นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีผลตอบแทนย้อนหลังดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ที่มา: Fidelity, Refinitiv Eikon, ข้อมูล ณ วันที่ 10 พ.ค. 67) โดยอัตราค่าจ้างที่เริ่มปรับตัวขึ้นนับว่าเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อของทางธนาคารกลางญี่ปุ่นหลังจากที่เผชิญกับภาวะเงินฝืดมานานนับทศวรรษ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเคแทม Japan All Cap Equity (KT-JAPANALL) ซึ่งเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 16 – 23 ก.ค.นี้ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท และพิเศษสำหรับผู้ลงทุนช่วง IPO จะได้ลดค่าธรรมเนียมการขาย และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนเข้า เหลือเพียง 1% เท่านั้น กองทุน KT-JAPANALL (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Fidelity Funds – Japan Value Fund Y-ACC-JPY (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ โดยมุ่งเน้นในบริษัทที่มีมูลค่าตํ่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง (Undervalued) นอกจากนี้ กองทุนหลักยังได้อันดับเรทติ้ง Morningstar 5 ดาวด้วย (ที่มา: Morningstar ข้อมูล ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2567) สำหรับกองทุนหลักมีการบริหารการลงทุนแบบเชิงรุก (Active Investing) โดยเน้นการวิเคราะห์หุ้นรายตัว (Bottom-up) เป็นหลัก และสามารถลงทุนได้ทั้งในหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยเน้นบริษัทที่มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเมื่อเทียบกับโอกาสในการเติบโต กระแสเงินสด และคุณภาพงบดุล เพื่อมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด ทั้งนี้ กองทุนหลักจะเน้นแนวทางการลงทุนแบบคุณค่า (Value Tilt) เป็นหลัก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าถูกจนเกินไป…
Author: staff
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อปวงพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจหลากหลายด้าน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกร และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ก่อตั้งโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ร่วมกับภาควิชาจิตรกรรม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และศูนย์ศิลป์สิรินธร จัดนิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “๗๒ พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน มหาวชิราลงกรณ” ขึ้น โดยในวันนี้ (๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗) นายกฤษณ์ จันทโนทก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชญ มุกดามณี คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และดร.สังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร ร่วมเปิดงาน พร้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง รวมทั้งคณาจารย์ ศิลปินรับเชิญ และคุณอารยา ภู่พานิช รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการ นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “๗๒ พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน มหาวชิราลงกรณ” จัดแสดงผลงานศิลปกรรมจากการน้อมรวมดวงใจของศิลปินแห่งชาติ คณาจารย์ และศิลปินรับเชิญ จำนวน ๓๘ ท่าน รวม ๓๙ ผลงาน ประกอบด้วย ผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ ล้วนเป็นผลงานศิลปกรรมที่เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี สะท้อนถึงพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจสำคัญต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรของพระองค์ โดยเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นในรัชกาลปัจจุบัน และนำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ทั้งนี้ศิลปินจะนำรายได้ ๑๕% จากการจำหน่ายผลงานสมทบโครงการ “ราษฎรสุขใจ พลานามัยสมบูรณ์ แพทย์พระราชทาน”…
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เข้าร่วม “โครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา จัดโดยมูลนิธิพระดาบส โดยมีพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางสาว นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ คณะผู้บริหารและพนักงาน SAM เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ โดยจำนวนต้นไม้ที่ปลูกทั้งหมด 672 ต้น จากพันธุ์กล้าต้นไม้ 9 ชนิด ณ มูลนิธิพระดาบส อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ เกี่ยวกับ SAM : บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนระบบสถาบันการเงินให้เติบโตอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน วิสัยทัศน์ : เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งรัฐ ที่มีบทบาทสนับสนุนให้ประชาชนและภาคธุรกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดย นายอภิวัฒน์ ปุณโณปกรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ ผู้แทนธนาคาร ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน