อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตอกย้ำความแข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ยืนยันให้ความคุ้มครองลูกค้าทุกรายที่ถือกรมธรรม์อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิตและสุขภาพ พร้อมเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง สนับสนุนสังคมไทยให้เดินหน้าฝ่าโควิดไปด้วยกัน นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ในขณะนี้ มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผู้บริโภคเริ่มเกิดความไม่มั่นใจ สำหรับ อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะผู้นำในประกันชีวิตและสุขภาพ ขอยืนยันความมั่นคงของบริษัท และยืนยันความคุ้มครองที่ลูกค้าจะได้รับจะเป็นไปตามกรมธรรม์ที่ลูกค้าถือไว้ทุกประการ บริษัทไม่มีนโยบายในการยกลิกสัญญากับลูกค้าอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้จ่ายเคลมตามกรมธรรม์จากสถานกาณณ์โควิด 19 ไปแล้ว กว่า 2,500 เคส ยอดเคลมกว่า 157 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีมาตรการเสริมความคุ้มครองโควิด-19 รอบด้านสำหรับลูกค้า อาทิ การให้ความคุ้มครอง กรณีลูกค้าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งครอบคลุมการรักษาทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel) ความคุ้มครองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับลูกค้าที่มีอาการและได้รับคำแนะนำจากแพทย์ การช่วยประสานงานและให้คำปรึกษาการเข้ารับการรักษา กรณีที่ลูกค้า ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโควิด-19 และ การลดระยะเวลารอคอยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองเร็วขึ้น กรณีที่ลูกค้ามีการซื้อสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพฉบับใหม่ โดย ลดระยะเวลารอคอยการเข้ารับการรักษาด้วยโรคโควิด-19 จาก 30 วันเป็น 14 วัน และสามารถใช้บริการเคลมแบบที่ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายออกไปก่อน (แฟกซ์เคลม) จากเดิม ที่จะใช้สิทธิ์ได้ต้องรอ 90 วัน ลดเหลือเพียง 30 วันก็สามารถเคลมแบบไม่ต้องสำรองจ่ายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรพ.คู่สัญญา และ เงื่อนไขกรมธรรม์ด้วย “ไม่ว่าสถานการณ์จะไม่แน่นอนซักเพียงใด อลิอันซ์ อยุธยา จะอยู่เคียงข้างลูกค้า พร้อมที่จะให้ความคุ้มครองตามคำมั่นสัญญาของเรา และพร้อมจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนของสังคมไทย ที่จะจับมือทุกฝ่ายก้าวผ่านสถานการณ์ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน” นางสาวพัชรา กล่าวทิ้งท้าย
Author: staff
ตามที่มีข่าวว่าบริษัทประกันภัยรายหนึ่งมีหนังสือถึงผู้เอาประกันภัยแจ้งการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 รวมทั้งมีการเผยแพร่เอกสารการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวต่อสาธารณชนนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามข้อมูลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้ประสานงานกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเห็นว่า ในสถานการณ์ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน ระบบประกันภัยควรเป็นที่พึ่งและสามารถเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เอาประกันภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอดจนเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินการออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัทในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัย โดยคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 ได้สั่งให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท สำหรับกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน และกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยก่อนวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และยังคงมีผลใช้บังคับ เว้นแต่ปรากฏหลักฐานชัดเจนต่อบริษัทว่าผู้เอาประกันภัยได้กระทำการทุจริตหรือฉ้อฉลประกันภัย เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการประกันภัย ซึ่งหมายความว่า กรมธรรม์ประกันภัยโควิดที่ยังไม่หมดอายุจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปจนกว่าจะหมดอายุความคุ้มครอง โดยที่บริษัทประกันภัยจะไม่สามารถบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ตามอำเภอใจ “การออกคำสั่งนี้เป็นกรณีที่นายทะเบียนเห็นสมควร เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้เอาประกันโควิดเป็นวงกว้าง ทั้งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของระบบประกันภัยไทย รวมทั้งมีการใช้มาตรการอย่างอื่นแล้วไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อมิให้ปัญหาลุกลามบานปลาย โดยที่คำสั่งดังกล่าวจะมีผลกับบริษัทประกันวินาศภัยทุกบริษัท จึงไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งต่อไปจะได้หารือกันเพื่อให้มีการปรับปรุงเงื่อนไขการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภคยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนมั่นใจต่อระบบประกันภัย สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้ในทุกสถานการณ์ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องประกันภัย หรือต้องการข้อมูลด้านประกันภัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
