Close Menu
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
YouTube
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
  • Home
  • Banking
  • Insurance
  • Finance
  • Mutual Fund
  • Next Gen
  • Magazine
  • Insight
  • Global Move
  • Bookmark
  • Log-In
Login
YouTube Facebook
ข่าวการเงิน ธนาคาร และ ประกันภัย
Facebook YouTube

กสิกรไทยและกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน หนุนงานวิจัยหาแนวทางสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ

staffBy staffDecember 22, 2024
กสิกรไทยและกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สนับสนุนคณะนักวิจัยนำโดย Singapore Management University (SMU) ศึกษาการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนในมุมมองของผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย ชี้มาตรการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบสิ่งแวดล้อมของบริษัทเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยอมปรับตัวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรรักษ์โลก ควบคู่กับการใช้มาตรการภาษีคาร์บอนซึ่งมีผลโดยตรงต่อต้นทุนธุรกิจ นอกจากนี้การสนับสนุนจากภาครัฐ สินเชื่อสีเขียว รวมถึงการสนับสนุนเรื่ององค์ความรู้ ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ผู้บริหารเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ธุรกิจไทยบนเวทีโลก
ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็น Global Agenda ที่ทั่วโลกเร่งแก้ไข ประเทศไทยก็มีเครื่องมือเชิงนโยบายที่ภาครัฐนำมาใช้ควบคุมบริหารจัดการปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พ.ร.บ. Climate Change ที่คาดว่าจะบังคับใช้ในปี 2569 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ อาจส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงจำนวน 14 อุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 6.5 ล้านล้านบาท หรือ 37% ของ GDP โดย พ.ร.บ. ในหมวดที่ 9 เกี่ยวกับระบบภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) จะทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เนื่องจากเป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งหากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้ได้ตามแผนในปี 2569 ไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากสิงคโปร์ที่ประกาศใช้มาตรการนี้ในอาเซียน
ดังนั้นธนาคารจึงผลักดันให้ภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านด้วยการสนับสนุนทุกมิติทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และการให้บริการโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร นำมาสู่การสนับสนุนคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย เพื่อจัดทำงานวิจัยศึกษาการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอน ภายใต้ทุนวิจัยจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund: CMDF) ซึ่งธนาคารจะนำผลการวิจัยนี้มาต่อยอดเพื่อใช้วางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และหาแนวทางเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้ธุรกิจไทยยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งบนเวทีโลก
นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวเพิ่มเติมว่า CMDF มีนโยบายสนับสนุนงานวิจัยด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องผ่านสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน (Capital Market Research Institute: CMRI) เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการทำวิจัย ด้วยการสนับสนุนทุนวิจัยและส่งเสริมการดำเนินการด้านต่างๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการพัฒนาตลาดทุนโดยรวม ได้แก่ โครงการทดลองเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุน ESG Bond โครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียนนำร่อง และโครงการให้ทุนสนับสนุนการเรียนหลักสูตรความยั่งยืนระดับสากลเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในตลาดทุน ปี 2564 – 2569 และล่าสุดได้สนับสนุนคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียเพื่อศึกษาโครงการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและหาแนวทางที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้และดำเนินการในบริษัทหรือองค์กร เกี่ยวกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์อย่างยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการวางแผนกำหนดนโยบายและมีส่วนช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยปรับเปลี่ยนเพื่อเดินหน้าสู่ Net Zero ตามเป้าหมายประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.จิรพล จิยะจันทน์ จาก Lee Kong Chian School of Business, Singapore Management University (SMU) เสริมว่า ปัจจุบันกว่า 70 ประเทศทั่วโลกเริ่มดำเนินการกำหนดราคาคาร์บอนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท สำหรับประเทศไทยก็มีร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาการกำหนดราคาคาร์บอน แต่พบว่าองค์ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนภายใต้ระบบการกำหนดราคาคาร์บอนและการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมยังมีจำกัด
คณะวิจัยประกอบด้วย ศาสตราจารย์ ฮันตง ตัน จาก Nanyang Technological University ดร.ภัทรวรรณ ประสานพานิช จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.เอกภัทร มานิตขจรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และธนาคารกสิกรไทย โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund: CMDF) จึงจัดทำวิจัยเชิงพฤติกรรมกับผู้บริหารระดับสูงจากธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ 117 ราย โดยให้ผู้บริหารเลือกตัดสินใจลงทุนระหว่างโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแต่ขาดทุนระยะสั้นกับโครงการที่ทำกำไรแต่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้สถานการณ์จำลองระหว่างมีมาตรการเก็บภาษีคาร์บอนและมาตรการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน
ผลการวิจัยพบว่าผู้บริหารส่วนใหญ่ตัดสินใจลงทุนในโครงการที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงขึ้นหากมีการใช้มาตรการภาษีคาร์บอนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมองว่าเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายในการปล่อยคาร์บอนที่จ่ายไปแล้วจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนทำโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีก ในทางกลับกันผู้บริหารจะตัดสินใจลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเมื่อต้องมีการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสให้ธุรกิจและลดแรงกดดันทางสังคม นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริหารกลุ่มนี้มีการตระหนักรู้ถึงปัญหาและให้ความสําคัญกับการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการบังคับใช้มาตรการทั้งสองอย่างควบคู่ไปกับการสนับสนุนองค์ความรู้จะทำให้ภาคธุรกิจยอมปรับสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำมากขึ้น นอกจากนี้ผลวิจัยยังชี้ว่าผู้บริหารกว่า 60% ที่ตัดสินใจลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต้องการแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อสีเขียว หรือการสนับสนุนจากภาครัฐ
งานวิจัยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของภาครัฐและเอกชนในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ การจัดเก็บภาษีคาร์บอนและการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นแนวทางผลักดันภาคธุรกิจให้ปรับตัวด้านความยั่งยืนได้จริง ผู้สนใจศึกษาผลการวิจัยใจฉบับเต็มสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ https://www.cmri.or.th/uploads/images/CMRI_Publication/1722504272Final%20Report_CMDF%200085-2566%20_Thai_V17.pdf
ธนาคารกสิกรไทย
Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email WhatsApp Copy Link
Previous ArticleSAM คัดทรัพย์เด่นเพื่อที่อยู่อาศัยบนทำเลดีทั่วประเทศ มูลค่ารวม 60 ลบ. เปิดประมูลราคาพิเศษโดยเฉพาะ วันที่ 7 ม.ค. 68
Next Article บัตรเครดิต ttb Global House มอบโปรโมชันสุดคุ้มสำหรับคนรักบ้าน รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 162,000 บาท

Related Posts

กลุ่มดุสิตธานี เผยแผน 9 ปีเข้าสู่ช่วง “ปลดล็อคมูลค่า” เตรียมรอรับรู้รายได้เรสซิเด้นท์ที่ขายไปแล้วถึง 90%

June 15, 2025

โค้งสุดท้ายโปรโมชันงาน Welfare Marketing Beyond 2025 สนใจจองสิทธิ์ผ่าน Line GHB Buddy ได้ถึงวันที่ 14 มิ.ย. 68

June 14, 2025

แรบบิท ประกันชีวิต ฉลองครบรอบ 28 ปี มอบดีลวันเกิดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก Rabbit Life MYRewards เท่า

June 14, 2025
Contact Us

โทร : 0816229144
อีเมล์ : mooprawit@hotmail.com

Social online
Facebook YouTube

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Sign In or Register

Welcome Back!

Login to your account below.

Lost password?