุนประกันชีวิต เป็นแก่นนำในการผนึกกำลังบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตพร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนที่มีจิตสาธารณะร่วมแรงร่วมใจมาบริจาคโลหิต ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งข้อมูลที่ได้จากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเกี่ยวกับการรับบริจาคโลหิตนั้น พบว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนประชากร 66 ล้านคน แต่มีผู้บริจาคโลหิตเพียง 1,500,000 คน และในจำนวนนี้เป็นผู้บริจาคโลหิตเพียงปีละ 1 ครั้ง คิดเป็น 67% ของจำนวนผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาจำนวนโลหิตที่ได้รับบริจาคมีไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย ดังนั้น ภาคธุรกิจประกันชีวิตจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดกิจกรรมสาธารณะกุศลบริจาคโลหิตเนื่องในวันประกันชีวิตแห่งชาติขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของภาคธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งปี 2567 นี้ เป็นปีที่ 15 (เริ่มรับบริจาคโลหิตครั้งแรก ในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ประจำปี 2553) ทำให้ตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา สมาคม ฯ ได้รับความร่วมมือในการบริจาคโลหิตจากบุคคลทั้งในและนอกวงการธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 67,299 ราย และได้รับปริมาณโลหิตเป็นจำนวนถึง 26,718,850 ซี.ซี. สำหรับปี 2567 นี้ สมาคมประกันชีวิตไทยมีความมุ่งมั่นที่จะรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรของธุรกิจประกันชีวิต ทั้งพนักงานในทุกภาคส่วนของบริษัทประกันชีวิตและตัวแทนประกันชีวิตในแต่ละบริษัท รวมทั้งประชาชนทั่วไปทั่วประเทศแสดงพลังจิตอาสา โดยเริ่มดำเนินกิจกรรมรณรงค์และรับบริจาคโลหิตตั้งแต่เดือนมกราคมและจะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2567 พร้อมทั้งวางเป้าหมายการรับบริจาคโลหิตไว้ที่ประมาณ 4,000,000 ซี.ซี. (10,000 คน) แบ่งเป็นในส่วนกลางปริมาณโลหิตที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 1,500,000 ซี.ซี. (4,000 คน) ส่วนภูมิภาค ปริมาณโลหิตที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 2,500,000 ซี.ซี. (6,000 คน) ซึ่งในส่วนกลางได้มีการเปิดงานอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ…

Read More

         นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากปัญหาภัยทุจริตทางการเงินที่มีประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันและถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ธนาคารและหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการเตือนภัยประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อช่วยลูกค้าประชาชนลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงเมื่อทำธุรกรรมผ่านบริการทางการเงินดิจิทัล ธนาคารออมสินจึงได้ยกระดับความปลอดภัยของบริการ Mobile Banking โดยการเพิ่มโหมดบริการ MyMo Secure+ ที่จำกัดการทำธุรกรรมเฉพาะบัญชีของตนเองเท่านั้น กรณีมือถือโดนแฮก หรือโดนควบคุมมือถือผ่านรีโมท มิจฉาชีพก็จะไม่สามารถโอนเงินของเราไปยังบัญชีอื่น หรือบัญชีบุคคลที่ 3 ได้ ถือเป็นการจำกัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งธนาคารออมสินเป็นธนาคารแรกที่ริเริ่มติดตั้งโหมดปลอดมิจฉาชีพสำหรับให้บริการลูกค้าบนแอปพลิเคชัน          MyMo Secure+ หรือ MyMo Secure Plus เป็นโหมดบริการบนแอป MyMo ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ง่าย ๆ และปลอดภัยมากขึ้น เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่อาจตกเป็นเหยื่อภัยทางการเงินได้ง่าย อาทิ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยเมื่อลูกค้าเปลี่ยนมาใช้โหมดบริการ MyMo Secure+ จะสามารถใช้บริการที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีของตนเองเท่านั้น โดยจำกัดการทำรายการเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคาร การโอนเงินไปบัญชีต่างธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ บัญชีสินเชื่อของตนเอง การชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมบัญชีตนเองต่างธนาคาร ไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน หรือถอนเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน เป็นต้น โดยลูกค้าเดิมที่ใช้แอป MyMoอยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนโหมดเป็น MyMo Secure+ ได้ด้วยตนเองโดยกดที่ปุ่ม MyMo Secure+ มุมขวาบน หรือจากแบนเนอร์หน้าโฮม หรือจากแถบตั้งค่า และเมื่อกดสมัครใช้งานแล้ว จะต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือการเปลี่ยนโหมด และมีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า จึงสมัครใช้บริการสำเร็จ กรณีลูกค้าต้องการเปลี่ยนกลับไปใช้แอป MyMo รูปแบบทั่วไป สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา          อนึ่ง การยกระดับแอป MyMo ให้มีโหมดความปลอดภัย เป็นการดำเนินงานโดยสอดคล้องกับมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน โดยขอความร่วมมือธนาคารต่าง ๆ ในการป้องกันความเสียหาย และมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลธุรกรรมของลูกค้าให้ปลอดภัยขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดปัญหาการถูกหลอกลวงออนไลน์ โดยธนาคารออมสิน ได้ให้ความสำคัญในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบการให้บริการที่ถือเป็นหัวใจหลักของการให้บริการ Mobile Banking มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC…

Read More

​บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SE Life หนึ่งในสายธุรกิจหลักของไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงินในเครือทีซีซี นำโดย นางภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ประกันสุขภาพ “Be Healthy” ภายใต้แนวคิด “Be Series” กับผู้บริหารและตัวแทนของ SE Life ทั่วประเทศ เพื่อส่งมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ยกระดับการบริการด้านประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้าและคนไทยอย่างยั่งยืน ​สำหรับผลิตภัณฑ์ Be Healthy ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ต้องการความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติม ด้วยเบี้ยเริ่มต้นเพียง 9 บาทต่อวัน ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลรวมสูงสุด 1,500,000 บาท อาทิ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) จากอุบัติเหตุ สูงสุด 10,000 บาทต่อครั้ง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ค่าห้องและค่าอาหาร สูงสุด 5,000 บาทต่อวัน ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู สูงสุด 8 ครั้งต่อปี มั่นใจด้วยเครือข่ายโรงพยาบาลมากกว่า 430 แห่ง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งเบี้ยประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท ทั้งนี้ ลูกค้าควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์สูงสุดตามเงื่อนไขของบริษัทฯ ——————————————————————————————————————————————— เกี่ยวกับ บมจ.อาคเนย์ประกันชีวิต บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SE Life เป็นหนึ่งในสายธุรกิจหลักของ บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Thai Group Holdings (TGH) ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและมีธุุรกิจการลงทุุนตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุุรกิจประกันภัยกำหนด โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งประกันชีวิตแบบสามัญ อาทิ แบบตลอดชีพ แบบชั่วระยะเวลา แบบสะสมทรัพย์ แบบบำนาญ ฯลฯ ประกันชีวิตกลุ่ม และประกันชีวิตธุรกิจสถาบัน…

Read More