อุตสาหกรรมประกันภัยของกัมพูชามีเบี้ยประกันภัยรวม 356.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 โดยเพิ่มขึ้น 3.5% จาก 344.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ตัวเลขนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยของกัมพูชา (Insurance Regulator of Cambodia) ในเดือนมกราคม 2568
ตามรายงานจากสำนักข่าวซินหัว อ้างถึงรายงานของ IRC ระบุว่า การเติบโตดังกล่าวมาจากบริษัทประกันวินาศภัย 18 แห่ง, บริษัทประกันชีวิต 14 แห่ง, บริษัทที่ทำ micro-insurance 7 แห่ง และบริษัทประกันภัยภัย 1 แห่ง
การเคลมที่เกิดขึ้นในปี 2567 รวมประมาณ 79.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 18.9% ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์รวมของอุตสาหกรรมประกันภัยในกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Bou Chanphirou เลขาธิการสำนักงาน IRC กล่าวว่า อุตสาหกรรมประกันภัยของประเทศมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนระบบความมั่นคงทางสังคมและการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติของกัมพูชา ตามรายงานจากหน่วยงานกำกับดูแลการประกันภัย อัตราการเข้าถึงประกันภัยในกัมพูชาในปี 2566 คิดเป็น 1.16% ของ GDP และเบี้ยประกันภัยต่อคนในปี 2566 อยู่ที่ 21 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน
Bou Chanphirou กล่าวเพิ่มเติมว่า สองตัวชี้วัดนี้แสดงให้เห็นว่า ตลาดประกันภัยของกัมพูชามีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศของกัมพูชาทำให้ประเทศมีความเสี่ยงสูงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น อุทกภัย ภัยแล้ง และพายุไต้ฝุ่น ซึ่งภัยพิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ามักทำลายชีวิตความเป็นอยู่ เกษตรกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยผลกระทบที่เกิดขึ้น กลไกในการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการรับมือและฟื้นฟูภัยพิบัติยังคงไม่ดีพอ ส่งผลให้ประเทศต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก
นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในด้านนี้ยังมีน้อยมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงจากภัยพิบัติยังมีการเข้าถึงน้อยมาก การขาดระบบข้อมูลที่ดีพอส่งผลให้การประเมินความเสี่ยงและการกำหนดพิกัดราคาไม่แม่นยำ ย่อมเป็นข้อจำกัดต่อกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่
การเพิ่มการตื่นตัวในชุมชนเกี่ยวกับความสำคัญของผลิตภัณฑ์ประกันภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อมทางการเงินถือเป็นสิ่งสำคัญ กัมพูชาจำเป็นต้องนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากประเทศในอาเซียน เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติของตน
ข้อมูลจาก www.asiainsurancereview.com/