Close Menu
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
YouTube
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
Login
YouTube Facebook
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
Facebook YouTube

อ่านกลยุทธ์ KTC บนวิถี Infinite Game

adminBy adminMay 13, 2021

การแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิตค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ความยากเพิ่มเป็นทวีคูณ ในฐานะผู้เล่นหลักในธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” ไม่อาจหยุดนิ่ง ก้าวย่างสำคัญคือการขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อ เพื่อสร้างโอกาสสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเบ็ดเสร็จครบวงจร

นอกจากนี้ยังเตรียมศึกษาโมเดลธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน หลังการเข้าถือหุ้นใหญ่เคทีบี ลีสซิ่ง เน้นกำไรโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และสานต่อการพัฒนาคน นำเทคโลโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับธุรกิจ ปรับให้คนกับเทคโนโลยีทำงานร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความสำเร็จ

เปิดแนวรบ Infinite Game

ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทีซี” กล่าวว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 และมาตรการต่างๆ ของหน่วยงานภาคกำกับที่ปรับเปลี่ยนต่อเนื่อง เป็นตัวกระตุ้นให้แผนยุทธศาสตร์ของเคทีซีในปี 2564 นี้ ต้องเร่งเปลี่ยนแปลงองค์กรแบบก้าวกระโดด สร้างโอกาสธุรกิจใหม่ให้เคทีซีเติบโตได้มากขึ้นและเร็วขึ้น คู่ขนานไปกับการทำธุรกิจเดิม เน้นทำกำไรแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างคลื่นใต้น้ำจนเป็นพลังคลื่นลูกใหญ่รับเกมธุรกิจที่ไม่มีวันสิ้นสุด (Infinite Game)

ทั้งนี้เคทีซีจะมุ่งขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันที่หลากหลาย เพื่อให้เคทีซีเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดที่ผู้บริโภคมองหา ซึ่งการเข้าถือหุ้นในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด หรือ เคทีบี ลีสซิ่ง ถึง 75.05% จะทำให้เคทีซีสามารถทำธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งทุกประเภท ต่อยอดธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันได้อย่างครบวงจร และยังได้ใช้ประโยชน์จากสาขาและฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม โดยบริษัทฯ จะเข้าไปศึกษาระบบในเคทีบี ลีสซิ่ง และคาดว่าจะเริ่มออกแบบโมเดลธุรกิจได้หลังจากผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น

สำหรับธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เคทีซี พี่เบิ้ม” ถึงแม้จะเป็นธุรกิจน้องเล็กที่เพิ่งเข้ามาเมื่อปลายปี 2563 แต่ ระเฑียร บอกว่าจะมุ่งขยายตลาดเป็นหลักในปี 2564 ด้วยความที่เป็นสินเชื่อมีหลักประกันซึ่งมีความสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนรวดเร็วสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์ มีทีมงาน “พี่เบิ้ม Delivery” ติดต่อประสานงานกับลูกค้าเป้าหมายโดยตรง พร้อมแผนขยายพื้นที่ให้บริการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น เริ่มต้นที่ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนบนและภาคใต้ตอนบน อีกทั้งร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจและธนาคารกรุงไทยขยายฐานสมาชิกและออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ ตลอดจนร่วมมือกับ เคทีบี ลีสซิ่ง เพื่อหาโอกาสต่อยอดและสนับสนุนธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถร่วมกัน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์ที่ดี ด้วยเป้าหมายยอดสินเชื่อในปี 2564 ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ในส่วนของธุรกิจเดิมซึ่งเป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ระเฑียร กล่าวว่า เคทีซีจะมุ่งรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ที่ดี เน้นรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติการและระบบไอทีที่มีเสถียรภาพ เพื่อให้สมาชิกเกิดความมั่นใจและได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยทุกครั้งที่ทำรายการธุรกรรม โดยกลยุทธ์หลักในการทำตลาดธุรกิจบัตรเครดิต จะยังใช้คะแนน KTC FOREVER ขับเคลื่อนกิจกรรมการตลาด เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการใช้จ่ายผ่านบัตร อีกทั้งรักษาและขยายความแข็งแรงของเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้า เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร และสนับสนุนการเติบโตของพันธมิตรด้วยผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเคทีซี เน้นส่งเสริมการตลาดในลักษณะออนไลน์มากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้บัตรของผู้บริโภคปัจจุบัน ที่เปลี่ยนจากใช้เงินสดมาจ่ายผ่านบัตรเครดิต รวมถึงสร้างคอนเทนท์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านช่องทางสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายยอดใช้จ่ายในปี 2564 เติบโต 8% หรือประมาณ 210,000 ล้านบาท

ในขณะที่ธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะใช้กลยุทธ์การตลาดสร้างความผูกพันกับฐานสมาชิกเดิม วางตัวเป็นบัตรกดเงินสดใบแรกที่ลูกค้านึกถึงเมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน โดยออกแคมเปญแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้สมาชิกมีวินัยการชำระเงิน อีกทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้บริการทางออนไลน์มากขึ้น ด้วยจุดเด่น “รูด โอน กด ผ่อน” ภายในบัตรเดียว กับบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” 24 ชั่วโมงแบบเรียลไทม์เข้าบัญชีธนาคารได้ถึง 13 ธนาคาร และบริการเพิ่มวงเงินฉุกเฉินหรือขอรหัสเบิกถอนเงินสดที่ทำรายการได้เองตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้แล้ว ระเฑียร กล่าวว่า เคทีซียังเดินหน้าสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดสัมมนาให้ความรู้การเงิน และคอนเทนท์ที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจง่าย รวมทั้งเวิร์คช้อป “สัมมนาพารวย” ที่เน้นการนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้เสริม พร้อมคำแนะนำด้านการคำนวณต้นทุนและวิธีหาช่องทางขายเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต โดยตั้งเป้ารักษายอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลในปี 2564 ให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