ที่ช่วยดักขยะในแม่น้ำก่อนออกปากแม่น้ำท่าจีนและไหลลงสู่อ่าวไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับองค์การบริหารส่วนตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อต่อยอดการสร้างมูลค่าจากขยะผ่านการร่วมขับเคลื่อน โครงการคัดแยกขยะอย่างยั่งยืน คืนทุนสู่ชุมชน: “Don’t Cry I Care” พร้อมจัดตั้งธนาคารขยะรีไซเคิลชุมชน เพิ่มมูลค่าขยะรีไซเคิลและสิ่งของเหลือใช้ที่ยังคงสภาพดี สร้างรายได้แก่เหล่าสมาชิกธนาคารขยะ และแบ่งปันจัดสวัสดิการสังคมในรูปแบบต่างๆ ให้แก่คนในชุมชน ภายใต้แนวคิด “ฝากขายสร้างรายได้ ฝากให้เพื่อแบ่งปัน” สร้างความยั่งยืนในการกำจัดขยะอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับธนาคารกรุงเทพ ได้ดำเนิน โครงการ Bualuang Save the Earth: รักษ์ท่าจีน โดยติดตั้งเครื่องมือดักขยะในน้ำทั้ง 3 ประเภทได้แก่ ทุ่นดักขยะ (บูม) กระชังไม้ไผ่ดักขยะ และเครื่องมือดักขยะแบบปักหลัก ในพื้นที่นำร่องบริเวณคลองหลวงสหกรณ์ และคลองพิทยาลงกรณ์ ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นจุดสำคัญที่มีปริมาณขยะจำนวนมากที่ไหลจากชุมชนต่างๆ มารวมกัน เป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน พบว่า สามารถดักจับขยะได้มากถึง 14,459 กิโลกรัม โดยเป็นขยะประเภทพลาสติกมากที่สุดถึง 6,670 กิโลกรัม รองลงมาคือ โฟม 5,755 กิโลกรัม ขวดแก้ว 956 กิโลกรัม กระดาษ 452 กิโลกรัม โลหะ 427 กิโลกรัม และขยะอื่นๆ 199 กิโลกรัม./
มูลนิธิทิสโก้ เพื่อการกุศล จัดพิธีมอบทุนการศึกษาประจำปี 2567 โดยมี นายศิวะพร ทรรทรานนท์ ประธานมูลนิธิทิสโก้ เพื่อการกุศล เป็นประธานในพิธี นายปลิว มังกรกนก รองประธานมูลนิธิฯ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ และในฐานะกรรมการ มูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้บริหารกลุ่มทิสโก้ ร่วมกันมอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต สำหรับพิธีมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ของมูลนิธิทิสโก้ เพื่อการกุศล เป็นการมอบทุนแก่นักเรียนและนักศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จากสถานศึกษา 52 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 427 ทุน รวมมูลค่า 2,025,000 บาท พร้อมกันนี้จะเดินหน้ามอบทุนการศึกษาในรอบที่ 1/2567 ทั่วประเทศเป็นจำนวนทั้งสิ้น 11,408 ทุน มูลค่าทุนจำนวน 42,132,000 บาท และทั้งปี 2567 ตั้งเป้ามอบทุนการศึกษารวมทั้งสิ้นกว่า 12,000 ทุน คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 45 ล้านบาท กระจายสู่สถานศึกษากว่า 1,250 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งกำหนดส่งมอบแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ เพื่อต่อยอดขยายโอกาสการมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อเนื่อง มูลนิธิทิสโก้ เพื่อการกุศล เป็นองค์กรเอกชนที่ดำเนินงานพัฒนาสังคมโดยไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มทิสโก้ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยในสังคมแบบเต็มเวลา (As Process) มาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่ปี 2525 นอกเหนือจากประกอบธุรกิจเพื่ออำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติโดยส่วนรวม โดยมีทุน 3 ประเภท ได้แก่ ทุนประกอบอาชีพ ทุนรักษาพยาบาล และทุนการศึกษา ซึ่งเป็นทุนหลักของมูลนิธิฯ และจวบจนถึง กรกฎาคม ปี 2567 ได้มอบทุนการศึกษาแล้วกว่า 182,862 ทุน มูลค่าทุนบริจาคด้านการศึกษาทั้งสิ้น 638 ล้านบาท สำหรับผู้ที่สนใจขอรับทุนสนับสนุนสามารถดาวโหลดแบบฟอร์มการขอรับทุนทั้ง 3 ประเภทได้ที่ http://www.tiscofoundation.org ##############
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพรผู้ช่วยผู้จัดการงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน และ นายปรเมษ บุญเศรษฐ ผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน นำทีมงานจัดกิจกรรม “นำความรู้สู่ชุมชน เพื่อชีวิตหมุนต่อได้” เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับชาวชุมชนบึงพระราม 9 พัฒนา กทม. จำนวนกว่า 30 คน ภายใต้โครงการ “เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน” โดยใช้หลักสูตร “ปลดหนี้ ชีวิตเป็นสุข” นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก นางวาสนา แจ้งกระจ่าง ประธานชุมชนพระราม 9 พัฒนา เชิญชวนชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงินให้กับคนในชุมชนของตนเอง ภายในงานยังได้รับความสนใจจากสมาชิกสมาคมฯ จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ไฮเวย์ จำกัด (สมหวัง เงินสั่งได้) และบริษัท ออโต้ เอ็กซ์ จำกัด (เงินไชโย) ส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตการณ์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนต่อไป ณ สนามกีฬาชุมชนบึงพระราม 9 พัฒนา เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการ “เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน” จัดโดย สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ (VTLA) วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐานให้กับชาวบ้านชาวชุมชนทั่วประเทศ โดยใช้หลักสูตร “ปลดหนี้ ชีวิตเป็นสุข” และ “ออมเงินง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้” ผ่านความร่วมมือของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวนรวม 16 ราย มีสาขารวมกันทั่วประเทศกว่า 18,000 สาขา และมีฐานลูกค้ารวมกันกว่า 5 ล้านราย นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ขอเรียนเชิญผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถรายอื่น ๆ สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 065-919-0644 หรือเยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมฯ ได้ที่ www.vtla.or.th ###
