Close Menu
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
YouTube
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
Login
YouTube Facebook
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
Facebook YouTube

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในร้านค้าปลีกมากขึ้น ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมและผู้ประกอบการต้องปรับตัวตาม

staffBy staffJuly 14, 2024
Stylish Japanese Young Woman Interacting with Augmented Reality Platform in a Technologically Advanced Room with Futuristic Cyberpunk City in the Background. Beautiful Girl Doing Online Shopping

เทคโนโลยีกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในร้านค้าปลีกทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น ผู้ประกอบการอาจนำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านค้าปลีกและสร้างความมั่นใจว่าเทคโนโลยีสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยกระตุ้นยอดขาย SCB EIC ได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในร้านค้าปลีก อาทิ Self-checkout, Chatbot / Chat & Shop และ AR/VR พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่รู้จักและเคยใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาก่อน สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้จักเทคโนโลยีในร้านค้าปลีกมากกว่าครึ่งมีความสนใจที่จะทดลองใช้ โดยเลือกทดลองเทคโนโลยีที่ซับซ้อนน้อยกว่า

  • ผู้บริโภคที่รู้จักกับเทคโนโลยีร้านค้าปลีกส่วนมากเคยใช้เทคโนโลยีในการซื้อสินค้าแต่อีกราว 18% ไม่เคยใช้งานมาก่อน ซึ่งเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้อยากทดลองใช้งานมากที่สุด ได้แก่ Self-checkout, AR/VR และ Pick-up picture และหากต้องการให้คนกลุ่มนี้ใช้งาน จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน มีคำแนะนำชัดเจน และมีความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
  • แม้ผู้บริโภคจะเคยใช้เทคโนโลยีในการซื้อสินค้าแล้ว แต่ยังคงกังวลเรื่องความยุ่งยากในการใช้งานและความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากที่สุด ขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มอายุน้อยกังวลเรื่องความยุ่งยากในการใช้งาน ปัญหาทางเทคนิคและความไม่เสถียรของระบบก็เป็นอุปสรรคสำคัญ เทคโนโลยีในร้านค้าปลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Self-checkout, Chatbotและ Interactive screen ซึ่งมีความซับซ้อนในการใช้งานน้อยกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า นอกจากการอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าแล้ว เทคโนโลยีต้องใช้งานง่าย จึงจะได้รับความนิยมในการใช้งาน
  • ผู้บริโภคเคยใช้เทคโนโลยี Self-checkout มากที่สุด และส่วนใหญ่ต้องการให้มีในร้าน Grocery โดยเฉพาะ Supermarket ในขณะที่กลุ่ม Non-grocery ต้องการให้มีในห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ดี ปัญหาหลักที่พบคือการใช้คูปองส่วนลดต่าง ๆ ส่วนChatbot เป็นเทคโนโลยีที่มีผู้บริโภคเคยใช้รองลงมา แต่พบปัญหาจากความสามารถของ Chatbot ที่ค่อนข้างจำกัด โดยผู้บริโภคต้องการให้พัฒนาความสามารถมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ราวครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างเคยใช้เทคโนโลยี AR/VR แต่ให้ความเห็นว่าเป็นเทคโนโลยีที่ยุ่งยากและซับซ้อนในการใช้งาน

การนำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านค้าปลีกควรพิจารณาความซับซ้อนและการใช้งานง่ายเพื่อให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

  • หากกลุ่มลูกค้าเป็น Gen X และผู้สูงวัยที่ไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยี ควรเลือกเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนและใช้งานง่าย เช่น Self-checkout ที่มีคำแนะนำชัดเจนและมีพนักงานพร้อมให้ความช่วยเหลือ แต่หากกลุ่มลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ควรนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น AR/VR และ Interactive screen มาใช้ พร้อมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน ในทางกลับกันหากกลุ่มลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ผู้ประกอบการสามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความซับซ้อน เช่น AR/VR มาใช้ได้ อีกทั้ง ร้านค้าควรพัฒนาความสามารถของเทคโนโลยีให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Self-checkout ควรปรับปรุงระบบให้รองรับการใช้คูปองและการชั่งน้ำหนัก เป็นต้น
  • เมื่อเจาะลึกไปในปัญหาของการใช้ Retail tech ชนิดต่าง ๆ แล้ว SCB EIC เสนอแนะการปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการและนำ Retail tech มาใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้ 1. เทคโนโลยี Self-checkout ควรมีในร้านกลุ่ม Grocery โดยเตรียมระบบให้รองรับการใช้คูปองและส่วนลดได้ และมีเซนเซอร์วัดน้ำหนักสินค้าเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้บริโภคพบ 2. เทคโนโลยี  Chatbot แม้มีผู้ใช้เป็นจำนวนมากแต่ยังมีข้อจำกัดในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความสามารถในการเข้าใจภาษาที่ซับซ้อน อีกทั้ง การแก้ปัญหาของ Chatbot ยังค่อนข้างจำกัด ร้านค้าอาจเตรียมระบบแจ้งเตือนให้มีเจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้โดยเร็ว 3. เทคโนโลยี AR/VR อาจจะยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และยังพบปัญหาในการใช้งานหรือมีความซับซ้อนในการใช้งาน ควรนำไปใช้ในร้านค้าที่มีกลุ่มลูกค้าที่มีความคุ้นชินกับเทคโนโลยี เช่น Gen Y และ Z เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยเหมาะกับสินค้าที่ต้องการให้เห็นภาพเสมือนจริง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า

แนวโน้มเทคโนโลยียังคงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการค้าปลีกในระยะข้างหน้า ซึ่งหากร้านค้าปลีกสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและเพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้าจะส่งผลให้ร้านค้าปลีกสามารถเติบโต และช่วยกระตุ้นยอดขาย อีกทั้ง ยังสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพื่อให้มีการกลับมาใช้บริการซ้ำในอนาคตอีกด้วย

อ่านต่อรายงานฉบับเต็ม… https://www.scbeic.com/th/detail/product/retail-tech-100724

SCB EIC
Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email WhatsApp Copy Link
Previous Articleทิพยประกันภัย ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารผู้ทรงคุณวุฒิ อบรมหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 12
Next Article สมาคมศิษย์เก่าวิศวเกษตรระดมสมองกูรู AI พร้อมเปิดโฉม 25 ปัญญาประดิษฐ์รางวัลระดับโลก

Related Posts

กลุ่มดุสิตธานี เผยแผน 9 ปีเข้าสู่ช่วง “ปลดล็อคมูลค่า” เตรียมรอรับรู้รายได้เรสซิเด้นท์ที่ขายไปแล้วถึง 90%

June 15, 2025

โค้งสุดท้ายโปรโมชันงาน Welfare Marketing Beyond 2025 สนใจจองสิทธิ์ผ่าน Line GHB Buddy ได้ถึงวันที่ 14 มิ.ย. 68

June 14, 2025

ธ.ทิสโก้ชี้ ! จังหวะนี้ต้องลงทุน Global Bond เพิ่มโอกาสสร้างกำไร 8% ช่วงเศรษฐกิจถดถอย – ไม่หวั่นเจรจาภาษีสหรัฐฯ

June 12, 2025
Contact Us

โทร : 0816229144
อีเมล์ : mooprawit@hotmail.com

Social online
Facebook YouTube

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?