Carrot General Insurance ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2019 เป็นบริษัทประกันดิจิทัลแห่งแรกของเกาหลีใต้ และดำเนินธุรกิจมาได้ 7 ปี กำลังจะถูกรวมเข้ากับบริษัทแม่ Hanwha General Insurance หลังจากธุรกิจขาดทุนต่อเนื่องกันถึง 6 ปี
ตามรายงานข่าวระบุว่า Hanwha General Insurance ได้จัดการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2025 และมีมติให้ควบรวมบริษัทลูก Carrot General Insurance เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแม่
รายงานข่าวระบุคำพูดของเจ้าหน้าที่บริษัทคนหนึ่ง กล่าวว่า “แม้จะควบรวมกิจการแล้ว Carrot General Insurance ยังคงดำเนินงานในฐานะหน่วยธุรกิจอิสระ โดยจะเดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรมด้านดิจิทัลเช่นเดิม”
Carrot General Insurance มีผลขาดทุนสุทธิ 9.1 พันล้านวอนในปีแรกของการดำเนินงาน และขาดทุนต่อเนื่องรวม 6 ปี โดยยอดขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ 84 พันล้านวอนในปี 2565 ก่อนจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 66.2 พันล้านวอนในปี 2567 หากรวมยอดขาดทุนสะสมตกประมาณ 330 พันล้านวอน
อัตราความเพียงพอของเงินกองทุนของคาร์รอตยังลดลงอย่างมากจาก 656% ในปี 2565 เหลือเพียง 156% ในปี 2567 ลดลงไปเกือบต่ำกว่าระดับที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดไว้ที่ 150%
Hanwha General Insurance เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Carrot ด้วยสัดส่วน 75.1% ตามด้วย SK Telecom (9.9%) Altos Fund (9.9%) และ Hyundai Motor (5.1%) โดย Hanwha ได้ลงทุนโดยตรงและโดยอ้อมใน Carrot รวมเกือบ 500 พันล้านวอนในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
Hanwha ได้ก่อตั้ง Carrot ขึ้นในช่วงที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดประกันภัยออนไลน์มากขึ้น โดยในปี 2562 บริษัทฟินเทคจำนวนมากเริ่มหาทางเข้าสู่ตลาดประกันภัยเกาหลีด้วยการดึงลูกค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ของตน
Carrot ได้รับความสนใจจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์แบบจ่ายตามระยะทาง (pay-per-mile) ซึ่งคิดค่าเบี้ยตามระยะทางที่ขับจริง แตกต่างจากแบบดั้งเดิมที่ต้องจ่ายเบี้ยรายปีแบบเหมาจ่าย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า Carrot ไม่สามารถเจาะตลาดประกันภัยได้กว้าง เนื่องจากใช้รูปแบบดิจิทัลเพียงอย่างเดียว ขณะที่ตลาดประกันภัยในเกาหลียังคงถูกครอบงำโดยบริษัทดั้งเดิมที่พึ่งพาการขายผ่านหน้าหน้าและตัวแทน ส่วนผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น ประกันรถยนต์ มักเป็นผลิตภัณฑ์ระยะสั้น เบี้ยต่ำ และมีกำไรน้อย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมที่ถูกอ้างถึงในรายงานข่าวชี้ว่า การควบรวม Carrot ไม่อาจถือเป็นความล้มเหลวโดยสมบูรณ์ เพราะความต้องการผลิตภัณฑ์ดิจิทัลกำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ต่อเนื่อง และเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ช่องทางดิจิทัลจะเริ่มมีบทบาทในผลิตภัณฑ์ประกันระยะยาวมากยิ่งขึ้น