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุแก่กลุ่มลูกจ้างของกรุงเทพมหานคร 51,000 คน ทุนประกันรวม 5,100,000,000 บาท จาก นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมด้วย ผู้บริหารจากพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ของบริษัทฯ ประกอบด้วย ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, ทีเอ็มบีธนชาต, และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีฯ ด้วยตระหนักว่า ลูกจ้างของกทม.ถือเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนกรุงเทพมหานคร ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ คือ กลุ่มคนเปราะบางที่อาจจะเข้าถึงประกันได้ยาก นอกจากนั้น บริษัทฯ อยากให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมของโครงการ Give The Future : การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยลูกค้าใหม่ของพรูเด็นเชียลฯ ที่ซื้อ 1 กรมธรรม์วันนี้ จะมีโอกาสส่งต่ออีก 1 กรมธรรม์ให้แก่ลูกจ้างของกทม.อีกด้วย ติดตามรายละเอียดได้ที่: (Link :https://pruthai.life/RwMOy)หรือที่เว็บไซต์ https://pruthai.life/qwMIc
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ว่า โลกยังคงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความผันผวนของภาพรวมการลงทุน โดยบลจ.อีสท์สปริง ได้มุ่งเน้นให้คำแนะนำในการจัดพอร์ตแบบสร้างสมดุลเพื่อไม่ให้ผู้ลงทุนพลาดโอกาสในการลงทุน และ ช่วยกระจายความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ พร้อมการออกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการทั้งใน และต่างประเทศ โดยปัจจุบันบลจ.อีสท์สปริง สามารถบริหารจัดการกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Funds หรือ FIFs) ได้โดดเด่น และ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนรวม FIF ตราสารหนี้ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 19% และ ยังครองสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับ 2 ในกองทุน FIF ตราสารทุน ด้วยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13% (ข้อมูลจาก AIMC ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2567) นางสาวดารบุษป์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนของ บลจ.อีสท์สปริง ในระยะยาวมุ่งเน้นเรื่องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้คนในสังคมเพื่อรองรับการเกษียณ โดยหลังจากได้พัฒนานวัตกรรมใหม่พร้อมเปิดตัวโมบายแอปพลิเคชัน Eastspring M Choice TH เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง ยังได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อการบริการเพิ่มเติมโดยให้สมาชิกสามารถปรับสัดส่วนอัตราเงินสะสมผ่านช่องทางดิจิทัลได้ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มกระดาษ นอกจากนี้ ยังต่อยอดการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อขยายตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้วยการเปิดตัว EastspringPVD Employer Online บริการที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นายจ้าง และ Eastspring PVD Fund Committee สำหรับคณะกรรมการกองทุนเพื่อให้สามารถบริหารจัดการสมาชิกผ่านโมบายแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ถือเป็นธุรกรรมที่ทำได้ทันทีแบบไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องมีการส่งข้อมูลทางอีเมลระหว่างกัน รวมถึงไม่ต้องนำส่งกระดาษเพื่อเวียนลงนาม ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากร ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ในการทำงานแบบ Smart Work-Smart Solution “ด้วยจุดแข็งของการมีผลิตภัณฑ์ที่มีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า 30 นโยบาย ตลอดจนการพัฒนาด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บลจ.อีสท์สปริง มีจำนวนลูกค้าผู้ใช้บริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง…