กลุ่มทิสโก้เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2564จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อและรุนแรง ประเมินเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มอ่อนแอมากขึ้น พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ผ่านพ้นวิกฤต นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในช่วงไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิ 1,666 ล้านบาท ลดลง 97 ล้านบาท หรือ 5.5% จากไตรมาส 1/2564 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมจากทุกธุรกิจหลักอ่อนตัวลง ทั้งค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัย ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายสำรองปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทได้ตั้งสำรองในระดับสูงเพื่อรองรับความเสี่ยงล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด แม้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% แต่ถือเป็นไปตามกรอบที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 213.7% “เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกยังเปราะบางและคาดว่าจะขยายตัวในระดับต่ำ แม้จะมีแรงหนุนจากฐานที่ต่ำมากในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ หากมองไปในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มอ่อนแอเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรงและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นำไปสู่การบังคับใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) ในบางพื้นที่ ซึ่งจะกระทบต่อการใช้จ่ายของภาคเอกชนให้มีแนวโน้มชะลอตัวลงยิ่งกว่าเดิม และเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้” นายศักดิ์ชัย กล่าว ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อและรุนแรงมากกว่าที่คาดนี้ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันการณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและกลุ่มรายย่อย โดยแนวทางที่ทิสโก้ให้ความช่วยเหลือจะอยู่ในรูปแบบของการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การปรับลดค่างวด การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ การปรับวิธีผ่อนชำระแบบขั้นบันได เป็นต้น ในส่วนของลูกค้าธุรกิจยังให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และสินเชื่อฟื้นฟูของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอนุมัติวงเงินแล้วจำนวน 4,000 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้ารายย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ หากทำการปรับโครงสร้างหนี้แล้วยังผ่อนชำระไม่ไหว สามารถนำรถมาคืนในโครงการพิเศษ “คืนรถจบหนี้” ได้ โดยลูกค้าต้องผ่อนชำระมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด และหากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด ทิสโก้จะยกหนี้ให้ทั้งหมด โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ไม่มีค่าธรรมเนียม และระบุสถานะเป็นปิดบัญชี ทำให้ลูกค้าจะไม่เสียประวัติเครดิตและไม่มีภาระหนี้ผูกพันในระยะยาว ซึ่งไม่เพียงแต่แก้ปัญหาให้ลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จในภาวะวิกฤต ในอนาคตยังมีโอกาสกลับมาทำธุรกรรมขอสินเชื่อได้ใหม่ ซึ่งเอื้อให้เกิดผลดีต่อระบบโดยรวม ทั้งการลดจำนวนคดีที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาล การจบปัญหาหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่…
ซิกน่าประกันภัย ผู้นำทางด้านการประกันสุขภาพระดับโลก ตอกย้ำจุดมุ่งหมายของแบรนด์ในการสร้างโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงการประกันสุขภาพได้อย่างง่ายดาย ในราคาที่เอื้อมถึง เพื่อสร้างเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างรอบด้านให้แก่คนไทย เปิดตัวแผนประกันความคุ้มครองใหม่ล่าสุด Cigna Select Care Immunotherapy (ซิกน่า ซีเล็คแคร์ อิมมูโนเทอราพี) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘มะเร็งมา เจ็บปวดน้อยกว่า ด้วยการรักษาทางเลือกใหม่’ ให้ความคุ้มครองการรักษามะเร็งด้วยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ภายใต้วงเงินสูงสุดถึง 5,000,000 บาท โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงปีละ 744 บาท เท่านั้น ในปัจจุบัน การรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นการรักษาด้วยการฉายแสง (Radiotherapy) หรือการทำคีโม (Chemotherapy) ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อรอบ ๆ เซลล์มะเร็ง เนื่องจากรังสีที่ใช้ในการทำลายเซลล์มะเร็งนั้น สามารถส่งผลต่อเนื้อเยื่อปกติได้ ทั้งนี้ด้วยนวัตกรรมการวิจัยทางการแพทย์ จึงเกิดการรักษามะเร็งรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ถือเป็นการรักษาแบบทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงและมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่า เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งสามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้ โดยหลักการในการรักษา คือการให้ผู้ป่วยได้รับยาภูมิคุ้มกันบำบัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเซลล์มะเร็งที่เป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยาภูมิคุ้มกันบำบัดนี้ ยังได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา ประเทศไทย และได้ผ่านการวิจัยและรับรองคุณภาพจากบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกอีกด้วย นายธีรวุฒิ สุธนะเสรีพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิกน่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากซิกน่าเล็งเห็นถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป และจำนวนสถิติตัวเลขของผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี เราจึงต้องการยกระดับการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถอุ่นใจว่าหากโรคที่ไม่คาดฝันมาเยือน เราจะดูแลลูกค้าของเราอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ ด้วยนวัตกรรมการรักษามะเร็งด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก จนทำให้ผู้ป่วยบางส่วนไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไหว เราจึงนำจุดนี้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อลดความกังวลในด้านค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ไม่เพียงเท่านี้ เรายังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้าได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง” ความพิเศษของแผนประกัน ซิกน่า ซีเล็คแคร์ อิมมูโนเทอราพี (ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง) ให้ความคุ้มครองสูงสุดภายใต้วงเงินถึง 5 ล้านบาท ครอบคลุมค่ายารักษาภูมิคุ้มกันบำบัดตามรายการที่แพทย์สั่ง และค่าใช้จ่ายในการตรวจตัวชี้วัดทางชีวภาพ (Biomarker test) โดยเริ่มคุ้มครองตั้งแต่อายุ 20 ปี ถึง 65 ปี และสามารถถือกรมธรรม์ต่อเนื่องจนถึงอายุ 75 ปี ถือเป็นแผนที่ตอบโจทย์ต่อลูกค้าทุกกลุ่ม และเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการรักษาได้อย่างแท้จริง ผู้ที่สนใจซื้อแผนประกันความคุ้มครองซิกน่า ซีเล็คแคร์ อิมมูโนเทอราพี (ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3kdGn8C หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook CignaThailand หรือ โทร 02-035-2929 (วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลาทำการ 9.30 – 18.00 น.)
บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ กับหัวข้อ “ไขรหัส สุขภาพกายมั่นคง สุขภาพเงินมั่งคั่ง ปี 2564” โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจากคุณปิติ ธนวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มเครือข่ายนครหลวง ธนาคารฯ กล่าววัตถุประสงค์ และกล่าวเปิดงาน พร้อมกันนี้มีหัวข้อสัมมนาพิเศษ “ศาสตร์ลายเซ็นต์เสริมชะตา” โดยอาจารย์เป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร ซินแสชื่อดังด้านโหราศาสตร์ และ “สุขภาพดีเริ่มต้นที่การป้องกัน ดูแลตัวเองอย่างไรในช่วง COVID-19” โดยแพทย์หญิง กชกร เจริญผลพิบูลย์ จาก BDMS Wellness Clinic รวมถึง “สุขภาพดี การเงินมั่นคง ชีวิตที่คุณเลือกได้” โดยคุณนุชจรี เศรษฐีธร จาก กรุงไทย-แอกซ่า อะคาเดมี่ โดยในงานได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้าร่วมชมสัมมนาออนไลน์มากกว่า 300 ท่าน ซึ่งกิจกรรมได้สร้างความสุข พร้อมให้ความรู้ และเคล็ดลับด้านการเงิน และสุขภาพแก่ลูกค้าของเรา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
“สินมั่นคง” อ้างสถานการณ์โควิด-19 ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง และไม่รู้ว่าสถานการณ์จะลงเอยอย่างไร จึงบอกเลิกกรมธรรม์ เจอ จ่าย จบ หรือ covid 2 in 1 คาดส่งผลกระทบต่อวิกฤติศรัทธาของระบบประกันภัยทั้งระบบ ในแถลงของบริษัทระบุว่า “ด้วยผลสืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จึงนับเป็นภาวะวิกฤตด้านสาธารณสุขในระดับที่ท้าทายจนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปสู่จุดใด ส่งผลให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ต้องบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ และจำเป็นต้องใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรนาแบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ตามแบบและข้อความ หมวดที่ 2 เงื่อนไขทั่วไป และข้อกำหนด ข้อ 2.4.3 และข้อ 2.5.1 โดยให้กรมธรรม์ประกันภัยข้างต้นสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับ เมื่อล่วงพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันได้รับหนังสือเป็นต้นไป