สำหรับกลยุทธ์การขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” จะให้ความสำคัญกับการคัดกรองผู้สมัครมากขึ้น เพื่อให้ได้กลุ่มลูกค้าคุณภาพที่ต้องการสินเชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและมีวินัยทางการเงิน ลดความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันและอัตราหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ผ่าน 4 ช่องทางหลักคือ ธนาคารกรุงไทย ผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเคทีซี (อิสระ) ทั่วประเทศ เคทีซี ทัช ทุกสาขา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทางโทรศัพท์ (Telesales) โดยในปี 2564 ตั้งเป้าหมายจำนวนสมาชิกใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือ บัตรเครดิต 235,000 ใบ และสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” 135,000 ราย
ในส่วนของการขยายฐานร้านค้ารับบัตรเคทีซี จะเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งธนาคารกรุงไทยและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าถึงร้านค้าขนาดกลาง ร้านค้าขนาดเล็กและร้านค้าออนไลน์ รองรับการทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ และโซเชียล คอมเมิร์ซ รวมถึงเพิ่มช่องทางรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน Link Pay และสแกน QR Code ที่ลูกค้าสามารถทำรายการธุรกรรมได้ง่ายด้วยตนเอง รวดเร็วและสะดวกทุกที่ทุกเวลา”

ในส่วนขององค์กร เคทีซี ยังคงเดินหน้าสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ในองค์กรต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคนเคทีซีให้เตรียมพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงและการขยายธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งเสริมให้คนทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวไปกับองค์กรทุกสถานการณ์ ทั้งเรื่องของดิจิทัล การรีสกิลและอัพสกิลในเนื้องาน โดยพนักงานสามารถเลือกเรียนรู้ได้เองตามความสมัครใจ “อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ ยังต้องประเมินผลกระทบต่อเนื่องเป็นระยะ โดยคาดว่าสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดยังมีอยู่และอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจัดสัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นมากขึ้น และระดมเงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 12,000 ล้านบาท ในช่วงอายุที่สั้นลงจากเดิม เพื่อรองรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปี 2564 และการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อบริษัทฯ โดยจะเน้นการบริหารต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสำคัญ และบริหารพอร์ตลูกหนี้โดยรวมให้มีคุณภาพที่ดี โดยคาดว่าในปี 2564 บริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตของกำไรในระดับที่ยอมรับได้และดีกว่าปีที่ผ่านมา” ระเฑียร กล่าว

เปิดตัวเลขไตรมาสแรกปี 64

ระเฑียร กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วงต้นปี 2564 ยังคงเติบโตเล็กน้อย ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน และการลดเพดานอัตราดอกเบี้ย โดยเคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมสำหรับสองเดือนแรกของปี 2564 เท่ากับ 13.6% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ลูกหนี้บัตรเครดิตขยายตัวที่ 3.7% มากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 0.8% และมีสัดส่วนของลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 5.0%

สำหรับผลการดำเนินงานของเคทีซีในช่วงไตรมาสแรก (1 มกราคม 2564-31 มีนาคม 2564 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 1,634 ล้านบาท ขยายตัว 23.6% จากไตรมาส 4/2563 และใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2563 ที่ 1,641 ล้านบาท (ลดลง -0.4%) ยอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 86,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) 1.9% (ไตรมาส 4/2563 เท่ากับ 1.8%) ผลจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง ฐานสมาชิกรวม 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,544,635 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 57,393 ล้านบาท NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.4% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่ากับ 48,420 ล้านบาท พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซีเท่ากับ 809,981 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,461 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.9%

ไตรมาส 1/2564 เคทีซีมีรายได้รวม 5,320 ล้านบาท ลดลง -6.2% (ไตรมาส 1/2563) จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการใช้จ่าย และมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยในการลดเพดานดอกเบี้ยทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) อยู่ที่ 3,357 ล้านบาท ลดลง -7.1% แบ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจบัตรเครดิต 1,604 ล้านบาท และธุรกิจสินเชื่อบุคคล 1,753 ล้านบาท ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวมรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) มีมูลค่า 1,082 ล้านบาท ลดลง -8.6% จากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้า รายได้ค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ รายได้ค่าธรรมเนียม Interchange Fee และรายได้ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ลดลง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมที่เคทีซีได้รับจากร้านค้าผู้รับชำระบัตรเพิ่มขึ้น 3.5%

“และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ บริษัท ทริส เรตติ้ง จำกัด ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตของเคทีซีเป็น AA- จาก A+ เมื่อต้นเดือนเมษายน 2564 ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งด้านการจัดหาเงินทุนให้บริษัทฯ สามารถรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ใหม่ ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงได้อีก โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) เท่ากับ 23,260 ล้านบาท มีต้นทุนการเงินอยู่ที่ 2.64% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.43 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า”

Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email WhatsApp Copy Link
Next Article อลิอันซ์ อยุธยา พาน้องเที่ยวบางกอก New Normal ท่องเที่ยวผ่านรายการ “ยังไกด์ พาเที่ยวบางกอก”

Related Posts

บัตรเครดิต ttb ร่วมกับ ปั๊มบางจาก เติมน้ำมันสุดคุ้ม รับเครดิตเงินคืนตลอดปี 2568

January 3, 2025

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง AIS มอบความอุ่นใจรับเทศกาลปีใหม่ ผ่าน “กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่สุขกายสุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์)”

December 28, 2024

กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จัดโปรส่งความสุข รูดช้อปรับคุ้ม รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%

December 25, 2024
Contact Us

โทร : 0816229144
อีเมล์ : mooprawit@hotmail.com

Social online
Facebook YouTube

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?