ธ.ก.ส. ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดกิจกรรมอบรมภายใต้โครงการ“ปลูกผักไว้ทานเอง” ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส.บ้านทุ่งกระโปรง พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินงานมาตรการพักชำระหนี้สำหรับลูกค้ารายย่อยและฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ในพื้นที่จังหวัดนครนายก นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดกิจกรรมอบรมภายใต้โครงการ“ปลูกผักไว้ทานเอง” ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส. บ้านทุ่งกระโปรง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจได้เรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสาน ที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยการนำพลังงานสะอาดมาปรับใช้ เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว การปลูกพืชหมุนเวียน และการปลูกผักในถุง ช่วยลดต้นทุนการผลิต และนำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต เช่น การนำผักกูดมาแปรรูปเป็นขนมทองม้วน และข้าวเกรียบ จนสามารถสร้างอาชีพเสริมและรายได้ พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมทำกิจกรรมภายในศูนย์เรียนรู้ฯ อื่นๆ อาทิ การเลี้ยงชันโรง การเก็บผักในแปลง การปรุงดินและการทำแบคทีเรียสังเคราะห์แสง การเก็บใบไม้แห้งและเศษอาหาร เพื่อนำมาผลิตปุ๋ยหมัก การปลูกผักในถุง และการสาธิตทำขนมทองม้วน เป็นต้น ซึ่งนอกจากสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้แล้ว ยังมีกลุ่มเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้รายย่อย จำนวน 10 ราย เข้าร่วมการอบรมฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในการประกอบอาชีพระหว่างการพักชำระหนี้ ซึ่งจังหวัดนครนายกมีลูกค้าเข้าฝึกอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพฯ แล้วจำนวน 1,152 ราย ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายของรัฐบาล ให้กับลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ปัจจุบันมีลูกค้า ธ.ก.ส. ทั่วประเทศรับสิทธิ์ตามมาตรการดังกล่าวแล้ว จำนวน 1.8 ล้านราย ยอดพักชำระหนี้รวมทั้งสิ้น 257,247 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนโครงการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่างการพักหนี้ อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน รวมถึงเตรียมขยายมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย เฟส 2 ตามนโยบายรัฐบาล เร็วๆ นี้
สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่งานวิชาการ เมื่อสามารถระดมกูรูด้าน AI ร่วมระดมสมองเปิดมุมมองความสำคัญในการใช้นวัตกรรมพัฒนาชาติ ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Dongtan Engineer Forum 2024 “ AI . ARTIFICIAL INTELLIGENCE ปัญญาประดิษฐ์ พลิกโฉมเศรษฐกิจของชาติ” โดยมี 9 องค์ปาฐก ซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงในองค์กรต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ เผยงานนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่งกว่า 300 ชีวิต และต่างตื่นตากับการเปิดตัวผลงานปัญญาประดิษฐ์จากฝีมือนิสิตเก่าที่คว้ารางวัลระดับโลก นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ นายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยว่าการจัดงานวิชาการประจำปี 2567Dongtan Engineer Forum 2024 ของสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังเห็นได้จากการที่มีผู้ให้ความสนใจเต็มห้องประชุมทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนมาร่วมรับฟัง ทั้งนี้คงเป็นเพราะว่าหัวข้อวิชาการที่ร่วมกันระดมสมองในวันนี้ เป็นประเด็นที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นั้นก็คือการตั้งธงความคิดว่าจากใช้ AI มาพัฒนาชาติได้อย่างไร ภายใต้หัวข้อ “ AI . ARTIFICIAL INTELLIGENCE ปัญญาประดิษฐ์ พลิกโฉมเศรษฐกิจของชาติ” ประกอบกับผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมเป็นองค์ปาฐก ต่างเป็นผู้นำระดับสูงขององค์กรชั้นนำในภาคธุรกิจแขนงต่างๆ และรวมถึงภาครัฐด้วยแต่ละท่านนั้นต่างประสบความสำเร็จในการใช้ AI มาเสริมสร้างศักยภาพในการขับเคลื่อนองค์กรจนประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล ได้ให้ข้อมูลเรื่องปัญญาประดิษฐ์กับความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเงินการคลัง ท่านคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศ.ดร.วันชัย ยอดสุดใจ ได้เล่าถึงความก้าวหน้าของวิศวกรรมการสร้างอนาคตด้วยปัญญาประดิษฐ์ และความสำเร็จของโครงงานต่างๆ ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ดำเนินมาทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในขณะที่ทางภาคราชการและเอกชน ว่าที่ ร.ต.ประยุทธ เสตถาภิรมย์ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ได้บรรยายถึงเรื่องราวของ AI ที่จะมาสนับสนุนงานภาครัฐได้อย่างไร เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเรื่องความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมจากบทบาทของ AI ที่นับวันจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ด้านเอกชนในส่วนของภาคการเงิน…. ด้านเอกชนในส่วนของภาคการเงิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คุณศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ได้เสริมในเรื่องศักยภาพและการสานประโยชน์ต่างๆ ในด้าน AI…