และบริษัทฯ จะคืนค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้รับมาแล้วแก่ผู้เอาประกันให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยสิ้นผลบังคับ โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วนการตัดสินใจดังกล่าว บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและเฝ้าติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความห่วงใยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทบทวนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจ และการกำหนดทางเลือกและแนวทาง ที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อให้ความคุ้มครองและดูแลลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของบริษัทฯ อันได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุและการเดินทาง และประกันภัยอื่นๆ ได้อย่างดีที่สุดและยั่งยืนในระยะยาว” ข้อมูลเพิ่มเติม SMK Line Official @smkinsurance หรือ โทร.1596
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รวมโปรโมชัน Take Away สำหรับร้านอาหารจีนยอดนิยม อาทิ หงเปา / ติ่น ไท่ ฟง / รอยัล คิทเช่น / ครัวเจ๊ง้อ / ดินส์ / หวัง เจีย ชา และบุญตงกี เพื่ออำนวยความสะดวกให้สมาชิกอิ่มอร่อยสุดคุ้มที่บ้าน ดังนี้ 1. หงเปา ให้สมาชิกแลกรับส่วนลด 28% สำหรับเซ็ต Hong Bao Take Away Buffet Dim Sum มูลค่า 748 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี 538 บาทและใช้ 999 คะแนน KTC FOREVER พิเศษ เมื่อซื้อ 2 เซ็ต รับฟรี เป็ดย่างหงเปาไซส์ S มูลค่า 400 บาท ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 – 8 สิงหาคม 2564 2. ติ่น ไท่ ฟง รับทันที ซุปเสฉวน 1 ถ้วย มูลค่า 119 บาท เมื่อสั่งอาหารครบ 799 บาทขึ้นไปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2564 นอกจากนี้สามารถใช้ 1,000 คะแนน KTC FOREVER แทนเงินสด 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564 3. รอยัล คิทเช่น ให้สมาชิกคุ้มค่า 2 ต่อ ต่อที่ 1 ส่วนลด 30% สำหรับเมนูเป็ดปักกิ่ง กุ้งมังกร ติ่มซำ (วันจันทร์ – วันศุกร์) ส่วนลด 30% สำหรับติ่มซำ (วันจันทร์ – วันศุกร์) หรือส่วนลด 15% สำหรับติ่มซำ (วันเสาร์-วันอาทิตย์) และส่วนลด 10% สำหรับเมนู A la carte และเครื่องดื่ม ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ต่อที่ 2 แลกรับเพิ่มเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิป (ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้งที่มียอดใช้จ่ายภายในวันเดียวกัน) ) พิมพ์ DN1 เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรฯ 16 หลัก และเครื่องหมาย # ตามด้วยยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป พร้อมจุดทศนิยม ส่ง SMS มาที่ 061 384 5000 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 – 31 ธันวาคม 2564 4. ครัวเจ๊ง้อ มอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อให้สมาชิก ต่อที่ 1 ส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร ต่อที่ 2 แลกรับเพิ่มเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิป ณ สาขาที่ร่วมรายการ (ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้งที่มียอดใช้จ่ายภายในวันเดียวกัน) พิมพ์ DN1 เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรฯ 16 หลัก และเครื่องหมาย # ตามด้วยยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป พร้อมจุดทศนิยม ส่ง SMS มาที่ 061 384 5000 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 – 30 กันยายน 2564 5. ดินส์ รับทันทีส่วนลด 5% เมื่อสั่งอาหารครบ 400 บาทขึ้นไป หรือ แลกรับส่วนลด 25% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิป (1 สิทธิ์ ต่อ 1 เซลส์สลิป) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 – 31 ตุลาคม 2564 6. หวัง เจีย ชา มอบสิทธิพิเศษ 2 ต่อให้สมาชิก ต่อที่ 1 รับฟรี ซุปเสฉวน มูลค่า 150 บาท เมื่อสั่งอาหารครบ 1,000 บาท ขึ้นไป ต่อที่ 2 แลกรับเพิ่มเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิป (ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้งที่มียอดใช้จ่ายภายในวันเดียวกัน) พิมพ์ DN1 เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรฯ 16 หลัก และเครื่องหมาย # ตามด้วยยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป พร้อมจุดทศนิยม ส่ง SMS มาที่ 061 384 5000 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 – 31ธันวาคม 2564 7. บุญตงกี ให้สมาชิก ต่อที่ 1 รับส่วนลด 10% เฉพาะค่าอาหาร เมื่อสั่งอาหารครบ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อเซลส์สลิป ต่อที่ 2 แลกรับเพิ่มเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิป ณ สาขาที่ร่วมรายการ (ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้งที่มียอดใช้จ่ายภายในวันเดียวกัน) พิมพ์ DN1 เว้นวรรคตามด้วยหมายเลขบัตรฯ 16 หลัก และเครื่องหมาย # ตามด้วยยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป…